แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จราจรทางบก

หากเจอด่านแล้วไม่ยอมตรวจแอลกอฮอล์ - ให้สันนิษฐานได้ก่อนว่าเมาแล้วขับ !! 

รายงานข่าว : การประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์ที่แล้วได้มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่...) พ.ศ... เพื่อแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ร่างดังกล่าวจะแก้ไข 2 ประเด็นสำคัญ คือ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 142 เกี่ยวกับกำหนดข้อสันนิษฐานในกรณีผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ทดสอบว่าหย่อนความ สามารถในการขับขี่โดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งร่างแก้ไขเพิ่มเติมใหม่จะให้อำนาจแก่ เจ้าพนักงานจราจร หรือ พนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้ผู้ขับขี่หยุดรถ เมื่อเห็นว่ารถนั้นมีสภาพไม่ถูกต้องตามที่บัญญัติไว้ และในกรณีที่ผู้ขับขี่มีพฤติการณ์อันควรเชื่อว่าเสี่ยงเมาสุรา หรือขับรถในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับหรือขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นหรือไม่ กฎหมายใหม่ระบุอำนาจเจ้าพนักงานจราจรว่า สามารถสั่งให้ผู้ขับขี่ขับรถเข้าช่องทางที่มีกรวยวางตั้งไว้ พร้อมให้ไขกระจก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ยื่นอุปกรณ์เข้าไปทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในรถได้ หรือทำการเรียกให้ผู้ขับขี่เป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ รวมทั้งสั่งให้ลงจากรถ เพื่อดูว่าร่างกายสามารถรักษาสมดุลของการเดินได้หรือไม่ หากผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ทดสอบ ให้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้นั้นเมาสุรา เพื่อเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินคดีฐานขับรถขณะเมาสุราได้

สำหรับบทลงโทษหากมีการฝ่าฝืนร่างกฎหมายใหม่ กรณีผู้ขับขี่ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานในการทดสอบ เดิมระวางโทษปรับครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท กรณียินยอมให้ทดสอบแต่พบว่าเมาสุราขณะขับรถ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบขับขี่ แต่กฎหมายใหม่ได้ปรับเพิ่มความเข้มงวดในการเอาผิดทางกฎหมาย โดยกรณีไม่ยินยอมให้ทดสอบให้สันนิษฐานว่า มีเหตุอันควรเชื่อว่าเมาไว้ก่อน จะมีบทลงโทษคือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยผู้ถูกกล่าวหาไปสืบพยานหักล้างในศาลได้ โดยเหตุผลที่ต้องทำการเพิ่มบทลงโทษนั้น สืบเนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ขับขี่มักปฏิเสธให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ อีกทั้งการขับรถขณะเมาสุรามีโทษน้อยมาก จึงมักละเลยการขับรถโดยประมาท ดังนั้นการแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติมจึงถือเป็นมาตรการป้องปรามและขอความร่วมมือ จากประชาชนเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ทางหนึ่ง โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะอยู่ระหว่างรอการนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาเพื่อผ่าน ร่างและมีผลบังคับใช้ต่อไป

ซึ่งพอสรุปพอเข้าใจง่ายๆได้ว่า เจ้าหน้าที่นั้นมีอำนาจ 1.ทดสอบ และกักตัวเพื่อทำการทดสอบได้ 2.หากไม่ยินยอมทำการทดสอบให้สันนิษฐานว่าเมาสุรา และสามารถดำเนินคดีได้ จากเดิมที่ไม่มีข้อสันนิษฐานในการให้จับกุมได้ สรุปว่าเมื่อเมาสุราแล้วไม่ให้ทำการตรวจ เพื่อจะรอว่า ตร.จะดำเนินคดีแค่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเหมือนที่ผ่านๆมา เพื่อลงโทษแค่ปรับนั้นไม่ได้แล้ว โปรดระมัดระวังในการขับขี่รถบนท้องถนน เพื่อชีวิตผู้อื่น และชีวิตของคุณเองด้วยนะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ข้อมูลข่าวออนไลน์ และ khaosod.co.th ; ภาพประกอบโดย news.sanook.com และ j-campus.com : ทีมงานตาโตดอทคอม นำเสนอ