9 วิธี ควรรู้เมื่อต้องเดินทาง
ช่วยให้คุณปลอดภัย จากสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ (รบกวน) !
ไม่ว่าบ้านใครจะอยู่ที่ไหน แต่พอต้องออกเดินทางไปต่างจังหวัดขึ้นมาแล้วไม่มีญาติอยู่จังหวัดนั้นๆ ล่ะก็ ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนเดินทางไกลๆ ไม่ว่ามาเดี่ยว กลุ่ม หรือครอบครัวก็คงเป็นโรงแรม รีสอร์ท แต่อย่างไรซะในเมื่อมีแผนเที่ยวกันอยู่แล้วสิ่งที่ควรทำกันก็คือ จองที่พัก นั่นเอง ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คุณปลอดภัยกับสิ่งไม่พึ่งประสงค์อย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้นหากไม่ต้องการเจอสิ่งที่ไม่พึ่งประสงค์มาก่อกวนตอนนอนล่ะก็ ควรหลีกเลี่ยงการเข้าพักแบบเข้าที่พักแล้วเลือกห้องเลยหรือที่ฝรั่งเรียกว่า วอล์คอิน (Walk In) และถ้าพนักงานได้บอกว่าห้องเต็มแล้ว ก็ควรเชื่อเขาและหาที่พักอื่นแทน อย่าตื้อหรือให้เงินเพื่อที่จะได้ห้องพัก เพราะนั้นจะทำให้คุณเจออย่างอื่นแถมมาด้วย
เนื่องจากว่าห้องที่คุณตื้อเพื่อขอพักคือ ห้องของแขกพิเศษ นั่นเอง แน่นอนว่าในเมื่อมีคนอยู่ก่อนแล้วคุณเข้าไป มันก็กลายเป็นการรบกวนคนอยู่ก่อนซึ่งพวกเขาก็จะก่อกวนคุณให้เสียขวัญไปข้างเลยทีเดียว แค่นั้นไม่พอนอกจากหลอกคุณแล้วยังพาลไปหลอกห้องอื่นๆ ที่เขาไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรให้หลอนแตกตื่นไปทั้งคืน ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำต่อไปนี้คือเคล็ดลับป้องกัน เจ้าของห้องตัวจริง จะไม่มารบกวนคุณ
วิธีแรก (วิธีที่ หนึ่ง) คือ การเคาะประตูก่อนเข้าห้อง
ก่อนที่จะเข้ายังห้องพักให้คุณเคาะประตูก่อนทุกครั้ง แม้คุณจะรู้ว่าห้องนั้นเป็นห้องว่างก็ตาม หลังจากที่เข้าไปอยู่ในห้องแล้ว หากคุณรู้สึกไม่สบายใจไม่ชอบใจแล้วมีอาการขนลุกหวาดกลัว ก็ขอให้คุณบอกกับพนักงานขนกระเป๋าที่นำคุณมา เพื่อขอเปลี่ยนห้องใหม่ถึงอาจจะวุ่นวายหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าที่คุณจะทนอยู่ในห้องด้วยความกลัว
วิธีที่สอง คือ การทำให้ห้องปลอดโปร่ง
หลังจากเข้ามาในห้องแล้ว ให้เปิดไฟในห้องเท่าที่จะเปิดได้ เปิดหน้าต่างหรือเปิดผ้าม่านหน้าต่าง เพื่อให้แสงแดดจากนอกห้อง ส่องเข้ามาภายในห้องเป็นการให้พลังงานดี ไล่พลังงานร้ายต่างๆ ที่อยู่ในห้องออกไป
วิธีที่สาม คือ การจัดรองเท้าแก้เคล็ด
ก่อนเข้านอน จัดวางรองเท้าของคุณให้อยู่ในลักษณะกลับหัวกลับหาง (สลับด้านกัน) เพราะนี่เป็นเคล็ดที่แสดงถึงหลัก "หยิน-หยาง" เพื่อให้เกิดความสมดุลกันของพลังงานดีและพลังงานร้าย ที่อาจหมุนเวียนอยู่ในห้องพัก และเป็นการคุ้มครองคุณขณะกำลังหลับให้หลับฝันดีไม่ฝันร้ายโดยเฉพาะการฝันเห็นผี
วิธีที่สี่ คือ การทำให้มีแสงสว่างในห้อง
ตอนที่คุณหลับอย่าปิดไฟในห้องจนมืดมิด ให้มีแสงสว่างอยู่ในห้องบ้างอย่างน้อยก็พอมองเห็น คุณอาจเปิดโคมไฟในห้องทิ้งไว้อย่างน้อยหนึ่งดวง จะเป็นไฟหัวเตียง ไฟในห้องน้ำ ไฟหน้าห้องน้ำ หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ทางเดินก่อนเข้าห้อง เพราะเชื่อกันว่าเมื่อมีแสงสว่างก็จะทำให้วิญญาณมาปรากฏได้ยากกว่าห้องที่มืดไปหมด
วิธีที่ห้า คือ การอย่าปล่อยให้เตียงว่าง
