เรื่องเล่าเรื่องนี้ โด่งดังมาระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งก็ไม่มีใครกล้าไปพิศูจน์ว่าสิ่งที่เขาเล่าอ้างกันมานั้น เป็นเรื่องจริงเท็จประการใด หากมีผู้อ่านคนใดใจกล้าก็ลองไปพิสูจน์กันดูได้นะ
เมื่อหลายปีก่อน ลูกพี่ลูกน้องของผมชักชวนกันไปเที่ยวบ้านเพื่อนของพี่เขาที่อยู่ใน อ.คลองตะเคียน จ.พระนครศรีอยุธยา ตามปกติแล้วลูกพี่ลูกน้องคนนี้มีนิสัยนักเลง ไม่กลัวใคร ใจใหญ่ ไปไหนมาไหนคนเดียวก็ไม่มีใครหือหรือมีเรื่องยามทำเสียงดัง แต่ก็มีนิสัยโผงผางไปอย่างนั้นเอง จริง ๆ แล้วชอบช่วยเหลือคน มีน้ำใจเสมอ แน่นอนว่าเรื่องผีไม่เคยมีอยู่ในหัวพี่เขาแน่ เพราะบอกแล้วว่าพี่เขาไม่กลัวใคร แม้กระทั่ง “ผี”
เมื่อเดินทางไปถึงโดยรถยนต์ก็ต้องเอารถจอดไว้ที่ลานวัด และรอให้บ้านเพื่อนพี่เขาพายเรือออกมารับ เพราะบ้านอยู่อีกฝั่งคลอง ระหว่างทางไปก็มีต้นไม้ร่มครึ้ม มีต้นไม้น้ำ ผักตบชวาขึ้นเป็นระยะ ๆ ก็สร้างความเพลิดเพลินใจได้ไม่น้อยพอถึงบ้านก็ทำกับข้าวกับปลา กินแกล้มเบียร์คนละกระป๋อง ช่วงที่กินเสร็จก็เป็นช่วงโพล้เพล้แดดรำไร พี่ชายผมก็อยากลงไปลองพายเรือดูบริเวณใกล้ ๆ
แม่ของเพื่อนที่ชายถามว่าพายเรือเป็นหรือเปล่า พี่ชายผมบอกว่า ไม่เป็น แต่ว่าน่าจะไม่ยากน้ำลึกไหมแถวนี้ แม่เพื่อนพี่ชายบอกว่าไม่ลึกมากตัวสูงใหญ่ขนาดนี้ไม่น่าเป็นอะไร เรือล่มก็ยืนถึงประมาณหน้าอกแหละ ลืมบอกไป พี่ชายผมสูงประมาณ 185 ซม. ถ้าแค่ออกพี่แกผมว่าน้ำก็ลึกเอาเรื่องอยู่นะ
เพื่อพี่ผมก็เริ่มห่วง เอ่ยปากห้ามว่าอย่าไปเลยเดี๋ยวก็มืดแล้ว แต่พี่ชายผม ก็อย่างที่บอกล่ะ ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ กลัวอะไรที่ไหน แกก็บอกว่า ไม่ต้องห่วง ดูแลได้ ๆ ว่าแล้วก็แกะเชือกเรือที่เสาบันไดท่าน้ำ และหย่อนตัวลงเรือไปเรียบร้อยพร้อมเอาไม้พายในเรือดันเสาเรือนท่าน้ำให้เรือออกจากฝั่งไกล ๆ ดันทีเดียวพี่แกก็ลอยเรือไปกลางคลองแล้ว หลังจากนั้นพวกเราก็ไม่เห็นแกอีกเลย คิดว่าคงพายออกไปหน้าวัดแล้ว ประกอบกับบ้านเป็นทางโค้งน้ำจึงมองไม่เห็นผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีเราก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกของพี่ชายร้องดังลั่น พวกเราตกใจชะเง้อมองไปที่คลอง ภาพที่เห็นคือ พี่ชายผมกำลังเดินดุ่ม ๆ กึ่งว่ายน้ำ หนีอะไรสักอย่างในคลองมาด้วยท่าทีตื่นตระหนก
By Admin Park