วิธีการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ทางน้ำ (เรือล่ม)
2016-09-23 12:43:00

วิธีการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ทางน้ำ (เรือล่ม)

 

 

Cr. www.krobkruakao.com

 

     อุบัติเหตุทางน้ำอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อแต่ถ้าเรารู้จักป้องกัน ก็จะทำให้ชีวิตของเราปลอดภัยได้ เนื่องจากมีเหตุการณ์เรือล่มหลายต่อหลายครั้งทั่วโลกทำให้ผู้คนเสียชีวิตมากมาย จนกระทั่งล่าสุด เหตุการณ์เรือบรรทุกนักแสวงบุญชาวมุสลิมล่มบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าวัดสนามไชย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก อีกทั้งยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อความปลอดภัย ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้ให้ข้อเสนอแนะในข้อควรปฏิบัติในการโดยสารเรือและการแก้ไขเหตุการณ์ทางน้ำอย่างถูกวิธี ดังนี้

 

#ก่อนลงเรือ

ว่ายน้ำเป็น ให้ลูกหลานเรียนว่ายน้ำ

ดูสภาพเรือว่าไหวไหม ดูตัวเลขจำนวนผู้โดยสารที่ข้างเรือ ดูความเป็นจริงที่เห็นตรงหน้า

ดูสภาพอากาศ คลื่น ลม พายุ อย่าฝากชีวิตไว้กับคนอื่น ตัดสินใจด้วยตัวคุณเอง

#เมื่อลงเรือ

ใส่ชูชีพเถิด ถ้าไม่มี ก็ต้องหาให้ได้ ถามคนขับว่าอยู่ไหน เป็นกฎของกรมเจ้าท่าว่าต้องมีชูชีพพอสำหรับผู้โดยสารทุกคน

ดูสภาพชูชีพว่าเหมาะสมต่อการใช้ ลอยได้แน่ มีนกหวีด ฯลฯ

หากเป็นเด็ก ก็ควรมีชูชีพเด็ก (เตรียมไปเอง)

ดูทางหนีทีไล่ เรือไม่ใช่เครื่องบิน ไม่มีใครสอนว่าทางออกฉุกเฉินอยู่ตรงไหน เราต้องระวังเอง

ทางออกง่ายสุดคือข้างเรือที่โล่ง แน่นอนว่าเราไม่อยากตากแดด แต่จากจุดที่เรานั่ง ลองคิดวิธีว่าจะทำไงให้พุ่งออกไปนอกเรือเร็วสุด (ผมคิดทุกครั้งที่ลงเรือ เจอเหตุเร้าใจบ่อยฮะ)

สังเกตเชือกหรืออะไรที่รุ่มร่าม หลีกเลี่ยงบริเวณนั้น

เลือกที่นั่งออกง่ายสู่ที่เปิดโล่ง

ตั้งสติตอนเรือเข้าออกจากท่า อุบัติเหตุมักมาในเวลาคาดไม่ถึง

เรียกคนที่เป็นห่วงไว้ใกล้กันตอนเรือเข้าออกท่า หรือมองดูไว้ว่าอยู่ตรงไหน

หากพบอะไรผิดปรกติให้รีบแจ้งคนเรือ

#เมื่อเกิดเหตุ

ตั้งสติ อย่าพุ่งไปทางเดียวกัน (เรือโคลงแล้วคนจะแห่กันมาอีกทาง ทำให้พลิกคว่ำ)

ออกจากเรือให้เร็วที่สุด อย่ามัวแต่กรี๊ด

อย่าเพิ่งรีบลงน้ำ ดูให้มั่นว่าเรือจมแน่ แต่ต้องอยู่ในที่โล่ง

หาของที่ลอยน้ำได้มาไว้ใกล้ตัว หากเป็นในทะเล มีน้ำดื่มติดตัวเสมอ

ออกในทางใกล้ฝั่งเข้าไว้ อย่าออกไปทางด้านไกลฝั่ง เราอาจว่ายน้ำไม่ถึง

อย่าว่ายสวนกระแสน้ำเพราะเราสู้ไม่ไหวหรอก ปล่อยตัวลอยไปแล้วว่ายตัดเฉียงเข้าหาตลิ่ง

