เทคนิค วิธีแก้ไขการนอนไม่หลับ 36 ข้อ
เคล็ดลับดีๆ ที่คุณควรรู้เอาไว้.เผื่อคุณอาจนำไปใช้ก่อนจะนอนไม่หลับ ^_^
เมื่อคุณอยากจะหลับ แต่ ทำอย่างไรก็ นอนไม่หลับ ... อ่าว เป็นเรื่องแล้วล่ะสิ ไหนจะเครียดเรื่อง ในบ้าน นอกบ้าน แล้ว ยังจะต้องมา เครียด เรื่องการนอนไม่หลับของตัวเองอีก ดังนั้นก่อนที่อาการนอนไม่หลับ จะไล่ตามมาเล่นงานคุณให้หงุดหงิด ตาโหล ตาบวมฉึ่ง ไปทำงาน มาลองหาวิธีแก้ไขกับ 36 เคล็ดลับเด็ดๆ ที่เรานำมาเสนอให้คุณดีกว่า อย่ามัวข่มตานอนแล้วไม่หลับซักทีอยู่เลย … ลองเข้ามาอ่านกันดูเพื่อนๆ ^_^
1.อย่าเข้านอนเพราะว่า "ถึงเวลานอนแล้ว" แต่จงเชื่อนาฬิกาธรรมชาติในตัวของคุณเอง ถ้าคิดไม่ออกว่าเป็นตอนไหน ขอให้รู้ไว้ว่าร่างกายจะสื่อให้คุณทราบเองเมื่อถึงเวลา แต่ว่า มนุษย์เราเองนี่แหละที่ไม่รู้ความหมายอยู่บ่อย ๆ ซึ่งได้แก่ การหาวนอน อาการแสบตา ความรู้สึกประเภท "ลานจะหมด" หัวจะทิ่มลงท่าเดียว ส่วนหนังตา ก็หย่อน พาลจะหลับให้ได้ …. ถ้ายังไม่รับทราบสัญญาณเหล่านี้ คุณก็จะพลาดรถไฟ สายเจ้าหญิงนิทรา และจะต้องรอไปอีกสองชั่วโมง จึงจะง่วงนอนอีกครั้ง เนื่องจากต่างคนต่างก็จะมีช่วงจังหวะเวลาของตัวเอง จึงเปล่าประโยชน์ที่คุณจะเข้านอนแต่เนิ่น ๆ ถ้าคุณเป็นสมาชิกครอบครัว นอนดึก หรือรอจนดึกดื่น จึงเข้านอน ถ้าคุณเป็นพวกนอนหัวค่ำ
2.อย่าได้นอนผิดเวลาเป็นประจำทุกวัน ถ้าคุณรับประทานอาหารประมาณเวลาเดิม ก็ขอให้เข้า นอน และ ตื่นนอนตามตารางเวลาเดิม ให้เป็นประจำด้วย มิฉะนั้นคุณก็เสียง ที่จะง่วงเหงาหาวนอน ผิดเวล่ำเวลา ไปตลอด
3.ทดลองหลับเพียงแว่บเดียว ทำเหมือนจิตรกรซัลวาดอร์ ดาลี ที่ดูเหมือนเป็น หนึ่งใน บรรดา ลูกสมุนของเทคนิค "แสงแว่บ" เรียกสติคืนมา นั่งบน เก้าอี้โซฟา มือถือช้อนชาคันหนึ่ง ตรงปลายเท้าของคุณวางจานโลหะ ไว้หนึ่งใบ เมื่อผล็อย หลับ มือก็จะปล่อยช้อนหล่นลงมาบนจานโลหะ ส่งเสียงดัง ซึ่งจะปลุกคุณให้ตื่น ในทางทฤษฎีถือว่าอาการของคุณปกติดี คำอธิบายก็คือเมื่อคุณหลับตา คุณจะสามารถตัดข้อมูล ไม่ให้เข้าสู่สมองได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ โดยควรฝึกวันละหลายครั้ง (หากมีเวลา และ ทำได้)
4.พักกลางคัน ถ้าคุณไม่สนใจพักแป๊ปเดียวเพื่อให้ตนเอง กระปรี้กระเปร่า ก็ใช้วิธีนี้แหละจะดีที่สุด คือ นั่งท่าสบาย ๆ อยู่ที่โต๊ะ ทำงาน ของตัวคุณเอง หนุนศีรษะบนแขนที่ไขว้ กัน หรือนอนท่าเหยียดยาว หลับตาและปล่อยตัวตามสบาย 5 นาที เพื่อผ่อนคลาย ง่าย ๆ (แต่อย่าเผลอหลับในเวลางานนาน หรือ บ่อยๆเป็นประจำ นะ อาจถูกไล่ออกได้ จะบอกให้)
