ย้อนไปเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2535 อันเป็นวันที่วงการเพลงลูกทุ่งต้องสูญเสีย พุ่มพวง ดวงจันทร์ ซึ่งสื่อมวลชนเป็นผู้ตั้งสมญานามให้เธอเป็น ราชินีลูกทุ่ง ต่อจาก ผ่องศรี วรนุช ผู้ได้ชื่อว่าเป็น ราชินีลูกทุ่งตลอดกาล สาเหตุของการเสียชีวิตของพุ่มพวงมาจากโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อทางการแพทย์ว่า SLE โดยในครั้งนั้นศพของพุ่มพวงตั้งอยู่ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม บางขุนพรหม กรุงเทพฯ ซึ่งเหล่าญาติสนิทมิตรสหายและผู้เกี่ยวข้องเคารพพุ่มพวง ร่วมจัดงานศพให้เธออย่างสมเกียรติ เป็นเวลา 9 คืน ตั้งแต่วันที่ 14-22 มิถุนายน จากนั้นทางสมาคมดนตรีฯ ได้ดำเนินการทำหนังสือขอพระราชทานเพลิงศพและกราบบังคมทูลอันเชิญ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชทานเพลิงศพ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ในวันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม ณ เมรุลอย วัดทับกระดาน ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับอัญเชิญเสด็จพระราชทานเพลิงศพในครั้งนั้น
ต่อมานายไกรสร แสงอนันต์ สามีของพุ่มพวง ก็ได้บวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับพุ่มพวง ณ วัดเฉลิมพระเกียรติ จ.นนทบุรี และเมื่อเสร็จสิ้นจากการฌาปนกิจศพพุ่มพวง ดวงจันทร์ นายไกรสร แสงอนันต์ ได้นำเถ้าอัฐิของราชินีลูกทุ่งท่านนี้ ไปเก็บบรรจุไว้ที่วัดเฉลิมพระเกียรติซึ่งตนบวชอยู่ หลังจากนั้นราวปี 2546 ท่านพระครูสิริบุญญาภินันท์ อดีตเจ้าอาวาสวัดกลางบางซื่อองค์เก่า ได้ไปขอเถ้าอัฐิของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ส่วนหนึ่งจากวัดเฉลิมพระเกียรตินำมาเก็บไว้ที่วัดกลางบางซื่อ และต่อมาพระอธิการศรีมอย พทิสาโร เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน จึงได้สร้างศาลขึ้นเพื่อไว้เป็นที่บรรจุเถ้าอัฐิของราชินีลูกทุ่งผู้ล่วงลับ ศาลพุ่มพวง ดวงจันทร์ ซึ่งตั้งอยู่ในวัดกลางบางซื่อแห่งนี้ แม้จะเป็นเพียงศาลเล็ก ๆ แต่ก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าศาลที่วัดทับกระดาน จ.สุพรรณบุรี เนื่องจากศาลที่ตั้งอยู่ในวัดกลางบางซื่อเป็นที่เก็บเถ้ากระดูกของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่แม้แต่วัดทับกระดานซึ่งเป็นวัดที่ทำการฌาปนกิจศพพุ่มพวงก็ไม่มี
ด้วยเหตุนี้ เมื่อข่าวการสร้างศาลเก็บบรรจุเถ้ากระดูกของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่วัดกลางบางซื่อถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำให้บรรดามิตรรักแฟนเพลงของราชินีลูกทุ่งผู้โด่งดัง ต่างก็เดินทางหลั่งไหลมาขอโชคลาภเลขเด็ดจากศาลแห่งนี้อยู่ไม่ขาดสาย ภายในศาล นอกจากโกศบรรจุเถ้าอัฐิพุ่มพวง ดวงจันทร์แล้ว ยังมีเสื้อผ้าแพรพรรณ เครื่องสำอาง เครื่องใช้สำหรับสุภาพสตรี ที่บรรดาผู้โชคดีถูกหวยรวยเบอร์จากการมาขอเลขเด็ดศาลพุ่มพวงนำมาถวาย อีกทั้งยังมีเครื่องเสียงขนาดเล็กที่ติดตั้งอยู่ในศาล เปิดบรรเลงเพลงไพเราะอมตะอันเป็นผลงานของราชินีลูกทุ่งผู้ล่วงลับตลอดเวลาด้วย จากการพูดคุยกับชาวบ้านใกล้เคียงทำให้ทราบว่า ศาลพุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่วัดกลางบางซื่อ เริ่มเป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้นเมื่อบรรดาคอหวยในละแวกนั้น ได้เข้ามาจุดธูปบนบานศาลกล่าวต่อดวงวิญญาณพุ่งพวง ดวงจันทร์ โดยเลขเด็ดที่ได้ส่วนมากจะมาจากการเขย่ากระบอกเซียมซีเสี่ยงทาย