ดูก่อนว่าตลิ่งตรงที่เราเข้าไปขึ้นไหวไหม บางทีเป็นฝั่งหินชัน มีคลื่นกระแทกชนหิน

อย่าเข้าไปท้ายเรือ เพราะเครื่องอาจทำงานอยู่ ใบพัดอาจหมุน

ถ้ามั่นใจว่าจมแน่ ออกไปให้ห่างเรือเพราะเรืออาจครอบหรือพลิกคว่ำลงมาฟาดกบาลเราจนหมดสติได้

อย่าเข้าไปช่วยคนแบบตัวเปล่า หาของลอยน้ำส่งไปให้เขาเกาะ หรือใส่ชูชีพแล้วเข้าไปช่วย

ช่วยตัวเองให้มั่นใจแล้วค่อยช่วยคนที่ดูแลตัวเองไม่ได้

 

 

Advertising

 

ขั้นตอนโดยคร่าวสำหรับวิธีปฎิบัติก่อนลงเรือ เมื่อลงเรือ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ควรทำอย่างไร

 

Cr. https://www.facebook.com/thon.thamrongnawasawat/posts/1463962573618941?pnref=story

 

 

     ส่วนทางด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสารณภัย (ปภ.) ให้ข้อแนะนำที่ควรปฏิบัติในการโดยสารเรือและการแก้ไขเหตุการณ์ทางน้ำอย่างถูกวิธี ดังนี้

 

ก่อนออกเดินทาง
 
      เลือกโดยสารเรือที่มีสภาพปลอดภัย ไม่มีผู้โดยสารจำนวนมากหรือบรรทุกน้ำหนักเกิน และมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตทางน้ำ อาทิ เสื้อชูชีพ ห่วงยาง ไว้บริการผู้โดยสาร หากว่ายน้ำไม่เป็น ควรแจ้งนายท้ายเรือและผู้ควบคุมเรือทราบ จะได้รับการช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่งกายให้เหมาะสมกับการโดยสารเรือ สวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่อุ้มน้ำและถอดง่าย ไม่สวมรองเท้าหุ้มส้นหรือชนิดผูกเชือก หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน จะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างปลอดภัย
 
 
ขณะเดินทาง
 
     ให้ยืนรอเรือบนฝั่งหรือท่าเทียบเรือ ไม่ยืนรอบนโป๊ะที่มีคนจำนวนมาก เพราะเสี่ยงต่อการเกิดโป๊ะพลิกคว่ำ รวมถึงไม่หยอกล้อเล่นกันระหว่างรอเรือ เพราะอาจพลัดตกน้ำได้ การขึ้น–ลงเรือ ควรรอให้เรือจอดเทียบท่าให้เรียบร้อย จึงเดินขึ้น–ลงเรืออย่างเป็นระเบียบ ไม่ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน เพราะเรือจะรับน้ำหนักข้างเดียวมากเกินไป ส่งผลให้เรือล่มได้ หากเรือมีคนจำนวนมาก ควรใช้บริการเรือลำอื่น
 
 
การโดยสารเรือ
 
     ควรกระจายการนั่งให้เกิดความสมดุล ไม่ยืนบริเวณท้ายเรือ ไม่นั่งบริเวณกราบเรือหรือหลังคาเรือ ไม่นั่งรวมกลุ่มบริเวณข้างใดข้างหนึ่งของเรือ รวมถึงสวมเสื้อชูชีพตลอดเวลาที่โดยสารเรือ หากเกิดเหตุฉุกเฉินเรือล่มหรือพลัดตกเรือ หากเกิดเหตุฉุกเฉินเรือล่มหรือพลัดตกเรือ จะได้พยุงตัวลอยน้ำ รอการช่วยเหลือ
 
 
กรณีเรือเอียงหรือโคลง
 
     ให้ยึดจับพนักที่นั่งให้มั่น พร้อมขืนอาการเอียงของเรือไม่ให้น้ำหนักไปรวมอยู่ทางกราบเรือด้านที่เอียง เพราะจะทำให้เรือล่มได้
 