5.สะสมการนอน "ช่วงสั้น" ใน วันทำงาน คงยากที่ จะนั่งสัปหงกหน้าแป้นพิมพ์ คอมพิวเตอร์ ให้คนในออฟฟิศเห็นบ่อยๆ ดังนั้น ตอนบ่ายอ่อน ๆ เก็บสะสมความอยากเอนหลังนาน ๆ เป็นชั่วโมงครึ่ง ถึง สองชั่วโมง (ซึ่งเป็นหนึ่งวัฏจักรของการ นอนหลับพักผ่อน ที่เต็มอิ่ม) เอาไว้มา ชดเชยตอนบ่ายของวันสุดสัปดาห์ คุณจะได้พักผ่อนอย่างอิ่มเอม แถมได้ใช้หนี้ความเหนื่อยล้าที่มีมาตลอดสัปดาห์ให้ครบเลยทีเดียว
6.บอกเลิกการตีเทนนิสหรือการออกกายบริหารที่ ฟิตเนสทุกเย็นวันอังคาร นอกเสียจากว่าคุณไม่ กลัวนอนดึก การเล่นกีฬาตอนหัวค่ำยิ่งไม่เอื้อ ต่อการนอน เพราะทำให้ร่างกายสดชื่นตื่นตัว แต่ก็อีกนั่นแหละ ต้องจับตาดูความรู้สึกส่วนตัวของแต่ละคน เพราะสิ่งที่ทำให้คนใกล้ตัว หลับบางที คือสิ่งที่กลับปลุกให้คุณตื่น (แต่การออกกำลังกายเบาๆไม่หนักไม่หักโหม ช่วงเย็นก็ดีต่อสุขภาพเช่นกันนะ อยู่ที่คุณแล้วว่าจะบริหารเวลาให้เหมาะสมเช่นไร)
7.ลงมือฝึกชี่กง (ลมปราณ) ชี่กงเหมาะมากสำหรับสงบความคิดจิตใจ และขจัด ความอ่อนเพลีย ในไม่ช้าคุณจะเรียนรู้ที่จะทำท่าที่ชวนให้ง่องนอนเป็น และคุณจะติดการนอนเร็วและหลับลึก ถ้าหากคุณได้ตั้งใจเรียนรู้และฝึกฝน ชี่กง จนถึงระดับหนึ่ง
8.รับประทานอาหารค่ำแต่หัวค่ำ คุณจะรู้สึกว่าเวลาช่วงค่ำของคุณจะยาวนานขึ้น พร้อมทั้ง ควรหลีก เลี่ยงการเข้านอน "ขณะที่ยังย่อยอาหารอยู่" ปล่อยให้เวลาผ่านไป อย่างน้อย สอง ชั่วโมงหลังอาหารค่ำแล้วจึงค่อยนอน
9.ค้นพบความเพลิดเพลินและประโยชน์ของการเดินย่อยอาหารมื้อค่ำ (ตามความสะดวก ความชอบ ความเหมาะสมของสถานที่ และเวลาของแต่ละท่าน)
10.ควรละเว้นสารกระตุ้นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ กาแฟ น้ำชา ซึ่งโดยความจริงมนุษย์ส่วนใหญ่ยังคงละเลยอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีความสามารถรับและ มีปฏิกริยาโต้ตอบพิเศษกับคาเฟอีนก็ตาม แต่ว่าระบบเผาผลาญของบางคนนั้นต้อง ใช้เวลาสิบสอง ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเพื่อกำจัดกาแฟเพียงถ้วยเดียว เลยทีเดียว ดังนั้นจึง ไม่น่าแปลกใจ ที่คำว่า "kawa" หรือ "กาแฟ" ในภาษาอาหรับหมายถึง "ตัวทำลายความง่วง"นั่นเอง
11.จงหาวซะ ถ้าเกิดง่วงนอนและหากมีอาการหาวบ่อย ๆ การบังคับตนเองให้หาว จะช่วย ผ่อนคลาย ได้และทำให้อยากนอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้า ได้ยืดแข้งยืดขาเบาๆไปด้วยจะยิ่งดี
12.ดื่มเครื่องดื่มชาสมุนไพรที่มีคุณสมบัติในการกล่อมประสาทอย่าง ชาคาโมมายล์ ลาเวนเดอร์จะช่วยให้คุณผ่อนคลายและนอนหลับได้ดีขึ้น
13.ควรลดปริมาณอาหาร และ กลูไซด์ (อินทรียสารในคาร์โบไฮเดรต) ตอนมื้อค่ำ หลีกเลี่ยงน้ำตาล ของหวานที่หวานจัด น้ำผึ้ง น้ำอัดลม ... เพราะเสี่ยงที่จะ เสริม ให้โลหิตของเรามี ปริมาณกลูโคสต่ำกว่าปกติในช่วงเวลาตอนกลางคืน
