เอคโค่ ภูตสาว เจ้าแห่งเสียงสะท้อน
เราอาจรู้จักศัพท์คำว่า เอคโค่ ว่าเป็นเสียงสะท้อนที่ก้องดังต่อเนื่องกันไปหลังจากการเปล่งเสียงเพียงครั้งเดียว แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าที่มาที่ไปของเอคโค่ก็มีเช่นกัน และมาจากนางภูตพรายตนหนึ่งที่เป็นนางไม้ หรือนิมฟ์ประเภทหนึ่งที่มีนามว่า เอคโค่ ที่จริงเอคโค่เป็นภูตพรายแห่งสายน้ำ ที่ได้รับการกล่าวขานว่านางเป็นภูตที่สวยงามน่าหลงใหลมากกว่าภูตพรายหรือนางไม้ใด ๆ นอกจากความงามทั้งรูปโฉมและน้ำจิตน้ำใจแล้ว เอคโค่สุ้มเสียงของเธอยังไพเราะราวกับเสียงเพลงบรรเลงจากสวรรค์ ภูตตนอื่น ๆ นางไม้หรือนิมฟ์ชนิดอื่น ๆ รวมทั้งเทพและสรรพสัตว์ในผืนป่ามักจะมาร้องขอให้เธอร้องเพลงและเล่านิทานให้ฟังอยู่เนือง ๆ ซึ่งก็แน่นอนว่าเธอไม่เคยปฏิเสธ ด้วยความใจดีอารีเสมอ เธอจึงมีมวลมิตรมากมายและไม่เคยต้องพบเจอเรื่องทุกข์ใจ อนิจจา ชะตากรรมของภูตสาวแสนสวยก็ต้องมีอันเศร้าสลดนัก
เอคโค่ที่เป็นที่โปรดปรานของเทพแห่งความรัก คือ เทพีอโฟรไดท์หรือเทพีวีนัสนั่นเอง (Aphrodite) เทพีแห่งความรักชอบคุยและฟังนิทานจากเธอ ความที่เป็นเทพด้านความรัก และเคยช่วยใครหลายคนให้สมหวังสมรัก อโฟรไดท์จึงอยากจะช่วยเอคโค่บ้าง แต่เอคโค่ก็ยังไม่สนใจใครสักที
“บอกฉันสิเอคโค่ เธอสนใจใครบ้างมนุษย์ หรือเทพ? ขอให้บอกชื่ของเขามา แล้วฉันจะให้อีรอส (หรือคิวปิด – กามเทพ) บุตรชายของฉันไปยิงศรธนูใส่อกผู้นั้น ศรธนูจะทำให้เขานั้นหลงรักเธออย่างหมดใจเลยนะจ๊ะ”
เทพีอโฟรไดท์เอ่ยถาม แต่เอคโค่ได้แต่หัวเราะ : “ขอบคุณพระนางมาก แต่ฉันยังไม่พบชายที่ถูกใจ ฉันกลัวว่าความรักกับเหล่าเทพจะไม่จีรังยั่งยืนชายทุกคนที่พบก็ยังไม่มีใครงดงามดั่งชายในฝันของฉันสักคน หากเวลานั้นมาถึงสัญญาว่า ฉันจะให้ท่านช่วยแน่นอน”
เทพีอโฟรไดท์กล่าวว่า : “เธองดงามมากพอที่จะเรียกร้องชายที่ดีที่สุด อย่าลืมนะว่า สิ่งที่ดีที่สุดอาจมาปรากฎแค่ครั้งเดียว ฉันพร้อมช่วยเธอเสมอ แต่อย่ารอนานนะ”
ต่อมาวันหนึ่ง เทพนาร์ซิสซัส ผู้มีรูปโฉมงดงามที่สุดในหมู่ทวยเทพเข้ามาในป่าแล้วก็เกิดหลงป่าหาทางออกไม่ได้ ว่ากันว่าความงดงามของเทพนาร์ซิสซัสนั้นทำให้หญิงทุกคนที่เห็นเขาล้วนต้องหมดสติไปในทันที ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่คุณสมบัติเด่นของเขาทำให้เขาลุ่มหลงลำพองใจในตัวเอง จนคิดว่า ฉันจะหาใครสักคนที่มีความงดงามเท่าฉันได้หนอ ฉันจะไม่ยอมคบหากับใครที่สมบูรณ์แบบน้อยกว่าฉัน แม้ว่ามันอาจทำให้ฉันต้องอยู่โดดเดี่ยว แต่นั่นก็ดีกว่าที่จะต้องลดตัวลงไปนี่นา
