8 วิธีเลือกใช้พาวเวอร์แบงค์สำรองไฟฟ้าให้เหมาะกับตัวคุณ

พาวเวอร์แบงค์กับวิธีการเลือกใช้ให้เหมาะกับตัวคุณ เนื่องจากปัจจุบันพาวเวอร์แบงค์ ได้กลายเป็นอุปกรณ์เสริมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสนับสนุนอุปกรณ์สื่อสารเป็นอย่างมากจนแทบจะแยกจากกันไม่ได้แล้ว ดังนั้น การพิจารณาวิธีเลือกใช้พาวเวอร์แบงค์สำรองไฟให้เหมาะกับตัวคุณนั้นก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน ดังนี้ :

1.  ตรวจสอบจำนวนอุปกรณ์และความจุแบตเตอรี่ที่ต้องการใช้พาวเวอร์แบงค์ ทำการพิจารณาความเหมาะสมของการใช้ไฟสำหรับอุปกรณ์ที่คุณใช้ เช่น คุณมีมือถือกี่เครื่อง มีแทปเลทหรืออุปกรณ์อื่นๆด้วยหรือไม่ และตัวแบทที่เครื่องแต่ละเครื่องมีความจุเท่าไร คือต้องทราบจำนวนอุปกรณ์และขนาดการใช้ไฟในแต่ละวันของคุณก่อนในขั้นแรก

2.  เลือกความจุของพาวเวอร์แบงค์ที่เหมาะสม เมื่อทราบรายละเอียดของจำนวนความต้องการในการใช้ไฟเบื้องต้นแล้วจึงมาทำการเลือกความจุของพาวเวอร์แบงค์ ตามความเหมาะสมของการใช้ของตัวคุณเอง ว่าต้องการใช้กับอุปกรณ์จำนวนมากน้อยเพียงใดและต้องการใช้กำลังไฟสำรองเท่าไร เพราะการใช้ไฟนั้นมีความแตกต่างกันไปในแต่ละอุปกรณ์เช่นสมาร์ทโฟน กินกระแสไฟอยู่ที่ประมาณ 0.5-1A ส่วนแท็ปเล็ตก็กินกระแสไฟประมาณ 1-2.1A ซึ่งแตกต่างกันไปโดยสามารถดูได้จากช่องจ่ายไฟที่จะมีกำหนดไว้สำหรับพาวเวอร์แบงค์ที่มีช่องจ่ายไฟเกินกว่า1พอร์ต เป็นต้น

3.  คุณภาพของพาวเวอร์แบงค์ คราวนี้ก็มาพิจารณาถึงคุณภาพของพาวเวอร์แบงค์ที่คุณต้องการใช้ว่ามีความต้องการคุณภาพในระดับใด ซึ่งสามารถพิจารณาไปถึงอุปกรณ์ของคุณด้วยเช่นกันว่าราคาและคุณภาพอยู่ในระดับใด เพราะหากอุปกรณ์ของคุณมีราคาแพงแต่เลือกใช้พาวเวอร์แบงค์ในระดับคุณภาพต่ำแล้วนั้น ค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะตามมาในภายหลังอาจมีมากกว่าก็เป็นได้เช่น ชาร์ตไฟเข้าได้ช้า หรือชาร์ตไฟเข้าได้ไม่พอกับที่อุปกรณ์ต้องการ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่ของคุณเสื่อมไวขึ้นกว่าที่ควรจะเป็นได้

4.  ขนาดและน้ำหนักของพาวเวอร์แบงค์ หลังจากพิจารณาด้านคุณภาพแล้วต่อมาก็คือสิ่งสำคัญยิ่งอีกสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือขนาดและน้ำหนักในการพกพาสำหรับการเดินทางและความสะดวกสบายในการพกพา หยิบใช้ และเก็บรักษา เนื่องจากบางท่านอาจเดินทางด้วยการโดยสารบริการสาธารณะ ,บางท่านเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล , บางท่านเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ , บางท่านขับขี่จักรยาน หรือกระทั่งเดินก็ตาม ก็จะมีความจำเป็นในการเลือกใช้ที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

