โน๊ตบุ๊คและโน๊ตบุ๊คเล่นเกมแตกต่างกันอย่างไร เลือกใช้ยังไงให้เหมาะสม

ที่มา Canva

คำถามคาใจของใครหลายคนอย่างกับโน๊ตบุ๊คและโน๊ตบุ๊คเล่นเกมแตกต่างกันอย่างไร เพราะไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา การออกแบบและดีไซน์ รวมไปถึงการพกพาไปใช้งานในที่ต่าง ๆ นั้น พร้อมด้วยคุณสมบัติในการใช้รวมไปถึงสเปกภายใน ก็เรียกได้ว่าทั้ง โน๊ตบุ๊ค และโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งนั้น แทบจะไม่แตกต่างกันเลย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่หลายคนจะเกิดคำถามขึ้นมาในหัวว่ามันแตกต่างกันอย่างไงบ้าง แล้วจะต้องเลือกใช้ยังไงเพื่อให้เหมาะสมกับสิ่งที่เรานั้นจะนำไปใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเอาไปทำงานหรือว่าเล่นเกมก็ตาม บทความนี้มีคำตอบครับ ไปดูกันเลย

ที่มา https://www.asus.com/th/laptops/for-gaming/tuf-gaming/2021-asus-tuf-gaming-f17/

การ์ดจอ

เรื่องแรกเลยที่ทำให้การใช้งานโน๊ตบุ๊คกับโน๊ตบุ๊คเล่นเกมนั้น เรื่องแรกที่สามารถทำให้แยกได้อย่างชัดเจนนั้นก็ได้แก่ การ์ดจอ เพราะสำหรับโน๊ตบุ๊คที่มีไว้สำหรับการทำงานทั่วไปนั้น การ์ดจอจะเป็นแบบออนบอร์ด ที่ให้ภาพสวยงามตามพอดี แต่ไม่ถึงกับขนาดที่ดูแล้วรู้สึกว่าสวยตระการตา แต่ในขณะที่ gaming notebook นั้นจะมาพร้อมกับการ์ดจอแยกที่พร้อมให้ประสิทธิภาพของหน้าจอนั้นสูงที่สุด สามารถเรียกเอาความสวยงามสะท้อนเข้าสู่ดวงตาของผู้ใช้งานมากที่สุด อีกทั้งยังมาพร้อมกับความลื่นไหล ไม่ต้องห่วงเลยว่าตัวภาพนั้นจะไม่ได้รับการถ่ายทอดออกมาไม่ดี คุณจึงสามารถดื่มด่ำกับงานภาพได้อย่างเต็มที่ และนี่เองที่ทำให้ตัวของโน๊ตบุ๊คสำหรับเล่นเกมดูโดดเด่นกว่าโน๊ตบุ๊คทำงานในเรื่องของภาพ แต่สำหรับโน๊ตบุ๊คที่เอาไว้ใช้งานในการทำแบบกราฟิกตัวการ์ดจอนี้ก็มีผลสำคัญเช่นกัน ดังนั้นอย่าลืมตัวสอบงานที่เรานั้นจะเอามาใช้งาน เพื่อจะได้มองหา

ที่มา https://www.lenovo.com/th/en/d/deals/think_series/?tabkey=ThinkPad

อัตรารีเฟรช

อีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับงานภาพอย่างที่สุดนั้นก็ได้แก่ อัตรารีเฟรชของหน้าจอ ซึ่งเป็นค่าที่จะทำให้ตัวภาพนั้นไม่มีกระตุก ภาพจะถูกแสดงออกมาได้อย่างลื่นไหล ดูแล้วไม่ติดขัด ช่วยเพิ่มอรรถรสสำหรับการรับชมได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งตัวอัตรารีเฟรชนั้นเป็นตัวสำคัญในการเล่นเกมเพราะยิ่งมีค่านี้สูง ภาพในเกมก็จะยิ่งไหลลื่น สามารถเล่นได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีการกระตุกมาทำให้ความสนุกนั้นต้องสะดุด แต่สำหรับโน๊ตบุ๊คทำงานนั้นจะให้ค่าอัตรารีเฟรชที่ต่ำกว่า ส่วนใหญ่แล้วจะให้ไม่เกินประมาณ 60Hz ไม่ว่าจะเป็น โน๊ตบุ๊ค lenovo, Dell, HP ที่ได้ผลิตโน๊ตบุ๊คสำหรับการทำงานนั้นต่างก็มีค่าอัตรารีเฟรชประมาณ 60Hz ถึง 75Hz ทั้งสิ้น เพราะเพียงเท่านี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานในการทำงานแล้ว ส่วนโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งนั้นก็เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็ม อย่างโน๊ตบุ๊ค lenovo ที่เป็นแบบเกมมิ่งก็อัดอัตรารีเฟรชมาให้ตั้งแตา 120Hz จนถึง 165Hz เพื่อการเล่นเกมกันอย่างเต็มที่เลยทีเดียว

