8 วิธีการเลือกซื้อปลั๊กไฟฟ้าให้เหมาะสมและคุ้มค่า
1. พิจารณาความต้องการของอุปกรณ์ที่ต้องการใช้ปลั๊กไฟ ทำการตรวจเช็คจำนวนอุปกรณ์ที่จุดความต้องการใช้ ว่ามีความจำเป็นในการใช้เท่าใด มีกี่จุดที่ต้องการใช้ และรูปแบบใดที่จะสะดวกต่อการใช้ที่สุด เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อปลั๊กไฟ
2. ตรวจสอบพื้นที่และสภาพแวดล้อมในการใช้งานปลั๊กไฟ จุดที่ต้องการใช้มีความร้อน หรือความชื้น หรือสามารถเกิดเป็นอันตรายเข้ามากระทบผู้ใช้ปลั๊กไฟหรือคนรอบข้างมากน้อยเพียงใด
3. คำนวณกำลังไฟที่ต้องการใช้กับปลั๊กไฟ ตรวจสอบและพิจารณาอุปกรณ์ ณ จุดการใช้ว่าเป็นอุปกรณ์ประเภทใดกินกำลังไฟขนาดไหน หากไม่มากเป็นจำพวกอุปกรณ์ทั่งไปภายในบ้าน เช่น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องเสียง ที่กินไฟไม่มากนั้น ก็เลือกใช้ในส่วนของ ปลั๊กไฟแบบ 2500W หรือ 10A ส่วนถ้าหากเป็นอุปกรณ์ที่กินกำลังไฟสูง เช่น เครื่องซักผ้า เตารีด หรือเครื่องชงกาแฟ ก็ให้พิจารณาเลือกใช้ ปลั๊กไฟแบบ 3500W หรือ 16A เพื่อความเหมาะสมกับการใช้งาน
4. เลือกจำนวนช่องของเต้ารับที่ต้องการใช้ เลือกปลั๊กไฟที่มีจำนวนช่องของเต้ารับที่เหมาะกับการใช้งาน ณ จุดความต้องการใช้ ว่ามีพื้นที่ขนาดใดและจำนวนช่องที่จะใช้มากน้อยเพียงใด เพื่อทำการเลือกขนาดความยาวหรือสั้นของปลั๊กไฟ รวมถึงการเลือกจำนวนช่องของเต้ารับด้วยเช่นกัน
ADVERTISING
5. เช็คความยาวของสายไฟที่ต้องการใช้ เมื่อทราบขนาดและจำนวนช่องของปลั๊กไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็มาทำการเลือกขนาดความยาวของปลั๊กไฟที่ใช้ต่อพวงว่าจ้องมีขนาดความยาวในการใช้ ณ จุดต้องการใช้ ว่าจำเป็นและเหมาะสมที่กี่เมตร โดยมีขนาดสายให้เลือกใช้มากมาย เช่น ขนาดสายยาว 1เมตร 3เมตร 5เมตร หรือ 10เมตร หรือมากกว่า เป็นต้น
6. ประโยชน์ใช้สอยเสริม(เพิ่มเติม)ที่ติดมาในตัวปลั๊กไฟ ตรวจสอบความต้องการเพิ่มเติม ณ จุดใช้งานว่าเป็นจุดใด ต้องการเพิ่มเติมความต้องการใช้ในส่วนใดของปลั๊กไฟอีกหรือไม่ เช่นถ้าเป็นกรณีโต๊ะทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ อาจมีความจำเป็นในการใช้ชาร์ตแบตเตอรี่โทรศัพท์ ก็สามารถเลือกซื้อปลั๊กไฟที่มีช่องเสียบต่อ USB เพื่อสามารถทำการชาร์ตไฟให้แก่โทรศัพท์เมื่อมีความจำเป็นได้ หรือจะเป็นในส่วนของการเพิ่มเติมในเรื่องของดีไซน์ความสวยงามแปลใหม่ การมีระบบป้องกันไฟดูด ระบบป้องกันฟ้าผ่า ระบบตัดไฟ หรือ ปลั๊กไฟในรูปแบบสวิตซ์แยก ก็มีมากมายให้เลือกสรรกันในปัจจุบัน
7. คุณภาพและราคาที่ต้องการ เมื่อรู้ข้อมูลความต้องการดังกล่าวแล้ว จากนั้นก็มาทำการพิจารณาเงินในกระเป๋ากับคุณภาพที่ต้องการให้ลงตัวกัน โดยพิจารณาจากความจำเป็นใช้ที่แท้จริงและความปลอดภัยเป็นหลักก่อนในเบื้องต้น
8. แบรนด์ยี่ห้อจำเป็นหรือไม่ เมื่อกำหนดราคาซื้อและคุณภาพที่ต้องการได้แล้วนั้น แบรนด์ยี่ห้อก็จะมาเป็นตัวเลือกสำคัญที่จะทำการตัดสินใจในการซื้อปลั๊กไฟ เพราะคุณภาพ ราคา และความน่าเชื่อถือของวัสดุ ความมั่นใจในความปลอดภัยของสินค้า ตลอดจนถึงการบริการหลังการขาย ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับแบรนด์ยี่ห้อ และสถานที่ ที่คุณจะไปเลือกซื้อด้วยเช่นกัน แต่สืบเนื่องจากในปัจจุบันราคาของปลั๊กไฟด้อยคุณภาพนั้นมีราคาที่ถูกมากจนผู้ซื้อทำการเลือกใช้โดยขาดการพิจารณาถึงความปลอดภัยและความจำเป็นใช้อย่างแท้จริงออกไป ซึ่งไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีนักต่อผู้ใช้ที่อยู่ในประเทศที่มีฤดูร้อนและฤดูฝนเป็นหลัก โดยคุณภาพของวัสดุและความปลอดภัยที่คุณจะเลือกใช้น่าจะมีความสำคัญมากกว่าราคา (โดยอาจไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์ที่นิยมก็ได้ หากคุณทำการตรวจสอบและพิจารณาคุณสมบัติในด้านการใช้งานและความปลอดภัยแล้วว่า อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้มีมาตรฐานรองรับตลอดจนเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ)
โดยในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าปลั๊กไฟก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว เพราะในบ้านใครบ้างที่ไม่มีปลั๊กไฟ? หากมีก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น! ดังนั้นการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งานและปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งตัวคุณเองควรต้องเรียนรู้ในการตรวจดูคุณภาพของสินค้าตลอดจนอ่านฉลากและพิจารณามาตรฐานของสินค้าและผลิตภัณฑ์ให้เป็นก่อนทำการตัดสินใจเลือกซื้อสิ่งของใดๆในแต่ละครั้งอันจะเป็นประโยชน์ยิ่งกับตัวคุณนั่นเอง
----------------------------------------------------------------------------
Cr : Wong / Picture : toshinolive
- ถุงซองนิโคติน (Nicotine Pouches) คืออะไร!?
- Snus (สนูส) คืออะไร!?
- โน๊ตบุ๊คและโน๊ตบุ๊คเล่นเกมแตกต่างกันอย่างไร เลือกใช้ยังไงให้เหมาะสม
- depa x TGA ดีป้า (depa) จับมือ ทีจีเอ (TGA ) บูรณาการความร่วมมือ ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมเกม (Digital Content)
- กิจกรรมการอบรมการถ่ายภาพเบื้องต้น WORLD YOUTH PHOTOGRAPHER WORKSHOP