ใช้ชีวิตเรียบง่ายให้ได้สาระเพื่อลองก้าวไปตามใจที่ ใฝ่ฝันและแบ่งปันความเข้าใจของกันและกัน S-T-U Create ways to happiness (Simply- Try - Understand)
2016-03-31 18:30:37

ใช้ชีวิตเรียบง่ายให้ได้สาระเพื่อลองก้าวไปตามใจ

ที่ ฝ่ฝันและแบ่งปันความเข้าใจของกันและกัน

 

S-T-U Create ways to happiness

(Simply - Try - Understand)

 

 

Simply ใช้ชีวิตเรียบง่ายให้ได้สาระ

 

   ทุกวันนี้โลกของเรานั้นสับสนวุ่นวาย และสลับซับซ้อนยิ่งกว่าในอดีตมาก เราสามารถดูได้จากขั้นตอนการดำเนินชีวิต และวิธีแสวงหาความสุขของคนเราที่มักจะต้องอิงอาศัยผู้อื่นหรือสิ่งอื่นแทนที่จะเป็นตัวของเราเอง เช่น ในสมัยก่อนผู้คนสามารถแลกเปลี่ยนสิ่งของเครื่องใช้ ข้าวปลาอาหารกันโดยไม่ต้องมีเงินมาเป็นสื่อกลาง เราสามารถดื่มน้ำเปล่าสะอาดๆ ในอุณหภูมิปกติได้โดยไม่จำเป็นต้องเรียกร้องตู้เย็นหรือเติมน้ำแข็ง เรานอนหลับอย่างเป็นสุข โดยไม่จำเป็นต้องมีพัดลมหรือเครื่องรับอากาศ และเราสามารถติดต่อสื่อสารธุรกิจหรือติดตามข้อมูลข่าวสารได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้มือถือหรืออินเทอร์เน็ต แต่สำหรับทุกวันนี้ เรากลับเพิ่มขั้นตอนการดำเนินชีวิตของเราเองให้สลับซับซ้อนขึ้นโดยไม่จำเป็น และคิดไปเองว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น สะดวกสบายขึ้น แต่หากพิจารณาให้ดีจะพบว่า สิ่งที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่ความง่ายหรือสะดวกสบาย แต่กลับเป็นความยุ่งยากในชีวิต ที่ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกแทนที่จะเป็นตัวของเราเอง

 

   การหาความสุขทางใจก็เช่นเดียวกัน ใครหลายต่อหลายคนปล่อยให้ความสุขทางใจของตนเองนั้นขึ้นอยู่กับผู้อื่นหรือสิ่งอื่น ไม่ว่าจะเป็นความสุขที่ได้จากการได้ชอปปิ้ง การได้กินอาหารนอกบ้านดีๆ ราคาแพงๆ การได้ไปเที่ยวตามสถานบันเทิงต่างๆ หรือแม้กระทั่งการได้รับความรักความสนใจจากผู้อื่นโดยที่ไม่เคยตระหนักเลยว่า ความสุขที่เกิดจากการอิงอาศัยนั้นไม่ยั่งยืน และจะหมดไปได้อย่างรวดเร็ว เพราะถ้าวันใดเราไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้ว ความสุขก็จะกลับกลายเป็นความทุกข์ที่ตามกัดกินหัวใจเราไม่สิ้นสุด

   ด้วยเหตุนี้จะดีกว่าหรือไม่ หากเราจะหันมาสร้างความสุขให้ตนเองดด้วยการลดขั้นตอนและความยุ่งยากในชีวิตลง และหาความสุขบนความเรียบง่ายเป็นหลัก โดยเริ่มจากการปรับกิจวัตรประจำวันของเราเป็นอันดับแรก เช่น กินอาหารแค่พออิ่ม โดยเน้นที่ความสะอาด และถูกหลักโภชนาการ แทนหน้าตาและราคาของอาหาร ลดการใช้ที่ฟุ่มเฟือยในสิ่งที่เกินจำเป็น ทำชีวิตให้ช้าลงด้วยการสื่อสารกับตนเองมากขึ้นเพราะการหยุดฟังเสียงเล็กๆ ภายในใจของตัวเอง จะทำให้เราได้มีเวลาคิดใคร่ครวญ และรู้ว่าความต้องการที่แท้จริงของเรานั้นคืออะไร