บางรายก็เดินทางมาบนบานในเรื่องอื่น ๆ เช่นขอให้ได้รับความสำเร็จในหน้าที่การงาน ขอให้ธุรกิจที่ดำเนินอยู่ได้รับความเจริญก้าวหน้า ซึ่งไม่ว่าจะบนบานในเรื่องใดก็ตามส่วนใหญ่ก็มักจะสำเร็จผลสมความปรารถนาด้วยกันทั้งสิ้น เมื่อผู้ที่ไปขอเลขเด็ดหรือไปบนบานศาลกล่าวต่อศาลสัมฤทธิ์ผลสมประสงค์ ต่างก็จะพากันเดินทางมาแก้บนตามที่ได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ ส่วนผู้ที่ร่ำรวยจากหวยศาลพุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่วัดกลางบางซื่อ ก็จะนำเครื่องใช้เสื้อผ้าแพรพรรณมาถวายให้ที่ศาลเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งต่อมาทางวัดจะต้องนำออกไปเก็บรวบรวมไว้ที่อื่นหรือบริจาคให้กับคนยากคนจนผู้ขาดแคลนไปหลายต่อหลายรอบแล้ว แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ได้พบกับความสมหวังจากการมาบนบานศาลกล่าว ณ ศาลเล็ก ๆ แห่งนี้
เมื่อผู้คนเหล่านั้นได้มีโอกาสเดินทางมาถึงวัดกลางบางซื่อเพื่อมาบนบานศาลกล่าวต่อดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของราชินีลูกทุ่งคนดัง ต่างก็จะได้รับทราบเรื่องราวความแปลกนานัปการจากปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อพระกาฬและหลวงพ่อโต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่วัดกลางบางซื่อมาช้านาน นอกเหนือจากความศักดิ์สิทธิ์ของศาลพุ่มพวง ดวงจันทร์ ไปในคราวเดียวกัน จึงยิ่งทำให้ต้องรู้สึกทึ่งกับปรากฎการณ์เหนือบทพิสูจน์ต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้น ณ วัดแห่งนี้ หนึ่งในปาฎิหาริย์ความศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่รู้จักกันดีก็คือ ปาฏิหาริย์หลวงพ่อโต พระพุทธรูปซึ่งไม่ยอมให้ผู้ใดมาสร้างหลังคาครอบคลุมองค์ท่าน แม้ว่าจะมีความพยายามที่จะสร้างหลังคาบังแดดบังฝนให้กับองค์ท่านมาหลายครั้งแล้วก็ตาม หลวงพ่อโต นับเป็นพระพุทธรูปสำคัญอันเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของชาวบ้านย่านวัดกลางบางซื่ออีกองค์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 6 เมตร สูง 8 เมตร สร้างในสมัยพระอธิการอยู่เป็นเจ้าอาวาส
กล่าวกันว่าอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์ของหลวงพ่อโต เคยปรากฎประจักษ์แก่ผู้คนที่เข้าไปกราบนมัสการองค์ท่านหลายต่อหลายครั้งแต่นั้นยังไม่เท่ากับความแปลกเหนือคำบรรยายเกี่ยวกับกรณีที่มีการเล่าต่อ ๆ กันมาว่า หลวงพ่อโตท่านไม่ชอบให้ผู้ใดมาทำการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงองค์ท่าน หรือแม้แต่อาณาบริเวณอันเป็นที่ประดิษฐานองค์ท่านก็ตาม เคยมีผู้พยายามสร้างหลังคาครอบคลุมเหนือองค์ท่านมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เคยมีใครสามารถกระทำได้สำเร็จ เนื่องจากผู้คนที่คิดจะทำเช่นนั้นจะต้องได้พบกับอุปสรรคนานาประการทั้งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เช่นครั้งหนึ่งได้มีผู้มีจิตศรัทธาอยากสร้างหลังคาครอบคลุมเหนือองค์หลวงพ่อโต ซึ่งแต่เดิมประดิษฐานอยู่ในที่โล่งแจ้งหน้าพระอุโบสถ เมื่อคิดดังนั้นจึงเริ่มทำการก่อสร้าง แต่ปรากฎว่าการก่อสร้างดำเนินไปได้เพียงไม่นานเท่าใดนักก็ได้เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น
Credit : ปางบรรพ์ , Pailin , matichon.co.th , komchadluek.net , innnews.co.th
by Admin Park