 
หากพลัดตกน้ำหรือเรือล่ม
 
     ให้รีบว่ายน้ำออกห่างจากเรือ ไม่เกาะกราบเรือที่กำลังแล่น ป้องกันกระแสน้ำดูดเข้าไปใต้ท้องเรือและได้รับอันตรายจากใบพัดเรือ ถอดสิ่งของที่ถ่วงน้ำหนักออก และหาที่ยึดเกาะซึ่งลอยน้ำได้ เพื่อพยุงตัวรอการช่วยเหลือ และลอยไปตามกระแสน้ำ ไม่ว่ายน้ำเข้าฝั่งด้วยตนเอง เพราะเสี่ยงต่อการเป็นตะคริวจมน้ำเสียชีวิตได้
 
 
กรณีโดยสารเรือและพบผู้โดยสารพลัดตกน้ำ
 
     ให้ตะโกนบอกนายท้ายเรือ พร้อมบอกตำแหน่งที่คนพลัดตกน้ำ จะได้ควบคุมเรือไปทางอื่น ป้องกันอันตรายจากใบพัดเรือ โยนอุปกรณ์ช่วยเหลือที่อยู่ใกล้ตัวให้คนตกน้ำใช้ยึดเกาะพยุงตัวรอการช่วยเหลือ
 
 
การช่วยเหลือคนพลัดตกน้ำ
 
     ตะโกนให้ผู้ที่ว่ายน้ำเป็นและแข็งแรงลงไปช่วยเหลือคนตกน้ำ หากไม่มีทักษะไม่ควรลงไปช่วยเหลือคนตกน้ำด้วยตนเอง เพราะจะทำให้จมน้ำเสียชีวิต โยนอุปกรณ์ชูชีพหรือสิ่งของที่สามารถลอยน้ำได้ให้ผู้ตกน้ำยึดเกาะพยุงตัวรอการช่วยเหลือหรือใช้เชือกผูกและดึงตัวคนตกน้ำกลับเข้าฝั่ง ยื่นวัสดุใกล้ตัวให้ผู้ตกน้ำยึดเกาะ โดยผู้ช่วยเหลือควรใช้มืออีกข้างยึดเหนี่ยวกับฝั่งไว้ให้มั่นคง เพื่อป้องกันการพลัดตกน้ำ หากไม่มีที่ดึง ให้กอดหน้าอกคนตกน้ำแล้วพยุงตัวคนตกน้ำ ห้ามช่วยเหลือคนตกน้ำโดให้คนตกน้ำกอดคอ และเกาะหลังผู้ช่วยเหลือ เพราะอาจถูกกอดรัด ทำให้จใน้ำเสียชีวิตทั้งสอนคน
 

 

 

 

     และสำหรับเด็กเล็กที่สามารถทำ Dog paddling ได้ จะสามารถเคลื่อนที่ในน้ำเข้าหาที่ปลอดภัยที่ใกล้ตัวที่สุด ทักษะนี้จะติดตัวน้องๆ ไปตลอดชีวิต ไม่ว่าเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินใดๆ ขึ้นก็ตาม เด็กจะสามารถช่วยเหลือตัวเองในน้ำได้อย่างแน่นอน (ซึ่งการจะทำการเรียนหรือฝึกฝนการเรียนว่ายน้ำให้เด็กตั้งแต่เวลาใดนั้น ก็แล้วแต่การพิจารณาความเหมาะสมของผู้ปกครองหรือครอบครัว)

 

 

 

     จะเห็นได้ชัดว่าการหัดว่ายน้ำให้เป็นตั้งแต่เด็กนั้นสำคัญมากเพียงใด ซึ่งการส่งเสริมให้ลูกเล็กหัดเรียนว่ายน้ำควรจะเลือกโรงเรียนสอนว่ายน้ำสำหรับเด็กที่มีคุณภาพ ซึ่งการสอนให้เด็กว่ายน้ำเป็นตั้งแต่เด็กไม่เพียงแค่ให้ได้เอาตัวรอดจากอุบัติเหตุทางน้ำได้ มันยังช่วยให้เด็กมีภูมิคุ้มกันที่ดีสำหรับเด็กและช่วยทำให้เด็กมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย

 

......................................................................................................................

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เฟชบุ๊ก : Thon Thamrongnawasawat / www.posttoday.com / www.babyswimmingthailand.com 

ทีมงานตาโตเรียบเรียงนำเสนอ


Admin :
view
:
4306

Post
:
2016-09-23 12:43:00


ร่วมแสดงความคิดเห็น