14.รับประทานแอปเปิ้ล ผักกาดหอม และผลิตภัณฑ์จากนม ตามความเชี่อที่ว่า อาหารเหล่านี้เป็นเพื่อนกับความง่วง เพราะประกอบด้วยสารหลักใน ตัวยาที่ออกฤทธิ์ วิตามินและเอ็นไซม์ที่เป็นสื่อกลางช่วยให้ง่วงเหงาหาวนอน ควรเลือกผลิตภัณฑ ์จากนมที่ย่อยได้ง่ายที่สุด อย่างโยเกิร์ต (นมเปรี้ยว) นมข้น และเนยแข็งสีขาว ดีกว่าพวกเนยแข็งที่ไขมันสูงและผ่านการหมักเชื้อ สำหรับอาหารค่ำ ควรเลือกอาหารจำพวกปลานึ่ง ผักนึ่ง และผลไม้ที่ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหาร ที่มีไขมัน ผลิตภัณฑ์จากหมูเนื้อ เครื่องเทศและเครื่องปรุงรส จะเป็นการดีอย่างยิ่ง
15.ก่อนเข้านอนอย่าดื่มน้ำมากจนเกินไป แต่ให้ดื่มมาก ๆ ในระหว่างวัน โดยตั้งแต่ช่วงเวลา 18 นาฬิกา เป็นต้นไปนั้น ควรลดการบริโภคของเหลว
16.ปกป้องตนเองให้พ้นจากเสียงรบกวนหาอุปกรณ์ที่ปิดหูหรือติดกระจกซ้อนสองชั้น ปูพรมตลอดห้อง ใช้เพดาน เก็บเสียง ต่างๆตามความเหมาะสม …. เพื่อลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อม ที่เราใช้ชีวิตอยู่ ซึ่งมีส่วนในการลดทอนคุณภาพการนอนของเราได้มากเช่นกัน
17.หัวเราะวันละหลาย ๆ ครั้ง การหัวเราะเป็นกิจกรรมตามธรรมชาติและเกิดขึ้นเอง ซึ่งเป็นการรักษาสมดุลของระบบประสาท สำหรับบางคน "หัวเราะนาทีเดียวมีค่าเท่ากับการ ผ่อนคลายร่างกายสี่สิบห้านาทีเต็ม" บอกเลย
18.การพักผ่อนนอนหลับเป็นเรื่องใหญ่ ที่นอนจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ จงหันไปเลือก ฟูก ขนาด 160 คูณ 200 ซ.ม. กว้างขวางกว่าฟูกมาตรฐานขนาด 140 คูณ 190 ซ.ม. หรือไม่ก็ไปหาฟูกแบบอเมริกัน เลือกตามชอบใจว่าจะเป็น คิงไซส์ ขนาด 190 คูณ 200 ซ.ม. หรือแคลิฟอร์เนียนคิงไซส์ ขนาด 180 คูณ 210 ซ.ม. จะทำให้คุณนอนหลับสบายขึ้นได้ (แต่ก็พิจารณาตามกำลังทรัพย์ ขนาดที่พักอาศัย และอะไรๆที่เหมาะสมของแต่ละท่านด้วยนะคะ)
19.เพื่อความสมดุลแห่งความสงบ เวลานอนควรตรวจสอบทิศทางที่ถูกต้อง สำหรับการวาง เตียงนอน คือให้ศีรษะหันไปทางทิศเหนือ เท้าไปทางทิศใต้ตามทิศทาง ของคลื่นแม่เหล็กโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่าให้ศีรษะหันไปทางทิศ ตะวันออก เป็นอันขาด
20.ถ้าคุณจำเป็นต้องทำการทาสีผนังห้องนอนใหม่ ขอให้ทราบด้วยว่าสีฟ้ากลาง ๆ เป็นสีสำหรับ การนอนที่ดีที่สุด
21. ศูนย์ความรู้สึกตื่นของเราค่อย ๆ หรี่จาก แสง สว่างจ้าให้มืดลงเรื่อย ๆ (กรองแสงสว่างเหมือนกับการหรี่ไฟ) จึงควรลดไฟฟ้าในห้องนอนของคุณ หรือปิดตาสักครู่ ก่อน ดับไฟ คุณจะช่วยร่างกายให้ปฏิบัติหน้าที่ ง่ายขึ้นโดยช่วงเวลา เปลี่ยนแปลงคือ สองสามนาที และปฏิบัติกลับกันในตอนเช้า
22.ไม่ควรนำต้นไม้ใบเขียวไว้ในห้องนอน อย่างน้อยเวลากลางคืน เพื่อ หลีกเลี่ยง ไม่ให้ มาแย่งออกซิเจน กับเรา ..