นาร์ซิสซัสหาทางออกจากป่า เจาเดินไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังมาผิดทาง ขณะนั้นอีกทางหนึ่งเอคโค่เพิ่งบอกลาเทพีอโฟรไดท์ และกำลังแยกทางเพื่อกลับไปยังต้นไม้ซึ่งเธอสิงสถิติอยู่ ระหว่างทางเธอได้บังเอิญพบกับเรื่องที่ม่คาดคิด ขณะนั้นเทพซูส (Zeus) ผู้เป็นใหญ่ ผู้เป็นราชาแห่งเทพทั้งปวงกำลังนั่งจีบภูตสาวน่ารักตนหนึ่งอยู่ ตามตำนานต่าง ๆ ก็จะพบว่า ซูสนั้นเจ้าชู้มากมีความสัมพันธ์กับทั้งนางฟ้า ภูตทราย และมนุษย์ไปทั่ว เอคโค่เห็นซูสกำลังนั่งเอนหลังพิงหอกสายฟ้าสีน้ำเงินของเขา พลางส่งยิ้มให้ภูตสาวแห่งแม่น้ำตนหนึ่งที่อยู่บนไหล่ของเขา และอีกทางหนึ่ง ชายาของซูสกำลังใกล้เข้ามายังจุดที่ซูสอยู่กับภูตสาวตนนั้น ชายาของซูสคือ เทพีอีรา (Hera) ราชินีแห่งเทพทั้งมวล
เอคโค่ตกใจนัก เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าฮีราชายาผู้สุดจะขี้หึงของซูสนั้นร้ายกาจเพียงใด เมื่อใดก็ตามที่รู้ว่าซูกนอกใจ เอคโค่มีความหวังดี และมีจิตใจเป็นห่วงเป็นใย ไม่อยากให้เกิดการทำร้ายกันขึ้น เธอจึงรีบไปดักหน้าฮีรา ย่อตัวทำความเคารพอย่างสุภาพ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันไพเราะแต่แสร้งเปล่งเสียงให้ดัง ๆ เพื่อให้ซูส และภูตสาวตนนั้นได้ยิน
“ราชินีฮีรา ขอต้อนรับสู่ผืนป่า ข้ายินดีเหลือเกินที่ท่านมาที่นี่”
แต่คงจะมีใครไปแอบกระซิบเทพีให้มาที่นี่ เทพีฮีราจึงดุเอคโค่ว่า : “เงียบนะ ข้ากำลังจะมาจับผิดให้ได้คาหนังคาเขา”
แทนที่จะเชื่อนาง เอคโค่กลับพูดต่อไปอีกว่า : “วันนี้ช่างเป็นวันดี เป็นวันที่ข้าควรภูมิใจข้าได้ต้อนรับเทพผู้ยิ่งใหญ่หลายองค์ เมื่อครู่องค์ราชันย์ ซูสก็เพิ่งผ่านมาและถามหาท่านด้วยเพิ่งมาที่นี่เพื่อหาท่าน”
“ซูสน่ะหรือ ถามหาข้า?”
“ใช่ค่ะ ซูสถามข้าว่า ข้าเห็นท่านผ่านมาหรือไม่ ข้าบอกว่าข้าไม่เห็นท่าน เขาจึงจากไปอย่างผิดหวัง”
“จริงรึ ไม่น่าเป็นไปได้ แล้วเขาไปทางไหนล่ะ”
“ไปทางเขาโอลิมปัส”
แม้ฮีราจะไม่อยากเชื่อ แต่ได้ฟังดังนั้นก็อดปลื้มไม่ได้ นางจึงกล่าวขอบคุณเอคโค่ก่อนจะเดินไปอีกทางหนึ่งซึ่งเป็นทางไปสู่หุบเขาโอลิมปัส ฝ่ายซูสเมื่อได้ยินเสียงของเอคโค่ จึงรีบพรางตนและภูตแห่งแม่น้ำแอบอยู่หลังพุ่มไม้เมื่อฮีราจากไป ซูสก็ออกมากล่าวขอบคุณที่เอคโค่ช่วยเอาไว้ และตอบแทนการช่วยเหลือเป็นแหวนแซฟไฟร์สีน้ำเงินที่เขาสวมอยู่
เทพีฮีรากลับไปถึงโอลิมปัสอันเป็นเทือกเขาแห่งเทพนางไม่พบซูสที่นั่น ด้วยความเอะใจนางจึงกลับไปยังป่า และได้เห็นเอคโค่กำลังซื่นชมแหวนแซฟไฟร์วงใหญ่ที่ส่องประกายงดงามบนนิ้วของเธอ แน่ล่ะ ฮีราย่อมจำแหวนวงนั้นได้และรู้ทันทีว่านางไม้โกหกเธอซะแล้ว และแหวนวงนั้นเธอก็คงเนรางวัลจากซูสเป็นแน่
“เจ้าภูตต่ำทราม!” ฮีราตวาดก้องป่า
“เจ้าบังอาจหลอกลวงข้า ดีล่ะ ซูสให้รางวัลเจ้าแล้ว ข้าก็จะตอบแทนเจ้าให้สาสมเช่นกัน เจ้ามีเสียงที่ไพเราะนักใช่หรือไม่ เอคโค่ เจ้าใช้เสียงของเจ้าเพื่อนหลอกลวงข้า ข้าขอสาปเจ้าต่อจากนี้ไป เจ้าจะไม่สามารถพูดกับใครได้อีกเว้นเสียแต่คำสุดท้ายของคนอื่น ๆ ที่เจ้าได้ยิน”
สิ้นคำสาปฮีรา เอคโค่ก็อ้าปากจะร้องขอความกรุณา แต่ทว่าเธอไม่สามารถเปล่งเสียงใด ๆ ออกมาได้แม้แต่คำเดียว!
