คงไม่น่าแปลกใจถ้าจะมีบางประเทศโลกที่สาม หรือประเทศด้อยพัฒนา ที่มองเห็นโทษของการเล่นเกม มากกว่าการสร้างประโยชน์และความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี โดยโยนผลลัพท์หรือผลเสียต่างๆ ให้กับวัตถุ มากกว่าการพัฒนาพื้นฐานคุณภาพของประชาชน ซึ่งมันก็คงเป็นเรื่องที่เกิดเป็นปกติกับประเทศแบบนั้น แต่นี่...คือประเทศเกาหลี ประเทศที่พัฒนาการด้านเทคโนโลยีและเกมออนไลน์อันดับหนึ่งของโลก ซึ่งเกมออนไลน์คืออุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ แต่กลับมีการจัดให้เกมเป็นสิ่งเสพติด ... มันยังไงกัน?

จากที่กระทรวงสาธารณสุข และสวัสดิการสังคม ได้จัดทำแคมเปญตามนโยบายส่งเสริมสุขภาพจิต ด้วยการจัดทำโฆษณารณรงค์ "เกมเป็นสิ่งเสพติด" ในรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งเกมถูกจัดให้อยู่ในจำพวกเดียวกับสุรา, ยาเสพติด และการพนันมาตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม

ในโฆษณาได้เน้นย้ำถึงอันตรายของเกมที่น่าสนใจมากๆ จาก 4 ประโยคที่เมื่อหันมามองความเป็นจริงในบ้านเราจากการ์ตูนล้อเลียนต่างๆ เช่น "เมื่อคนปกติมองเห็น - เมื่อเกมเมอร์มองเห็น" ซึ่งเกมเมอร์มองอะไรจะถูกตีความในจินตนาการเป็นเกมไปเสียหมด ทั้ง 4 ประโยคเด็ดนั้นคือ "ประสาทหลอนหูแว่วนึกว่าเป็น BGM", "มองสิ่งของเป็นตัวละคร", "ไม่ได่เล่นเกมแล้วหงุดหงิด", "แยกแยะความเป็นจริงกับเกมไม่ได้" เมื่อมองกลับมาที่ความเป็นจริง มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในทุกประเทศที่มีคนเล่นเกม และในโฆษณายังได้เน้นย้ำถึงอันตราย ตัวอย่างเช่น ในชีวิตจริงผู้เล่นคิดว่าตัวเองอยู่ในเกม และพร้อมที่จะเดินไปทำร้ายคนอื่น หรือประโยคที่ปิดท้ายแบบเจ็บๆ ว่า "การติดเกม ยิ่งจินตนาการ...ยิ่งสูญเสีย" ตัวอย่างนี้ไม่ได้เกินจริงแต่ประการใด เพราะมันเกิดขึ้นแล้ว

แต่ปัญหาก็คือการตั้งชื่อโฆษณาตัวนี้ว่า "เกมเป็นสิ่งเสพติด" ตามคู่มือการวินิจฉัยและสถิติสำหรับความผิดปกติทางจิต (Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders, ย่อ: DSM) การติดเกมยังไม่ถือว่าเป็นความผิดปกติหรือโรคทางการแพทย์ที่ยังเป็นเพียงแค่การวิจัยและพฤติกรรมการติดอินเตอร์นตเท่านั้น แตกต่างกับสุรา, ยาเสพติดหรือการพนัน

กระทรวงสาธารณสุข และสวัสดิการสังคมเกาหลีใต้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "การติดเกมเป็นความผิดปกติทางการแพทย์แล้ว" ผู้เกี่ยวข้องของกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมได้กล่าวว่า "ถึงแม้การติดเกมยังไม่ระบุแน่ชัดทางการแพทย์ แต่ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสิ่งเสพติดยืนยันแล้วว่า..."เกมเป็นสิ่งเสพติด" ซึ่งเร็วๆ นี้กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมเกาหลีใต้มีแผนจะปล่อยโฆษณาดังกล่าวผ่านทางออนไลน์และ IPTV ด้วย ในปีนี้คงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับวงการเกมทั่วโลกอย่างแน่นอน นอกเหนือจากการจัดเรทติ้งที่ไม่ค่อยได้ผลมากเท่าไหร่

จริงๆ แล้วกฎหมายข้อนี้ในประเทศเกาหลีใต้ เคยมีการยื่นมติสภา เสนอให้มีร่างกฏหมายความคุมพิเศษกับเกมออนไลน์ให้เท่าเทียมกับการควบคุมเรื่องการพนันและยาเสพย์ติดไปเมื่อต้นปี 2013 และมีการพยายามจัดระเบียบต่างๆ ออกมามากมายอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นการห้ามซื้อขายไอเทมด้วยเงินจริงนอกระบบ หรือการจำกัดเวลาเล่นไม่เกินเที่ยงคืน และอื่นๆ

ที่มา : http://news.playpark.com/

By : BS