นิทานสอนคุณ คติสอนใจ ' ดึงต้นกล้าให้โต '
2016-01-20 15:43:00
นิทานสอนคุณ คติสอนใจ
 
' ดึงต้นกล้าให้โต '
 
 
" ดึงต้นกล้าให้โต " - " ย่าเหมียวจู้จ่าง "
 
กาลครั้งหนึ่งในยุคโบราณ เมื่อย่างเข้าฤดูหว่านไถ ได้มีชาวนารัฐซ่งผู้หนึ่ง มีนิสัยใจร้อน ภายหลังหว่านกล้าลงนาเป็นที่เรียบร้อย วันทั้งวัน เขาก็เฝ้ารอคอย มัวแต่เร่งนับวันนับคืนให้ต้นกล้าของตนเองโต และสูงขึ้นเร็วๆอยู่ตลอดเวลา โดยหวังว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็วๆ ดังนั้นเขาจึงแวะเวียนไปดูต้นกล้าในนาของเขาวันละหลายๆครั้ง จนไม่เป็นอันทำอะไรอื่นๆ และเฝ้าคิดว่าเหตุใดต้นกล้าของเค้านั้นช่างเติบโตได้ช้าเหลือเกิน ท้ายที่สุดเขาอดรนทนไม่ไหว จึงได้พยายามขบคิดหาวิธีการที่จะทำให้ต้นกล้าโตเร็วขึ้นกว่าเดิม
 
สุดท้ายเขาจึงได้คิด วิธีการที่ดีที่สุด สำหรับตัวเค้าเองออกมาจนได้ในวันหนึ่ง นั่นคือวิธีการ ‘ ใช้มือดึงให้ต้นกล้าโผล่พ้นดินขึ้นมามากขึ้น ’ ซึ่งเมื่อมองดูจะดูคล้ายต้นกล้าเติบโตและสูงขึ้นกว่าที่เป็นนั่นเอง !
 
ดังนั้นเขาจึงได้รีบไปที่ท้องนาของเขาในทันที พร้อมทั้งมองดูแล้วคิดว่า ‘ ทำไมฉันไม่ดึงต้นกล้าให้มันสูงขึ้นอีกซักหน่อยตั้งนานแล้วล่ะ นั่นอาจจะช่วยให้พวกมันโตเร็วขึ้นกว่านี้อีกเยอะ ’ เมื่อ คิดได้ดังนั้น เขาจึงรีบเดินลงไปในที่นาของเขา แล้วรีบทำการดึงต้นกล้าแต่ละต้นให้สูงขึ้น ตามวิธีการที่เค้าได้คิดขึ้น เมื่อทำการดึงต้นกล้าในนาเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น เขาจึงได้หันมามองดูต้นกล้าที่สูงขึ้นด้วยความยินดีปรีดายิ่งนัก พร้อมทั้งเดินฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ อย่างมีความสุข ระหว่างเดินทางกลับไปพักผ่อนที่บ้านของตน พร้อมรอเวลาที่จะกลับมาดูมันโตเต็มที่อย่างที่ใจหวังในไม่กี่วันข้างหน้า
 
 
และเมื่อถึงบ้าน ภายหลังการรับประทานอาหารเย็นร่วมกันในครอบครัว เขาจึงเล่าให้คนในครอบครัวได้ฟังว่า ‘ วันนี้้ตัวเขานั้นทำงานเหนื่อยเหลือเกิน แต่ก็คุ้มค่ายิ่งนัก เพราะวิธีการใหม่ของเขานั้นจะช่วยทำให้ต้นข้าวโตได้รวดเร็วขึ้นมาอีกหลายข้อเลยทีเดียว ‘
 