ADVERTISING

5.  หัวชาร์ตและการเชื่อมต่อเพื่อชาร์ตไฟของพาวเวอร์แบงค์ โดยในปัจจุบันนั้นโดยมากจะเป็นการใช้งานในรูปแบบของ USB ที่สามารถเชื่อมต่อกับสายชาร์ตในแต่ละรุ่นที่คุณใช้ได้ แตกต่างกับสมัยก่อนที่เป็นแบบตายตัว (ซึ่งหากมีการเปลี่ยนมือถือใหม่เร็วขึ้นแบบสมัยนี้ ที่ชาร์ตหรือพาวเวอร์แบงค์สำรองไฟรุ่นเก่าๆนี่คงเต็มบ้านกันเลยทีเดียวเป็นแน่) โดยปัจจุบันนั้นมีการพัฒนาไปไกลถึงการใช้เคสเป็นอุปกรณ์ต่อเชื่อม หรือกระทั่งในรูปแบบของการชาร์ตแบบ WIFI  ก็มีเป็นต้น ดังนั้นช่องของการเชื่อมต่อบนพาวเวอร์แบงค์ที่คุณจะเลือกซื้อก็มีความสำคัญต่อพฤติกรรมการใช้งานของคุณเช่นกัน เพื่อความสะดวกอย่างน้อยก็ควรมีอย่างน้อย 2 ช่อง ก็จะสะดวกอยู่ในกรณีที่จำเป็นต้องแบ่งปันไฟแก่อุปกรณ์ที่มากกว่า 1 เครื่องนั่นเอง และหากเป็นไปได้ก็เลือกใช้หัวชาร์ตที่สามารถใช้ร่วมกันได้หมดสำหรับอุปกรณ์ที่คุณใช้ก็จะเป็นการดีและสะดวกไม่น้อย ซึ่งในปัจจุบันหลายๆท่านก็พิจารณาส่วนของหัวชาร์ตควบคู่ไปกับการพิจารณากำลังไฟของแบตเตอรี่เป็นตัวเลือกนอกเหนือไปจากความชอบในรูปลักษณ์และฟีเจอร์ในการซื้อมือถือเช่นกัน

6.  ระดับราคาที่คุณสามารถจ่ายได้ เมื่อทราบข้อมูลข้างต้นเบื้องต้นเพียงพอสำหรับการเลือกซื้อแล้วนั้น ก็ทำการพิจารณาเลือกซื้อพาวเวอร์แบงค์ที่มีความจุ และคุณภาพตามที่ต้องการ จากแบรนด์และยี่ห้อต่างๆในตลาด ตามกำลังการซื้อที่คุณมี โดยทางเลือกนั้นมีหลาย ไม่ว่าจะเป็นซื้อในห้างสรรพสินค้า ซื้อใน Shop ซื้อในแหล่งค้าส่ง ช็อปปิ้งออนไลน์ หรือโปรโมชั่นตามช่วงของงานนิทรรศการต่างๆที่เกี่ยวข้องเป็นต้น ซึ่งมีให้คุณเลือกทั้งแบรนด์ของญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน จีน ตามกำลังซื้อและราคาที่คุณยินยอมจ่าย

7.  ชนิดแบตเตอรี่ของพาวเวอร์แบงค์ที่เลือกใช้ ซึ่งแบตเตอรี่ที่ผู้ผลิตนิยมเลือกใช้ในการทำก็คือ แบตเตอรี่ ประเภท นิเกิลเมทัลไฮดราย Ni-Mh Battery และ แบตเตอรี่ ประเภท ลิเธียม ไอออน Li-Ion Battery ซึ่งคุณควรต้องทราบว่าตัวแบตเตอรี่ที่คุณซื้อมาเป็นแบบใดจะได้ทำการเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมเพราะ แบตเตอรี่แบบ Ni-Mh Battery นั้นจะใหญ่และหนักกว่า และการใช้ควรใช้ให้หมดก่อนเพื่อไม่ให้แบตเสื่อมเร็ว ส่วนแบตเตอรี่แบบ Li-Ion Battery นั้นจะมีขนาดเล็กและเบากว่า แต่การชาร์ตไฟไม่ต้องรอให้หมดสามารถชาร์ตก่อนที่จะใช้หมด เพื่อไม่ให้แบตเสื่อมเร็ว ดังนั้นจึงควรทราบประเภทของแบตเตอรี่เพื่อทำการใช้งานและดูแลรักษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมที่สุดนั่นเอง

8.  จำนวนของพาวเวอร์แบงค์ที่ควรมี สุดท้ายเมื่อพิจารณาถึงการดำเนินการซื้อในขั้นตอนสุดท้ายแล้วนั้น จำนวนที่ต้องมีของพาวเวอร์แบงค์ที่ควรมีเพื่อใช้งานของแต่ละคน จะขึ้นกับพฤติกรรมการใช้งานบนออนไลน์ การดูหนัง และการเล่นเกมมากที่สุด ซึ่งพอจะบอกเบื้องต้นคร่าวๆได้ว่าคุณควรมีพาวเวอร์แบงค์มากกว่า1เครื่องหรือไม่  ขนาดการใช้จะเล็กหรือใหญ่ หรือจำนวนความจุมีทั้งมากและน้อยเพื่อทำการเลือกใช้ตามแต่ละสถานการณ์และความเหมาะสมในชีวิตประจำวันของคุณ

กล่าวได้ว่าปัจจุบันพาวเวอร์แบงค์ได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ควบคู่ไปกับการใช้มือถือสมาร์ทโฟนหรือแท็ปเล็ต ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการพิจารณาเลือกซื้อและเลือกใช้ให้เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่คุณควรรู้เพื่อ งาน ชีวิตส่วนตัว มือถือ แท็ปเล็ต และการติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวันของคุณให้มีประสิทธิภาพที่สุดนั่นเอง

=============================================

       Cr : Wong / Picture AliExpress WeTERM LinkedIn 11Street