23.ใช้วารีบำบัด สปา บางแห่งเสนอวิธีบำบัดที่ช่วย ให้คุณค้นพบกุญแจ สำหรับการ นอนหลับใน โปรแกรม ประกอบด้วยการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ในสระว่ายน้ำ ที่บรรจุน้ำทะเลอุ่น ๆ ตามด้วยเสียงดนตรีใต้น้ำ การแช่น้ำ ในอ่างจากุชซี่ที่ผสม หัวน้ำมันดอกลาเวนเดอร ์ซึ่งจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และทำให้การนอนหลับดีขึ้นได้ (แต่กรณีนี้ เงินในกระเป๋าคุณอาจจะ … !!!)
24.อย่าให้ห้องนอนของคุณนั้นร้อนจนเกินไป จะดีที่สุดนั้นให้อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 20 ถึง ประมาณ 25 องศาเซลเซียส จะทำให้คุณนอนหลับได้ดีและสบาย
25.ควรควบคุมการหายใจขณะตื่นอยู่ ร่างกายเพิ่มการหายใจในระดับทรวงอกเอง โดยสัญชาตญาณ จงหายใจเข้าช้า ๆ และลึก ๆ โดยใช้ท้องอย่างไม่ต้องฝืน และ ต่อเนื่องกันอย่างราบรื่น โดยหายใจออกแล้วหยุดไว้สองวินาที ก่อนหายใจใหม่ อีกครั้ง การหยุดช่วงสั้น ๆ นี้มีบทบาททำให้ระบบประสาทสงบลง ให้ปฏิบัติ การหายใจ ในท่านอนเหยียดยาว ก่อนนอน
26.นวดตัว โดยเน้นที่เท้า กลุ่มเส้นประสาท เส้นโลหิต หรือต่อมน้ำเหลือง ด้วยน้ำมันหอม ระเหยผสมลงไปในน้ำมันฐาน หรือครีมที่เป็นกลาง ถ้าชอบจะ เพิ่มน้ำมันหอมระเหย (ดอกลาเวนเดอร์ ดอกมาร์จอแลน ดอกบาซิลิก หรือเนโรลี) โดยหยดผสมไปกับน้ำมันฐาน (น้ำมันหอม ระเหยมากที่สุด 5 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันฐานถ้าเป็นไปได้ ใช้ชนิดบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ตามธรรมชาติ) เทคนิคอื่นๆในการคลายเครียดเพิ่มเติม ได้แก่ การใช้ฝ่ามือทั้งสองนวด โดยกางนิ้วออก นวดศีรษะเบา ๆ ไล่จากคางขึ้น ไปถึงหน้าผาก แล้วย้อนกลับ ลงมาที่ท้ายทอย คุณ นวดที่หางตาได้ ด้วยเช่นกัน
27.ฝึกการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ วิธีนี้จะช่วยลดภาวะตึงเครียด สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ การนอนง่ายๆคือ การบังคับควบคุม ความรู้สึกของสายตาและไม่คิดอะไรอีกต่อไปได้สำเร็จ ขณะนอนหลับ สัมผัสทั้งห้าของเราจะถอดสายปลั๊ก ตามธรรมชาติ เริ่มต้นจาก การมอง การรับกลิ่น การรับรส การสัมผัส และสุดท้ายคือ การได้ยิน
