ชาวอินเดียนับถือพระยานาคมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ มีดินแดนกว้างใหญ่ไพศาล จนได้ชื่อว่าเป็นทวีปหนึ่ง คือ ชมพูทวีป เป็นภูมิภาคศูนย์กลางแห่งลัทธิศาสนามาก่อนสมัยพระพุทธเจ้าหลายพันปี มีระบบศีลธรรมสูงส่ง และมีวิทยาการหลากหลาย เป็นที่ชุมนุมแห่งนิยายปรัมปราและวรรณคดีตลอดจนถึงศิปกรรมต่าง ๆ
ที่ประเทศอินเดียในสมัยโบราณไม่ใช่เป็นประเทศป่าเถื่อนอินเดียได้เจริญยิ่งแล้วในวิทยาการทั้งหลายเป็นต้น เรื่องจักรวาลวิทยา เรื่องวิญญาณ เรื่องจิตและเจตสิก แม้กระทั่งเรื่องรามายณะหรือรามเกียรติ์ ที่นักปราชญ์เข้าใจว่าเป็นเพียงนิยายที่แต่งได้ดีเหลือเกินนั้น นักวิทยาศาสตร์ในสมัยปัจจุบันได้ค้นพบว่าศรที่พระรามแผลงไป ที่มาของพระรามแผลงศร นั้นเอง เผาผลาญเป็นเพลิงมหากาฬใหญ่หลวงแม้แต่วัชพืชก็ถูกเผาไหม้เหี้ยนเตียนโล่งราบไปหมด ที่แท้ไม่ใช่ลูกศรธรรมดา แต่เป็นพวกจรวดพิเศษขนาดเล็ก ติดหัวระเบิดนิวเคลียร์ แสดงถึงคนอินเดียในสมัยนั้นมีความรู้ความฉลาดขั้นสูงพอ ๆ กับชาวทวีปแอตแลนติกสมัยหมื่นกว่าปีมาแล้ว
ดังนั้นเรื่องพญานาคที่ชาวอินเดียนับถือจึงน่าจะมีความจริงและขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องเกินความจริงอยู่ไม่น้อย สันนิษฐานว่าคงมีการเขียนเติมแต่งให้พิสดารมหัศจรรย์ เพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ เพราะคนอินเดียในสมัยนั้นนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น การบูชาเทวดาหรือเทพเจ้าผู้สร้างโลก และบูชาเทวดาประจำธาตุต่าง ๆ เป็นต้น ชาวอินเดียที่นับถือศาสนาพราหมณ์ฮินดูเรียกงูเห่าว่า นาคา หรือ นาค นับถือนาคมานับพัน ๆ ปี ก่อนสมัยพุทธกาลสะอีก จนในสมัยปัจจุบันนี้ก็ยังนับถือกันอยู่เป็นประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณ เรียกพิธีนี้ว่า นครปัญจมี โดยมีการเลี้ยงงูเห่าในเดือนกุมภาพันธ์ทุกปี และในเดือนกรกฎาคมก็มีพิธี นาควิธานำ แต่งเครื่องบูชามีขนมของกินและดอกไม้ธุปเทียนกระทำการบูชา พญาเศษนาคราช โดยพราหมณ์เจ้าพิธีจะเขียนรูปพญาเศษนาคราชมี 8 หาง เมื่อบูชานั้นก็จะต้องปิดประตูพระราชวังและประตูบ้านเรือนทุกแห่ง
วันประกอบพิธีถือเอาวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 9 หรือเดือนกรกฎาคมการบูชานี้จะมีผลให้ปลอดภัยจากพิษงูทั้งหลาย เพราะพญาเศษนาคราชเป็นเจ้าเป็นใหญ่เหนืองูทุกชนิด เมื่อคนใดเอ่ยชื่อพญานาคราชและบูชาพญานาคราชแล้ว จะทำให้บรรดางูทั้งหลายเมตตา รักใคร่ ไม่กล้าทำอันตราย ขืนทำอันตรายก็จะถูกพระพญานาคราชลงโทษเอา ตามตำนานโอปปาติกะกล่าวว่า พญาเศษนาคราชมีกายใหญ่โตมหึมา มีความยาวไม่สิ้นสุด มีศีรษะถึง 1,000 เป็นบังลังก์ ให้พระนารายณ์ประทับ พญาเศษนาคราชนี้เป็นตัวเดียวกันกับอนันตนาคราชและวาสกินาคราช เป็นโอรสของท้าวกัศยะและนางกัทรุมีมเหสีชื่ออนันตศรีษา มีเมืองอยู่ในบาดาล มีหน้าเป็นคน มีหางเป็นงู เป็นพวกกึ่งเทวดา มีฤทธิ์มาก แปลงกายได้ทุกอย่าง
พญาเศษนาคราชนี้ได้แบ่งภาคอวตารติดตามพระนารายณ์อยู่เสมอ เมื่อพระนารายณ์อวตารเป็นพระราม พญาเศษนาคราชอวตารเป็นพระลักษณ์ เมื่อพระนารายณ์อวตารเป็นพระกฤษณะ พญาเศษนาคราชก็อวตารเป็นพลราม เป็นที่น่าประหลาดว่าในเทศกาลบูชางูหรือนาคานี้ งูพิษจะออกจากที่ซ่อนมากินอาหารเครื่องเช่นสังเวย อันมีน้ำนมสดและขนมต่าง ๆ นั้น จะมีความเชื่องไม่ดุร้ายเลย แม้แต่เด็ก ๆ ก็สามารถแตะต้องตัวเล่นกับงูได้โดยมันไม่กัด ฝรั่งที่ไปสังเกตการณ์อธิบายว่า เหตุที่งูออกมากินเครื่องเช่นสรวงบูชานั้น เป็นเรื่องของสื่อสัมพันธ์ทางจิตที่มีมานานระหว่างคนกับผู้นับถือกับงู จนเกิดความคุ้นเคยกัน งูจึงไม่กัด
นอกจากอินเดียจะนับถืองูพิษหรือนาคาแล้วชาติอื่นก็นับถือบูชานาคเช่นเดียวกัน มีประเทศเนปาล ภูฐาน พม่า มอญ ลาว เขมร ส่วนประเทศจีนและเวียดนามนั้นนับถือบูชามังกร ถ้าว่าไปแล้วมังกรกับพญานาคนั้นเป็นพวกเดียวกัน แต่ชาติพันธุ์ต่างกันไปบ้างเป็นต้น ว่า งูมีหงอนก็มี งูไม่มีหงอนก็มี งูก็มีขาก็มี งูไม่มีขาก็มี มังกรเป้นงูประเภทมีขามีเล็บแหลมคม มีลำตัวยาวเหยียด มีฤทธิ์เหมือนพญานาคของอินเดียก็ คือ สามารถพ่นไฟได้เหมือนกัน ที่เรียกว่ามังกรพ่นไฟ
ส่วนมังกรคาบแก้วนั้น พญานาคของอินเดียก็มี แก้ววิเศษประจำตัวของพญานาคดังในเรื่อง พญานาคภูริทัตโพธิสัตว์ นั้นแก้ววิเศษของพวกนาคบริวารเป็นเหตุแท้ ๆ ทำให้พรานป่าทรยศต่อพญานาคภูริทัต โดยบอกให้พราหมณ์อาลัมพายนะหมองูไปจับเอาพญานาคภูริทัตมาทรมานเกือบตาย
Credit : นรเศรษฐ์ , Pailin , oknation.nationtv.tv , mthai.com
by Admin Park