หากคุณพักคนเดียว และห้องคุณเป็นเตียงคู่ อย่าเข้านอนโดยปล่อยให้อีกเตียงหนึ่งว่างเปล่าให้คุณนำสิ่งของที่คุณติดตัวมาไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าใบเล็กใบใหญ่ ไปวางไว้บนเตียงที่ว่าง บางคนอาจจะไปแต่ตัวไม่มีอะไรวางก็ให้ดึงผ้าห่ม ขยับหมอน ให้เป็นลักษณะเหมือนมีคนนอนอยู่ในเตียงหรือเตียงนั้นมีคนใช้แล้วไม่ใช่ผ้าปูเรียบตึง เพื่อเป็นเคล็ดว่าเตียงนั้นมีเจ้าของแล้วไม่ใช่เตียงว่างที่ใครจะมานอนอีก
วิธีที่หก คือ การผลักเตียงให้เฉียง
ปกติทางโรงแรมจะจัดเตียงและผ้าคลุมเตียงให้เรียบร้อยก่อนแขกจะเข้ามาพัก น้อยครั้งที่จะเห็นเตียงเอียงหรือเฉียงไปข้างๆ เพราะสิ่งที่เรากำลังจะบอกคือให้คุณทำเตียงปกติให้เตียงเฉียงเพื่อป้องกันอะไรบางอย่าง เมื่อคุณเข้ามาพักควรผลักเตียงให้เฉียงไปจากเดิมเล็กน้อย ที่ทำอย่างนี้เป็นเคล็ดว่าคุณไม่ได้นอนทับที่ของใคร หรือเตียงของใครก่อนหน้านั้น ไม่อย่างนั้นตกดึกคุณอาจต้องขวัญผวาเพราะนอนอยู่ดีๆ ถูกผีอำกระดิกตัวไม่ได้ แน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก รู้อย่างนี้แล้วคุณจะเลื่อนเตียงหรือยัง
วิธีที่เจ็ด คือ การใช้ผ้าคลุมกระจก
หากกระจกในห้องนอนตรงกับเตียงของคุณทางปลายเท้า หรือตั้งอยู่ข้างเตียงนอนพอดี
แล้วคุณก็ดันเป็นคนที่ตกใจง่ายๆ ซะด้วย เห็นอะไรก็ตกใจไปหมดก็ให้หาผ้ามาคลุมกระจกเสียก่อนที่คุณจะนอนหลับ เพื่อเป็นการป้องกันการตกใจกลัวของคุณเอง เพราะหากตอนกลางคืนคุณตื่นมาเข้าห้องน้ำ คุณอาจตกใจเงาของตัวเองในกระจกคิดว่าเป็นผี แล้วเรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องตลกซะงั้น
วิธีที่แปด คือ การพกเครื่องรางของขลัง
หากคุณเป็นคนแขวนพระ เป็นนักสะสมพระ หรือสะสมเครื่องรางต่างๆ อยู่แล้ว ก็คงไม่มีปัญหาในการหาสิ่งของเหล่านี้ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้แขวนพระ ไม่ชอบพระ ไม่สะสมอะไร แถมยังเป็นคนขี้กลัว โดยเฉพาะกลัวการไปนอนต่างที่ต่างถิ่นว่าจะเจอผีเข้าสักวัน ถ้าเป็นอย่างนี้ก่อนจะออกเดินทางให้คุณเตรียมเครื่องรางของขลัง ที่คุณเคารพนับถือและหาได้นำติดตัวไปด้วยเพื่อความอุ่นใจ เจอผีก็นำออกมาใช้แต่ไม่เจอผีก็ถือเป็นโชคดีไปนะ
และวิธีสุดท้าย (วิธีที่ เก้า) คือการไหว้พระสวดมนต์ก่อนนอน
ปกติเวลาอยู่บ้านหลายๆ คนก็ไหว้พระสวดมนต์กันอยู่แล้ว ตามวิถีชาวพุทธด้วยความเชื่อที่ว่าจะทำให้นอนหลับฝันดี การไปนอนค้างแรมซึ่งไม่ใช่ถิ่นฐานบ้านตัวเองนั้น เราไม่รู้ว่าสถานที่แห่งนั้นเป็นยังไงบ้าง การสวดมนต์ไหว้พระยิ่งต้องมีความจำเป็น ด้วยเป็นเหมือนเกราะที่ช่วยปกป้องคุ้มครองตัวคุณ นอกจากจะทำให้คุณนอนหลับฝันดีอย่างสบายใจแล้ว คนไทยเรายังเชื่อเรื่องการสวดมนต์ไล่ผีหรือไม่ก็เป็นขออนุญาตไปในตัว เพราะบางคนก็จะมีประโยคที่ว่า “ลูกก็ขอแค่อาศัยอยู่นอน xx วันเท่านั้น”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ซึ่งนี่ก็คือวิธีปกป้องผี (และตัวเอง) หลอกง่ายๆ 9 วิธี รู้แบบนี้แล้วอย่าลืมทำตามวิธีที่แนะนำไปนะ ยิ่งหากคุณเป็นคนขวัญอ่อน ตกใจง่ายอยู่แล้ว ก็ควรที่จะจำไว้ใช้เป็นอย่างยิ่งค่ะ ..... ขอให้เพื่อนๆเดินทางปลอดภัยกันตลอดไปนะคะ ^_^
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณข้อมูลโดย : board.palungjit.org , ภาพเพิ่มเติมจาก funny.hunsa.com : ทีมงาน tartoh.com นำเสนอ