28.อาบน้ำร้อน โดยค่อย ๆ เพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้นจาก 35 ถึง 39 องศาเซลเซียส การทำเช่นนี้มี ปฏิกริยากล่อมประสาทให้ง่วงนอน (สำหรับแปดในสิบหน) คุณสามารถเติมสมุนไพรสกัดลงในอ่างน้ำร้อนได้ แต่เพื่อความเพลิดเพลิน เท่านั้น เพราะมีเพียงความร้อนเท่านั้นที่ ทำปฏิกริยา คุณเพียงแต่แช่ เท้าใน น้ำร้อน ก็ได้ ซึ่งจะต่อเนื่องถึงอุณหภูมิของร่างกาย และมีผลผ่อนคลายกลุ่มร่างแหเส้นประสาท หรือเส้นโลหิต หรือหลอดน้ำเหลือง ให้ปฏิบัติ ก่อนเข้านอน ซึ่งคุณจะรู้สึกผ่อนคลายและเริ่มรู้สึกง่วง ตัวเบาๆ … และนั่นคุณได้สิทธินั้นแล้ว รีบล้มตัวลงนอนในทันที
29.เพียงแค่วางมือทั้งสองข้างบนหน้าท้อง ความร้อนจากมือช่วยผ่อนคลาย อวัยวะภาย ในช่องท้องที่ ขวางการไหลเวียนพลังงาน (บางศาสตร์มีการคลึงเบาๆร่วมด้วยก่อนจะวางมือหยุดนิ่ง ซึ่งเป็นท่าธรรมชาติปกติที่คุณเองก็ทำอยู่บ่อยๆ เพียงแต่ไม่ค่อยนึกถึงนั่นเอง)
30.อย่าทำการคาดหมายล่วงหน้า พยายามอย่านึกคิดล่วงหน้าถึง การนัดหมาย สำคัญทาง อาชีพการงานใน วันรุ่งขึ้น แนวคิดคือเข้านอนดึกด้วย ความกังวลจะทำให้ คุณหลับ ไม่ลง และหลับได้ไม่ลึก (บางครั้งคุณจะตื่นบ่อยๆ ก่อนเวลา และนอนต่อ และตื่นอีก .. และอาจทำให้การนอนหลับกลายเป็นร่างกายเพลียเพราะนอนไม่เต็มอิ่มได้ในวันรุ่งขึ้น)
31.ควรผ่อนคลายตัวเองด้วยการหลับตาและจินตนาการถึงการอาบน้ำ ฝักบัวเย็น ฉ่ำ ที่ราดรด ลงมาจาก ศีรษะแล้วไหลไปตามลำคอ เพื่อชักนำและพาความเครียดทั้งวันที่ผ่านมาให้ไหลไปตามสายน้ำ หรือใช้วิธีหายใจลึก ๆ อย่างรู้สติเป็นชุด ๆ ผสมผสานกับการคิดแต่ในแง่ดี คิดบวก ("ฉันยอมหลับอย่างวางใจ" "ฉันรู้สึกผ่อนคลาย เต็มที่"เป็นต้น)
32.ช่วงเวลา สามชั่วโมงก่อนนอน บอกเลิกกิจกรรมทุกอย่างที่คร่ำเคร่งและใช้สติปัญญา ควรหยุดอ่านหนังสือ ถ้ามันจุดจินตนาการของคุณให้ทำงาน ผลักดันให้ฝัน หรือ ใช้ความคิดใคร่ครวญ … เพราะเวลานอนจะกลับเป็นเวลางานได้อย่างไม่น่าเชื่อ
33.พยายามคอยสังเกตสิ่งที่คุณทำแล้วหลับได้สนิทดี เพื่อที่จะได้นำกลับมาใช้ใหม่ ในค่ำคืน ที่คุณนอนไม่หลับสักที (ซึ่งหลายๆท่านมีวิธีแตกต่างกันไป บางท่านนับแกะ(แต่ขอบอกใช้ได้จริงๆนะ) …??? บางท่านหาของอุ่นๆมารับประทาน บางท่านอาบน้ำอุ่นนานๆอีกครั้ง .. ซึ่งก็แล้วแต่เทคนิคของแต่ละท่าน