 

   ที่สำคัญลองหันมามองความสุขที่มีอยู่แล้วรอบๆ ตัวเรา แต่เราก็อาจจะไม่เคยตระหนัก ไม่ว่าจะเป็นความปรารถนาดีจากคนในครอบครัว รอยยิ้มของเพื่อนร่วมงาน ความมีน้ำใจตามจราจรบนท้องถนน การได้สัมผัสอากาศสดชื่นในยามเช้า การได้เดินเล่นท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ ในตอนเช้าหรือตอนเย็น และการเห็นว่าตัวเองมีคุณค่าและทำประโยชน์ให้ผู้อื่นได้ เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถรู้จักความสุขที่เรียบง่ายแต่ยั่งยืน

 

 

Try ลองก้าวไปตามใจที่ใฝ่ฝัน

   เราทุกคนมีความฝันในทุกช่วงเวลาของชีวิต บางความฝันนั้นเป็นเพียงสิ่งที่อยู่ในจินตนาการที่ได้วาดฝันเอาไว้ ในขณะที่บางความฝันเป็นจริงได้หากพียงแค่ลงมือปฏิบัติ แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับมีน้อยคนนักที่จะทำให้ความฝันของตนเป็นจริงขึ้นมาได้ เพราะธรรมชาติของมนุษย์ส่วนมากมักจะกลัวความเปลี่ยนแปลง กลัวความลำบาก กลัวความผิดหวัง สิ่งเหล่านี้จึงล้วนแต่เป็นศัตรูตัวสำคัญที่สุดที่คอยดักจับความฝันของเราทั้งสิ้น ยิ่งถ้าสถานการณ์ปัจจุบันไม่ได้ทำให้เราเดือดร้อน คนเรายิ่งมองไม่เห็นคุณค่าที่จะทำตามความฝันของตัวเองที่ได้วาดเอาไว้ ด้วยเหตุนี้ความฝันจึงเป็นไปได้แค่ความเพ้อฝันที่หลบซ่อนอยู่ในซอกมุมเล็กๆ ของความคิดและจินตนาการของใครต่อใครหลายๆ คน

 

   เฮนรี่ เดวิด ทอร์โร เคยได้กล่าวเอาไว้ว่า “คนจำนวนมากตกปลามาตลอดชีวิต โดยไม่รู้เลยว่าปลานั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการ” ในทำนองเดียว ถ้าหากเราใช้ชีวิตในแต่ละวันโดยไม่คำนึงถึงคุณค่าของสิ่งที่ทำอยู่  แต่เป็นเพราะมันทำให้รู้สึกปลอดภัย ไม่ต้องวิตกกังวล เวลาในชีวิตของเราก็จะเดินต่อไปอย่างไร้ความหมาย จนเมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง เราก็จะนึกเสียใจและนึกเสียเสียดายทั้งวัน เวลา และความฝันที่สูญเสียไป

 

   อย่างไรก็ตาม การได้ทำตามความฝันไม่ได้เป็นเพียงการทำตามใจปรารถนาเท่านั้น แต่ความฝันเปรียบเสมือนได้กับเป้าหมายหนึ่งของชีวิต เพราะฉะนั้นเราจึงต้องมีการคิดวางแผนอย่างรอบครอบ เตรียมตัวให้พร้อม และลงมือปฏิบัติด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ แน่นอนว่าหนทางที่มุ่งหวังย่อมมีอุปสรรคไม่ว่าจากภายนอก เช่น คำวิพากษ์วิจารณ์ คำสบประสาท คำทักท้วง และความเหนื่อยยาก และที่มาจากภายในจิตใจ เช่น ความท้อแท้ เสียความเชื่อมั่น หรือหมดกำลังใจ แต่เมื่อเรามีความตั้งใจจริง อดทนละมุ่งมั่นพยายามแล้ว สิ่งที่ใฝ่ฝันย่อมเกิดประสบผลสำเร็จได้ในวันหนึ่งและเมื่อถึงวันนั้น เราจะมองย้อนกลับไปด้วยความภาคภูมิใจ และนับถือตัวเอง