ที่มา https://www.acer.com/us-en/predator/laptops/triton/triton-16/

ระบบระบายความร้อน

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เครื่องโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งนั้นโดดเด่นเหนือโน๊ตบุ๊คทำงานก็คือ ระบบระบายความร้อน โดยตัวของเครื่องเกมมิ่งนั้นจะมีการใช้ระบบระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยมกว่า พัดลมตัวใหญ่กว่า รวมถึงบางแบรนด์นั้นยังใช้โลหะเย็น พร้อมกับมีดีไซน์ช่องระบายอากาศที่ใหญ่ เพื่อให้ตัวความร้อนนั้นสามารถถ่ายเทได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าตัวเกมนั้นจะมีกราฟิกที่สูงขนาดไหน ตัวเครื่องก็แทบจะไม่ถูกความร้อนจากภายในทำให้คุณภาพของการเล่นเกมนั้นตกหล่นเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งตัวเครื่องของโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งจะไม่เกิดอาการโอเวอร์ฮีทจนคุณภาพของเครื่องนั้นตกหล่นจนพังในที่สุด

ที่มา https://www.acer.com/us-en/laptops/nitro/nitro-16-intel

ดีไซน์และน้ำหนัก

อีกหนึ่งสิ่งที่มองด้วยตาเปล่าแล้วเห็นถึงความแตกต่างของโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งกับโน๊ตบุ๊คธรรมดานั้นก็คือ รูปลักษณ์ของตัวเครื่องที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างกัน หากมองพิจารณาดี ๆ แล้วนั้นตัวโน๊ตบุ๊คธรรมดาจะมีดีไซน์ที่เรียบเงียบ พร้อมด้วยขนาดที่กะทัดรัด สามารถพกพาได้อย่างสะดวกเพราะว่ามีน้ำหนักที่เบา อย่างโน๊ตบุ๊ค lenovo yoga ที่เป็นรุ่นยอดนิยมสำหรับคนทำงานก็มีดีไซน์ที่เรียกได้ว่าเบาบาง สามารถถือเดินไปเดินมาได้อย่างสะดวก ให้พกใส่กระเป๋าก็ทำได้อย่างประหยัดพื้นที่ แต่ว่าในส่วนของโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งนั้นจะมาพร้อมกับดีไซน์ที่เหมาะสมกับการเป็นเกมเมอร์ ด้วยความเท่และดูล้ำสมัย แต่ก็มาพร้อมกับน้ำหนักที่มากขึ้น ทำให้ในเรื่องของการพกพานั้นไม่สามารถที่จะทำได้อย่างถนัด ซึ่งใครที่พกพาไปนั้นก็ระวังในเรื่องของอาการปวดไหล่กันด้วยละครับ

ที่มา https://www.acer.com/us-en/laptops/nitro/nitro-16-intel

ไฟ RGB

และสิ่งที่บ่งบอกความเป็นเกมมิ่งเกียร์นั่นก็คือ ไฟ RGB ที่โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งนั้นจะมีไฟอยู่ที่คีย์บอร์ด หรือบางรุ่นนั้นก็มีไฟอยู่ทั่วตัว เพื่อทำให้การเป็นเกมมิ่งเกียร์นั้นสมบูรณ์ พร้อมทั้งสามารถตกแต่งสีไฟได้อย่างเต็มที่เพื่อให้คุณนั้นได้ใช้ไฟที่เป็นตัวตนของคุณที่สุด เพื่อเอาไปใช้ในการตกแต่งโต๊ะเกมของเหล่าเกมเมอร์นั้นสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นครับ แต่กลับกันแล้วตัวของโน๊ตบุ๊คธรรมดานั้นจะมีแค่ไฟสีเดียว หรือไม่มีไฟมาให้เลยก็ได้ เพราะฉะนั้นแล้วในเรื่องไฟ RGB นั้นจึงเป็นถึงอีกจุดหนึ่งที่สามารถเอาไว้แยกโน๊ตบุ๊คและโน๊ตบุ๊คเล่นเกมให้แตกต่างกันได้เป็นอย่างดีเลยครับ

และนี่ก็คือ โน๊ตบุ๊คและโน๊ตบุ๊คเล่นเกมแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งหากใครได้อ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็คงจะเห็นถึงความแตกต่างกันไปแล้ว ส่วนการเลือกใช้ยังไงให้เหมาะสมนั้นก็ต้องดูว่า เราจะซื้อโน๊ตบุ๊คมาใช้ทำอะไร ไว้สำหรับเล่นเกม หรือ เอาไว้ใช้สำหรับทำงาน ถ้าตอบคำถามข้อนี้ของตัวเองได้แล้วละก็ คุณก็จะสามารถเลือกใช้งานโน๊ตบุ๊คที่สามารถตอบสนองความต้องการของคุณเองได้มากที่สุดเลยละครับ