11 ประเภท รูมเมทสุดน่ากลัว ที่หลายคนไม่อยากพบเจอ (แต่ก็ได้เจอ)
2015-01-22 09:55:00

หลังจากเคยได้นำเสนอ "25 ไอเดีย การเอาชีวิตรอดประสา "เด็กหอ" ต่างประเทศ" ไปแล้ว วันนี้ทีมงานตาโตของเรา จะขอนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตเด็กหอเช่นเดิมอีกเช่นกัน แต่จะเป็นเรื่องความน่ากลัวของบรรดาเหล่าเพื่อนร่วมห้องที่รับรองว่าใครก็คงไม่อยากเจอด้วยกันทั้งนั้น ว่าแต่... จะมีเพื่อนร่วมห้องประเภทไหนบ้างนั้น ที่ไม่เป็นที่ปรารถนาของใครหลายคน (เชื่อว่าคงมีในใจกันอยู่บ้างแล้ว) งั้นเรามาลองดูกันซิว่า จะมีข้อไหนตรงใจคุณกันบ้าง มาดูกันเลย....

 

 

1. ลูกอีช่างลื้อ

ของใครของมัน บางครั้งมันก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวหรือรู้จักเกรงใจกันบ้าง การมีเพื่อนร่วมห้องเป็นลูกอีช่างลื้อ ถือเป็นหายนะอย่างหนึ่ง ด้วยเพราะไม่ว่าอะไรที่คุณจะเก็บให้ดีขนาดไหนก็ย่อมถูกลื้อค้นและนำมาใช้อย่างไม่เกรงใจ จนบางครั้งคุณอาจเผลอคิดว่ากำลังอยู่ร่วมห้องกับมหาโจรหน้าตาใสซื่อก็ว่าได้ เอาเป็นว่า ถ้ารู้ว่ามันไม่ดี ก็ควรรักษามารยาทและให้เกียรติในความเป็นส่วนตัวของเพื่อนร่วมห้องกันด้วยนะ (อย่างน้อยขออนุญาตก่อนก็ยังดี~~)
 

 

2. อุ๊ย! ลืมไป... มีรูมเมทนิยมไม้ป่าเดียวกัน

อันนี้จัดเป็นข้อที่หนุ่มๆ ค่อนข้างกลัวกันมากเลยทีเดียว สำหรับการก้มเก็บสบู่ขณะอาบน้ำที่ไม่รู้ว่าจะปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งเราอยากจะบอกว่า ถึงแม้เพื่อนร่วมห้องจะเป็นเพศไหนก็ตามที่แตกต่างจากคุณ ไม่ได้จำเป็นว่าเขาจะต้องน่ากลัวสำหรับคุณเสมอไป บางทีคุณอาจค้นพบว่าที่ปรึกษาที่ดีที่สุดของคุณคนหนึ่งก็คือเพื่อนร่วมห้องที่นิยมไม้ป่าเดียวกันก็ได้นะเออ~~~ (คนเราดูกันที่นิสัยไม่ใช่เพศนะจ๊ะ!)

 

 

3.  คอทีวีตัวยง
ดูทีวีไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่ถ้าจะดูไม่รู้จักเวลาจนรบกวนคนอื่น อันนี้ก็ไม่ไหวเช่นกัน อย่างเช่น การเชียร์บอลแมทสำคัญในช่วงเวลาดึกดื่นเที่ยงคืน ก็ควรระมัดระวังเรื่องเสียงที่อาจจะไปรบกวนเพื่อนร่วมห้องข้างๆที่กำลังหลับไหลหรือกำลังทำงานอยู่ก็ได้  เบาๆสักนิด แค่ไม่รบกวนกันก็พอ~~ (ถึงแม้จะแอบคิดเรื่องค่าไฟอยู่บ้าง ก็ไม่เป็นไร)
 

 
4.  นักร้องโอเปร่าแห่งห้องอาบน้ำ
ไม่ว่าเพื่อนร่วมห้องของใครก็ตามแต่จะมีเสียงไพเราะเสนาะหูขนาดไหน แต่ถ้าคิดจะร้องแหกปากเสียงดังโดยไม่ดูเวลานั้น มันก็ไม่เกิดประโยชน์ทั้งสิ้น โดยเฉพาะช่วงเช้าๆ ที่เพื่อนร่วมห้องอีกคนยังไม่ตื่น ไม่อยากจะคิดเลยว่า เสียงปลุกกังวานประสานกับเสียงน้ำจากห้องน้ำนี้จะรบกวนขนาดไหน... ลั้นลาๆ~~~
 

 

5. ล้างจานไม่เป็น?

แหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี คงหนีไม่พ้นอ่างล้างจานนี่แหละ ยิ่งถ้าหมักหมมเป็นเวลานาน หนู มด แมลงสาบ หรือแม้กกระทั่ง หนอน ก็อาจมาเยือนชีวิตคุณได้ ดังนั้น การมีเพื่อนร่วมห้องที่รู้จักล้างจานชาม ทำความสะอาดสิ่งที่ช่วยกันกินและสร้างมันขึ้นมา ก็ถือเป็นพรอย่างหนึ่งจากพระเจ้าที่จะช่วยให้ชีวิตคุณมีสุขอนามัยขึ้นได้ไม่ยาก

 

 

6.  ประหยัดน้ำ ในที่ๆ ไม่ควรประหยัด
แหม่... ถ้ามีรูมเมทเป็นคนที่รู้จักประหยัดโน่นนี่นั่น เพื่อลดค่าใช้จ่ายมันก็ดีอยู่นะ แต่สำหรับการประหยัดน้ำในชักโครกนี่สิ! มันไม่น่าให้อภัยเลยจริงๆ เพราะในหลายๆ ห้องพักที่มีห้องน้ำในตัว สมาชิกในห้องก็ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน แต่ถ้าพี่แกจะปลดทุกข์หนักหรือเบา โดยเก็บไว้กดน้ำทีเดียวภายหลัง มันก็ดูจะเป็นการทำร้ายคนที่มาใช้ต่อจากพี่แกเกินไป ดังนั้นการมีรูมเมทนักประหยัดน้ำชักโครก จึงถือเป็นทุกข์ด้านสุขภาพลูกตาก็ว่าได้

 

 

7.  วิศวกร นักสร้างตึก (จากกองขยะ)
หากหลายคนกำลังนึกถึงการมีรูมเมทเป็นวิศวกร เราขอบอกว่าคุณกำลังเข้าใจผิด เพราะเรากำลังหมายถึงการต้องเจอกับคนประเภทวิศกรจอมสร้างตึกจากขยะ ที่หลายคนคงส่ายหน้ากันไปตามๆกัน เพราะนั่นหมายถึงคุณกำลังมีรูมเมทจอมซกมก สกปรก และขี้เกียจขั้นเทพในคนๆ เดียวกัน บางทีการจะอาศัยอนชยู่ร่วมกัน มันก็ต้องรักษาความสะอาดหรือช่วยๆกันเอาขยะออกไปทิ้งบ้างนะ ห้องจะได้ไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคจนเกินไป

 

 

8.  ขี้ร้อน ขี้หนาว ไป๊!

ถือเป็นปัญหาโลกแตกอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ สำหรับผู้ที่มักมีอุณภูมิความชอบที่เหมาะสำหรับร่างกายต่างจากคนข้างๆ เกินไป อากาศร้อนก็ว่าหนาว อากาาศหนาวก็ว่าร้อน แถมยังปรับอุณภูมิห้องตามใจชอบ โดยไม่คิดจะถามความคิดเห็นคนข้างๆ สักนิด  เอาเป็นว่า ถึงอย่างไรก็ต่างต้องเป็นเพื่อนร่วมห้องกันอีกนาน เดินทางสายกลางบ้างอะไรบ้างก็คงจะดี ปรับแอร์คนละครึ่งก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจนะ

 

 

