11 อันดับอนิเมชั่นที่ทำรายได้สูงที่สุด

     เด็กหลายๆ คนคงชอบดูการ์ตูนอนิเมชั่นกันปกติอยู่แล้ว รวมถึงผู้ใหญ่หลายๆ ท่านอีกด้วย ที่มีการ์ตูนอนิเมชั่นในดวงใจไม่น้อยเลยทีเดียว แต่หลายๆ ท่านจะทราบหรือไม่ว่าอันดับหนังการ์ตูนอนิเมชั่นที่สามารถสร้างรายได้สูงสุดมีเรื่องอะไรบ้าง ได้รายได้ไปเท่าไหร่ แล้วจะมีเรื่องไหนที่ท่านผู้อ่านชอบอยู่หรือไม่ มาชมกันได้เลยยยยยย

11. Inside Out : มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง (2015)

จากค่าย Pixar / Walt Disney Pictures

Cr. tapemusicandfilm.co.uk

     อนิเมชั่นที่จะทำให้คุณรู้สึกเศร้า อบอุ่น และซึ้งในเวลาเดียวกัน เรื่องราวของ ริลีย์ เด็กหญิงวัย 11 ปี ที่เติบโตขึ้นมาในชีวิตแบบตะวันตกตอนกลาง และจำต้องย้ายบ้านตามพ่อแม่มายังเมืองซาน ฟรานซิสโก หลังจากพ่อของต้องมาเริ่มงานที่ใหม่ ณ เมืองที่ริลีย์ไม่คุ้นเคย ชีวิตของริลีย์ต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เธอต้องปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ที่แตกต่างออกไปจากเดิม และต้องเผชิญกับอารมณ์มากมายที่เข้ามาหลังจากการเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งนี้ของเธอ จนนำมาสู่การแสดงออกทางอารมณ์ต่างๆ ทั้ง 5 ได้แก่ ความสุข (Joy), ความกลัว(Fear), ความโกรธ (Anger ), ความน่ารังเกียจ (Disgust) และความเศร้า (Sadness) โดยอนิเมชั่นเรื่องนี้สามารถทำรายได้ไปทั้งหมด 857 ล้านเหรียญ

10. Ice Age : Continental Drift : ไอซ์ เอจ เจาะยุคน้ำแข็งมหัศจรรย์ 4 กำเนิดแผ่นดินใหม่ (2012)

จากค่าย 20th Century Fox

Cr. zone-anime12.blogspot.com

     อนิเมชั่นภาคต่อสุดฮาที่ยังคงฮิตครองใจของเหล่าคนดู กับเหล่าสหายต่างสายพันธุ์ในยุคน้ำแข็งที่กลับมาผจญภัยใหม่อีกครั้งในภาคที่ 4 เมื่อวีรกรรมสุดป่วนของเจ้าสแครชในการวิ่งไล่ล่าลูกโอ๊คจนทำให้เปลือกโลกเกิดความเปลี่ยนแปลง ภาคพื้นทวีปแยกตัวออกจากกัน การแยกตัวของแผ่นเปลือกโลกที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ กำเนิดแผ่นดินใหม่ จนนำไปสู่การผจญภัยของสามสหายต่างสายพันธุ์อีกครั้งของ แมนนี่, ดิเอโก้  และซิด ทำให้พวกเขาได้กลับไปหาคุณย่าขาขี้โมโหและโจรสลัดทางทะเลที่มุ่งมั่นขวางกั้นการกลับบ้านและครอบครัวของพวกเขา อนิเมชั่นเรื่องนี้สามารถทำรายได้ไปทั้งหมด 877 ล้านเหรียญ และกำลังจะมีภาคที่ 5 Ice age : Collision Course ที่จะฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้

9. Ice Age : Dawn of the Dinosaurs : ไอซ์ เอจ เจาะยุคน้ำแข็งมหัศจรรย์ 3 จ๊ะเอ๋ไดโนเสาร์ (2009)

จากค่าย 20th Century Fox

Cr. www.hdmovieupdate.com

      การกลับมาผจญภัยของเหล่าสหายต่างสายพันธุ์สุดฮาในยุคน้ำแข็งอีกครั้งในภาคที่ 3 โดยภาคนี้ทำรายได้ไปทั้งหมด 886 ล้านเหรียญ เรื่องราวการผจญภัยที่หลงไปในยุคของไดโนเสาร์ โลกที่อยู่ใต้ดินอันกว้างใหญ่ไพศาลที่เต็มไปด้วยเหล่าไดโนเสาร์ล้านปี โลกใบใหม่ที่เขียวชอุ่มที่แตกต่างไปจากสภาพแวดล้อมซึ่งปกคลุมไปด้วยสีขาวของหิมะ และความกว้างใหญ่ไพศาลทำให้ยุคน้ำแข็งบนดินของพวกเขากลายเป็นโลกใบเล็กไปในทันที