เมื่อบุตรชายของเขาได้ฟัง จึงรีบวิ่งไปที่ทุ่งนาในทันที เพื่อดูผลงานของผู้เป็นบิดา แต่ทว่า บุตรชายของเขาถึงกับยืนนิ่งตะลึงไป...เพราะ สิ่งที่เขาพบก็คือต้นกล้าที่ชาวนาผู้นั้นดึงให้สูงขึ้นพากันเหี่ยวเฉาอยู่เต็มท้องทุ่งนาเกือบทั้งหมด และเมื่อชาวนาผู้นั้นได้เดินตามมายืนดูความสำเร็จของเขาร่วมกับลูกชายด้วยความอิ่มเอิมและภูมิใจยิ่งนั้น .. เขาก็เข่าอ่อนแทบทรุดและเสียใจไปกับการกระทำของเค้าเป็นอย่างยิ่ง :(
 
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. จงอย่าเป็นคนที่ ‘ใจเร็วด่วนได้‘
2. จงรู้จัก ‘อดทนรอคอยการเก็บเกี่ยว’
3. จงรู้จัก ‘ธรรมชาติของสิ่งที่คุณทำ’
4. และ จงทำ ‘สิ่งที่ควรทำและถูกต้อง’
 
ซึ่งปัจจุบัน ในยุคแห่งการแข่งขัน ทุกสิ่งทุกอย่างดูรวดเร็วไปหมด แต่อาจ ไม่เสมอไป เพราะหลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้ บางสิ่งสามารถเห็นผลได้เลยในทันที
 
แต่สำหรับบางสิ่ง อาจต้องใช้เวลา ดั่งคำว่า ช้าๆได้พร้าเล่มงาม ดังนั้น คุณต้องรู้จักอดทน ….. รอคอยเวลานั้น ซึ่งนั่นเป็นเพราะบางสิ่งบางอย่างก็ไม่สามารถเร่งหรือแก้ไขอะไรได้เลย แต่บางสิ่งบางอย่างนั้นอาจแก้ไขได้ แต่ต้องโดยวิธีที่ถูกต้อง
 
เช่นในกรณีนี้ คุณอาจ ดูแลการให้น้ำใส่ปุ๋ยบำรุง ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะหากคุณแก้ไขไม่ถูกจุดหรือผิดแนวทางแล้วนั้น ความเสียหายจะเกิดขึ้นดังที่นิทานเรื่องนี้ได้บอกคุณ !
 
 
 
 ดังนั้น ภายหลังต่อมา "ย่าเหมียวจู้จ่าง" หรือ "ดึงต้นกล้าให้โต" จึงใช้สำหรับเปรียบเทียบกับการพยายาม ฝืนฎเกณฑ์ธรรมชาติ หรือการรีบร้อนเร่งให้งานใดๆ สำเร็จ โดยใช้วิธีที่ผิด จนก่อให้เกิดผลเสียหายตามมา !
 
" ย่าเหมียวจู้จ่าง " = " ดึงต้นกล้าให้โต "
 
揠 (yà) อ่านว่า ย่า แปลว่า ดึง
苗 (miáo) อ่านว่า เหมียว แปลว่า หน่อ ต้นกล้า
助 (zhù) อ่านว่า จู้ แปลว่า ช่วย
长 (zhǎng) อ่านว่า จ่าง แปลว่า เติบโต
 
เพื่อนๆอย่าคิดดึงต้นกล้าให้โตไวๆแบบไม่ถูกต้อง กันนะคะ ช้าหน่อยได้กล้าแข็งแรงและสวยงาม ค่ะ
 
ขอให้เพื่อนๆชาวตาโตทุกท่านประสบกับความสำเร็จและผ่านพ้นทุกอย่างไปได้ด้วยดีกันทุกท่านนะคะ สู้ๆค่ะ
 
=============================================
 
Cr : นิทานคุณธรรม และ manager.co.th ภาพประกอบเพิ่มเติมโดย moralcenter.or.th
ทีมงานตาโตเรียบเรียงเพิ่มเติม
 

Admin : Tartoh
view
:
3912

Post
:
2016-01-20 15:43:00


ร่วมแสดงความคิดเห็น