แล้วฮีราก็กล่าวอย่างสาแก่ใจว่า : “ต่อจากนี้ไป เจ้าจะยุ่งเรื่องของคนอื่นไม่ได้อีก เจ้าจะโกหกใครไม่ได้อีกตลอดไป”
“ตลอดไป...” เอคโค่พูดตามคำสุดท้ายของฮีราพลางสะอึกสะอื้นร่ำไห้
เมื่อลงโทษแล้ว ฮีราก็จากไปเพื่อตามหาซูส ภูตสาวสวยผู้ใจดีได้แต่ทรุดตัวลงนั่งร่ำไห้แล้วเธอก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นเพื่อกลับไปยังที่พำนักของเธอ ระหว่างทางเธอพบกับนาร์ซิสซัสเทพบุตรหนุ่มรูปงาม ตอนแรกเธอเห็นแสงสว่างส่องประกายคล้ายใบหน้าแห่งพวกเทพ เธอจึงหยุดดูและแล้วเธอก็ตกตะลึงเมื่อเห็นหนุ่มน้อยซึ่งอายุพอ ๆ กับเธอ และเขาช่างรูปร่างหน้าตาหมดจดงดงามยิ่งกว่าเทพบุตรทุก ๆ องค์ที่เธอเคยพบเห็น
หนุ่มน้อยมีผมสีเหลืองทองอร่ามราวกับดวงอาทิตย์ มีดวงตาสีน้ำเงินเข้มหรือสีแซฟไฟร์แบบเดียวกับแหวนของซูสที่กำนัลแก่เธอ เพียงแรกได้มองเห็นเขา ความเศร้าโศกเรื่องถูกสาปก็คลายลง มีแต่ความปลื้มปีติทวีขึ้นเรื่อย ๆ อา นี่เอง เขาผู้นี้เอง คือ ชายที่เธอตามหามาชั่วชีวิตเขาช่วงงดงามดั่งชายในฝัน ชายที่เธอคู่ควรโดยแท้
นาร์ซิสซัสกล่าวขึ้นว่า : “เจ้ารู้ทางหรือไม่ ข้ากำลังหาทางออกไปจากที่นี่”
เอคโค่รีบตอบทันใด แต่ทว่า เธอตอบได้เพียงพูดซ้ำคำสุดท้ายที่เธอได้ยิน! : “ที่นี่.. ที่นี่ ที่นี่ ที่นี่” เอคโค่ตอบ
นาร์ซิสซัสกล่าวต่ออีกว่า “ใช่แล้ว ข้าหลงทางหลายชั่วโมงแล้ว เจ้าพอจะช่วยได้มั้ย ข้างจะออกไปจากป่านี้ได้อย่างไร”
“ได้อย่างไร ได้อย่างไร ได้อย่างไร ได้อย่างไร” เอคโค่ได้แต่พูดซ้ำคำสุดท้ายของเขา ไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไร เอคโค่ก็ได้แต่พูดตามคำสุดท้ายของเขาจนนาร์ซิสซัสเริ่มไม่พอใจ
“อะไรกัน ทำไมเจ้าต้องพูดตามข้าทุกคำเลย”
“ทุกคำเลย ทุกคำเลย ทุกคำเลย ทุกคำเลย”
เอคโค่ตอบเป็นเสียงสะท้อน นาร์ซิสซัสมองเธออย่างไม่เข้าใจ แล้วเขาก็ติดสินจะเดินจากไปเมื่อเห็นว่าเธอไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้แน่
เรื่องราวของเอคโค่ ภูตสาวเสียงสะท้อนจะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามตอนต่อไป...
Credit : PaiLin
By Admin Park