8. Shrek 2 : เชร็ค 2 (2004)

จากค่าย Walt Disney Pictures

Cr. www.hdmovieupdate.com

     การกลับมาสร้างความฮาของ เชร็ค เจ้ายักษ์ตัวเขียว และ ด๊องกี้ เจ้าลาคู่หูจอมพูดมาก โดยหลังจากที่ปราบมังกรพ่นไฟ และลอร์ดฟาร์ควอดผู้ชั่วร้ายเพื่อพิชิตใจของ เจ้าหญิงฟีโอน่า เชร็คต้องเจอกันความท้าทายใหม่โดยการเผชิญหน้ากับพ่อตาและแม่ยายของเขา ซึ่งเป็นพระราชาและราชินีแห่งอาณาจักรฟาร์ฟาร์อะเวย์ แต่เมื่อได้เห็นลูกเขยที่เป็นยักษ์ตัวเขียว แผนที่ทำให้เจ้าหญิงฟีโอน่าได้อภิเษกกับเจ้าชายรูปงามจึงไม่สำเร็จ พระราชาจึงต้องการความช่วยเหลือจากนางฟ้าแม่ทูนหัว และ พุสส์ อิน บู้ตส์ แมวน่าฆ่าผู้ไร้ความปราณี เพื่อสร้างตอนจบแบบอย่างมีความสุขในแบบที่เขาต้องการ โดยภาคนี้ทำรายได้ไปทั้งหมด 919 ล้านเหรียญ

7. Finding Nemo : นีโม...ปลาเล็กหัวใจโต๊...โต (2003)

จากค่าย Walt Disney Pictures

Cr. www.disney.co.th

     การผจญภัยสุดซาบซึ้งไปกับ มาร์ลีน (Marlin) พ่อปลาการ์ตูนและ ดอรี่ (Dory) ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้า จอมพูดมากแต่กลับขี้ลืม เพื่อเดินทางออกตามหา นีโม่ (Nemo) ลูกชายเพียงตัวเดียวของเขาที่หายตัวไป อนิเมชั่นการผจญของปลาตัวเล็กที่จะสอนให้คุณซาบซึ้งกับคำว่า “ครอบครัว” และ “ความกล้าหาญ” เป็นเช่นไร อนิเมชั่นที่ได้ใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่โดยกวาดรายได้ไปทั้งหมด 936 ล้านเหรียญ และกำลังจะมีภาคต่อ Finding Dory ผจญภัยดอรี่ขี้ลืม ที่กำลังจะฉายวันที่ 28 กรกฎาคมนี้

6. The Lion King : เดอะ ไลออนคิง (1994)

จากค่าย Walt Disney Pictures

Cr. sixseeds.patheos.com

     เรื่องราวการผจญภัยของ ซิมบ้า ลูกสิงโตเจ้าป่าแห่งพงไพรที่ต้องเติบใหญ่เพื่อรับตำแหน่งเจ้าป่าต่อจาก มุซาฟา ผู้เป็นพ่อ การ์ตูนอนิเมชั่นสุดคลาสสิกลำดับที่ 32 ของวอลท์ ดิสนีย์ เดอะไลอ้อนคิง (The lion king) ได้รับรางวัลออสการ์ ใน 2 สาขา คือ สาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากบทเพลง Can You Feel the Love Tonight โดยทำรายได้ไปทั้งหมด 968 ล้านเหรียญ

5. Despicable Me 2 : มิสเตอร์แสบ ร้ายเกินพิกัด 2 (2013)

จากค่าย Universal Pictures

Cr. grace4films.wordpress.com

       ภาคต่อของความฮาของอนิเมชั่น มิสเตอร์แสบ ร้ายเกินพิกัด เรื่องราวหลังจากที่ กรู วายร้ายจอมวางแผนที่คิดจะยึดครองโลก กลับทิ้งเบื้องหลังความเป็นวายร้ายทั้งหมด และกำลังปรับตัวให้กลายเป็นคุณพ่อที่ดี เพื่อมาดูแลมาร์โก้, อีดิธ และแอ็กเนส ลูกๆ ทั้งสามของเขา หลังจากนั้นเขาก็ได้รับการทาบทามจากสุดยอดองค์กรลับที่ต่อต้านวายร้าย ซึ่งก็ทำให้เขาอยู่ในสถานการณ์แปลกประหลาดในการต้องทำงานกับพวกฝ่ายดีเพื่อกอบกู้โลก เพราะความฮาสุดป่วนของเหล่าวายร้ายและความรักของเด็กๆ ทำให้ Despicable Me 2 ทำรายได้ไปทั้งหมด 970 ล้านเหรียญ