   แต่ถ้าสิ่งที่มุ่งหวังตั้งใจกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังเอาไว้ แต่อย่างน้อยเราก็มีความสุขที่ได้ “ทดลอง” และ “พยายาม” แล้วมิใช่หรือ

 

 

Understand แบ่งปันความเข้าใจของกันและกัน

   ปัญหาหลักของคนส่วนใหญ่ในทุกวันนี้นั้นมักเกิดมาจากความไม่เข้าใจกัน จนเกิดความขุ่นข้องหมองใจ ทะเลาะวิวาท หรือรุนแรงจนกระทั่งทำร้ายร่างกาย สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะคนเรานั้นมักจะเอาความเห็นของตนเป็นที่ตั้ง และมองว่าสิ่งที่ตนคิดนั้นถูกต้อง มีเหตุผล และเหมาะสมดีแล้ว เมื่อต่างฝ่ายต่างคิดว่าตนเองเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง จึงไม่ยอมรับเหตุผลและรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น เหตุการณ์รุนแรงทั้งหลายจึงเกิดตามมา

 

   ความเป็นจริงแล้วการขัดแย้งเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้เสมอ เพราะว่าคนเราย่อมมีความแตกต่างกันตามการเลี้ยงดู สิ่งแวดล้อม ความรู้ และประสบการณ์ แต่เราสามารถนำเอาความขัดแย้งมาใช้ในทางสร้างสรรค์ได้ เช่น ในการทำงาน เราอาจจะนำเอาความคิดที่แตกต่างมาปรับใช้ ทดลองหรือผสมผสานเป็นผลงานชิ้นใหม่ๆ แทนที่จะยึดเอาความคิดของใครคนใดคนหนึ่งเป็นหลัก และไม่รับฟังความเห็นที่ตรงกันข้าม

 

   การจะเปลี่ยนแปลงความขัดแย้งให้เป็นความสร้างสรรค์นั้น สิ่งที่สำคัญอยู่ที่การลดความยึดมั่นในตนเอง พร้อมๆ กับเปิดใจยอมรับว่าทุกคนนั้นมีความคิดเห็นที่แตกต่างทางความคิดและประสบการณ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราอาจจะนำมาเป็นบทเรียนในการใช้ชีวิตได้ เพราะบางครั้งสิ่งที่ผู้อื่นพบ เราอาจจะไม่มีโอกาสได้สัมผัส หรือถึงแม้จะมีประสบการณ์ร่วมกัน แต่ก็ใช่ว่าจะมีมุมมองต่อสถานการณ์นั้นเหมือนกัน เมื่อเราทำความเข้าใจได้ดังนี้ ปัญหาความขัดแย้งจะกลายเป็นความสร้างสรรค์ ความขุ่นข้องหมองใจจะกลายเป็นการยอมรับ และความแตกต่างจะกลายเป็นครูสอนให้เราทุกคนได้เรียนรู้ และเติบโตไปพร้อมๆ กัน

 

 

 

………………………………………………………………………………………….

 

 

 

เรียบเรียงนำเสนอโดยทีงานตาโต

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือเส้นทางแห่งความสุข

ขอบคุณรูปภาพจาก : pensionrescue.org.uk / script.today / marketingoops.com / wongnai.com / dhammada.net / dmc.tv


Admin :
view
:
1845

Post
:
2016-03-31 18:30:37


ร่วมแสดงความคิดเห็น