34.อย่ายึดติดกับการทำงาน การอ่านหนังสือ การอ่านและติวหนังสือ หรือการคิดฝันอะไรๆก็ตาม ในช่วงเวลากลางคืน (ซึ่งปัจจุบันการอ่านหนังสือสอบในช่วงดึก การทำงานในช่วงเวลากลางคืน การประชุมหรือการนัดอ่านหนังสือทำการบ้านในช่วงดึกๆ ได้กลายเป็นปัญหาสิ่งหนึ่งที่ทำให้การนอนหลับในเวลาที่เหมาะสมไม่เป็นไปตามธรรมชาติ และเป็นหนึ่งในเหตุของการนอนไม่หลับในยุคสมัยปัจจุบัน ที่เป็นยุคแห่งการแข่งขัน เร่งรีบ และใช้เวลามากมายไปทำสิ่งที่ บางครั้ง..ไม่แน่ใจว่าจะคุ้มค่าหรือไม่กับการบั่นทอนสุขภาพของตัวเราเอง…สังเกตได้จาก ร้านกาแฟที่เปิดถึงดึก ร้านอาหารจานด่วน 24 ชม. ซึ่งเวลาเที่ยงคืนเต็มไปด้วยนักเรียน นักศึกษา และนักธุรกิจ ..!!!) ลองปรับลดลงบ้างตามความจำเป็น และรีบกลับไปนอน .. เชื่อเถอะว่าสมองของคุณจะปลอดโปร่งกว่าเดิม อีกทั้ง ร่างกายของคุณก็จะแข็งแรงกระปรี้กระเปร่าขึ้นเช่นกัน
35.โซเชียล ออนไลน์ ยูทูป ทีวี เคเบิ้ล ฟุตบอล หนังซีรีย์ แท็บเล็ต มือถือ เกมส์ ต่างๆ .. อันนี้ไม่ปิดกั้นหรือห้ามนะ แต่เป็น อันดับต้นๆเลยของการนอนไม่หลับและร่างกายเพลียจากสายตาที่ล้า เพราะปัจจุบันคนเราติดการสื่อสารในสื่อออนไลน์ ติดการเล่นเกมส์ที่ต้องแข่งขันและเอาชนะ ติดดราม่าซีรีย์หรือละครต่างๆ ติดข่าวสารที่แต่ละวันไหลออกมาเป็นน้ำป่าไหลหลาก และอื่นๆอีกมากมายกับยุคเทคโนโลยีครองเมือง .. แต่ถ้าคุณสามารถ ปรับการเล่น หรือ ใช้งาน ให้เหมาะสมกับชีวิตประจำวันของแต่ละท่านได้ก็จะเป็นการดีอย่างยิ่ง ให้พึงระลึกไว้ว่าสิ่งต่างๆดังกล่าวข้างต้น คุณสามารถเล่นได้ทุกวันที่มีเวลา ดังนั้นถ้าคุณจะปรับมันไปเล่นวันอื่นๆและแบ่งเวลาให้แต่ะอย่างในชีวิต อย่างเป็นธรรม คุณอาจเป็นหนึ่งในคนที่มีความสุขและสุขภาพแข็งแรง ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
36.ปาร์ตี้ ต่างๆ … ควร งด ลด ละ ตามความเหมาะสม เพราะงานปาร์ตี้มีอะไรหลายอย่างมากมายที่จะพรากเวลาการนอนไปจากคุณ พร้อมๆกับทำให้คุณนอนหลับยากขึ้น หากคุณปาร์ตี้เป็นประจำ ดังนั้นเพื่อสุขภาพร่างกาย และ การนอนหลับพักผ่อน ของคุณ … เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ และ ลักษณะนิสัย ของแต่ละท่านด้วย แต่สุขภาพของคุณเองก็เป็นเรื่องสำคัญ คราวนี้ต้องถามตัวคุณเองแล้วว่า สุขภาพของคุณมีค่าและราคาเพียงใด .. ^_^
ทีมงาน tartoh.com เรียบเรียงนำเสนอ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก srbr.in.th/Health/Sleep1, team tartoh.com : ภาพประกอบโดย health.kapook.com , anamcarathai.com , healthbeautydd.blogspot.com , variety.teenee.com , อื่นๆ และ bloggang.com