4. Zootopia : นครสัตว์มหาสนุก (2016)

จากค่าย Walt Disney Pictures

Cr. www.forbes.com

     เพราะความน่ารักสุดจิ้นของคู่หูต่างสายพันธุ์ระหว่าง จูดี้ ฮอปส์ สาวน้อยกระต่ายผู้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ นิคไวลด์ สุนัขจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์ ที่ต้องตามสืบค้นหาสัตว์ที่หายไปในเมือง ถึงจะเป็นการ์ตูนสำหรับเด็กแต่ก็มีคติที่สอนใจที่ดีมาก ดูได้หมดไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ จึงทำให้ Zootopia สามารถกวาดรายได้ไปทั้งหมด 991 ล้านเหรียญ

3. Toy Story 3 : ทอย สตอรี่ 3 (2010)

จากค่าย Walt Disney Pictures

Cr. www.amazon.com

    ภาคต่อของอินเมชั่นสุดคลาสสิกของเหล่าของเล่นที่มีชีวิต เมื่อแอนดี้มีอายุได้ 17 ปี เขาต้องเตรียมศึกษาต่อระดับวิทยาลัย ทำให้เลยวัยที่สนใจกับพวกของเล่นสมัยเด็กๆ ของเขา แอดจึงตัดสินใจที่จะนำของเล่นชิ้นอื่นๆใส่ไว้ในถุงขยะโดยมีเจตนาที่จะเก็บของเหล่านี้ไว้ที่ห้องเพดาน แต่แม่ของแอนดี้ก็เข้าใจผิดคิดว่าของเล่นเหล่านี้กลายเป็นขยะ เพราะคิดว่าแอนดี้คงไม่ต้องการของเล่นเหล่านี้อีกต่อไป ทำให้แม่ของแอนดี้นำของเล่นไปบริจาค เรื่องราววุ่นๆ จึงเกิดขึ้นเมื่อเหล่าของเล่นต้องการหาทางกกลับไปหาแอนดี้ อนิเมชั่นเรื่องนี้ยังคงถูกใจใครหลายๆ คนถึงแม้จะผ่านมาหลายปี ทำให้ภาคต่อทำรายได้ไปทั้งหมด 1,063 ล้านเหรียญ

2. Minions : มินเนี่ยน (2015)

จากค่าย Universal Pictures

Cr. pichost.me

      หนังภาคแยกของเหล่าวายร้ายตัวจิ๋วก่อนที่จะมาพบกับ “กรู” เจ้านายคนปัจจุบัน เรื่องราวของ “มินเนี่ยน” สัตว์เซลล์เดียวที่ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก พวกมันอยู่ได้ด้วยการ “รับใช้ผู้ที่แข็งแกร่งและร้ายกาจ” มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พวกมันมีชีวิตอยู่ได้ด้วยความหวัง…แต่กรรมซัดพัดพา เพราะพวกมันไปเป็นลูกสมุนของใคร ล้วนแต่พบกับชะตากรรมสิ้นชีพเสียทุกรายไป ด้วยความฮาของเหล่ามินเนี่ยนวายร้ายตัวจิ๋วจึงทำรายได้ไปทั้งหมด 1,159 ล้านเหรียญ

1. Frozen ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ (2013)

จากค่าย Walt Disney Pictures

Cr. www.njai.org

     “เอลซ่า” ว่าที่ราชินีของอาณาจักรผู้มีพลังอำนาจแห่งหิมะ สามารถเยือกแข็งทุกสิ่งได้ ทว่าความหวาดกลัวในพลังนั้นทำให้เอลซ่าเก็บเงียบเอาไว้ตลอดมาด้วยความเจ็บปวด จนกระทั่งความจริงถูกเปิดเผยต่อหน้าประชาชนในอาณาจักร เอลซ่าซึ่งถูกตราหน้าว่าเป็นแม่มดจึงได้หนีหายไป ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอาณาจักรแอเรนเดลล์ก็ต้องตกอยู่ภายใต้คำสาปหิมะอันเยือกเย็นและโหดร้ายตลอดกาล “แอนนา” น้องสาวของเอลซ่า จึงได้มีความพยายามที่จะพาเอลซ่ากลับมาเพื่อแก้ไขทุกอย่างให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม  อนิเนชั่นที่ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่พร้อมกับเพลงประกอบสุดฮิต “Let’s go” และเพลงประกอบอื่นๆ ที่ได้นักแต่งเพลงแห่งบรอดเวย์มาประพันธ์ ทำให้อนิเมชั่นทำรายได้สูงสุดโดยกวาดเงินไปทั้งหมด 1,287 ล้านเหรียญ

……………………………………………………………………………………

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Wikipedia

ทีมงานตาโตเรียบเรียงนำเสนอ