9.โลกส่วนตัวสูงงงงงง... คนคนอื่นเอื้อมไม่ถึง

เพราะคนเราเกิดมาไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยการอยู่เพียงลำพัง การสานสัมพันธ์กับคนรอบข้างบ้าง นอกจากจะเป็นการผูกมิตรที่ดี ยังทำให้เราเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ กับการแลกเปลี่ยนแนวคิดหรือความรู้ต่างๆ กับคนรอยข้างอีกด้วย ต้องบอกว่า... ในปัจจุบันหรือที่ผ่านๆมานั้น มีคนจำนวนมากที่เลือกจะปิดกั้นตัวเองจากสังคมด้วยเหตุผลแตกต่างกันไป บ้างก็เพราะ กลัว หวาดระแวง หรือมีอคติ อยากจะบอกเหลือเกินว่า โลกใบนี้ไม่ได้โหดร้ายไปเสียหมด เรื่องไม่ดีอาจมีผ่านมา แต่เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป การไม่จมอยู่กับเพียงความคิดหรือความรู้สึกของตัวเองจนเกินไปนั้น จัดว่าเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะทำให้เราพ้นจากทุกข์ได้ ดังนั้น ถึงแม้ใครจะโลกส่วนตัวสูงแค่ไหนก็ตาม และคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่คนรอบข้างยังไม่สามารถเอื้อมถึงได้ ขอเเนะนำว่า อาจถึงเวลาแล้วที่เหล่าผู้มีโลกส่วนตัวสูงทั้งหลาย ควรยื่นมือไปคว้าความหวังดีของคนรอบข้างแทนแล้วเสียที
 
 
10. ทำตัวเป็นมนุษย์เมนส์ (ถึงแม้จะเป็นผู้ชายก็ตาม)
ถ้าห้องพักเป็นเหมือนบ้านอีกหลังของบรรดาใครหลายๆ คนที่อาศัยอยู่ด้วยก็เป็นเหมือนครอบครัวอีกคนหนึ่ง และไม่มีใครอยากให้คนที่อยู่ข้างๆ ที่ตื่นมาเห็นหน้ากันทุกวัน มีอารมณ์บูดบึ้งที่ชวนปวดจิตอย่างแน่นอน ยิ่งโดยเฉพาะการต้องมีเพื่อนร่วมห้องเป็นคนงี่เง่าด้วย ย่อมสร้างภาระทางจิตใจให้เสียสุขภาพจิต ดังนั้น คิดถึงใจเค้าใจเรา มองโลกในแง่ดีเข้าหากันบ้างอะไรบ้าง จะได้ทำให้โลกของทุกคนสดใสยิ่งขึ้นนะ
 
 
11.  แปลก! ผิดผู้ผิดคน!!
การมีบุคลิกเป็นของตนเอง ไม่ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายอะไร แถมยังเป็นข้อดี ที่จะสามารถทำให้เป็นที่สนใจและจดจำได้ของคนรอบข้าง แต่ถ้าบุคลิกมันจะแปลก-พิศดาลเกินความเป็นมนุษย์ทั่วไป มันก็มีแต่จะส่งผลในแง่ลบกับตัวเองเท่านั้น โดยเฉพาะเพื่อนร่วมห้องที่จะเป็นจะต้องอาศัยหลับนอนกับบุคคลประเภทนี้ ถือเป็นเรื่องน่าหวาดผวามิใช่น้อย เพราะอาจเป็นสิ่งมีชีวตที่เขาไม่สามารถเดาทางได้ถูก ดังนั้นหากคนประเภทนี้คิดจะอยู่ร่วมห้องกับใครก็โปรดคิดถึงสภาพจิตใจเพื่อนร่วมห้องกันบ้างงงงง...~ หรือไม่ก็แยกห้องกันอยู่เสียยังดีกว่านะ จะได้ไม่เป็นภาระต่อสภาพจิตใจเกินไป

 

 

โอววววว~~~~ อยากรู้จังว่ามีใครเคยเจอแบบนี้มาแล้วกันบ้าง...?

แต่หวังเหลือเกินว่าทุกคนจะสามารถผ่านพ้นมันไปได้ด้วยดี.

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก distractify.com 

By : Admin@no_สวยสึดๆ


Admin :
view
:
7436

Post
:
2015-01-22 09:55:00


ร่วมแสดงความคิดเห็น