9 อาหารต้องห้าม ที่คนป่วยกินได้
2014-11-01 19:55:00
 
 
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวฝนตก!! เดี๋ยวแดดออก!! เล่นเอาหลายคนป่วยเป็นหวัดไม่สบายไปตามๆ กัน แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าอาการเจ็บป่วยที่หลายคนต้องเผชิญ ก็คือ โชคชะตาชีวิตที่จะต้องอดหม่ำอาหารมื้อโอชะ ที่ถูกครหาจากเหล่าผู้ใหญ่ว่าเป็น "อาหารแสลง" และ "ไม่ดี" สำหรับคนป่วยนี่แหละ ที่ทำให้เพลียใจหนักกว่าเก่าเสียอีก วันนี้เราจึงขอนำเสนอ 9 อาหารที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสิ่งต้องห้าม แต่กลับมีประโยชน์สำหรับผู้ป่วย จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย...
 
 
 
1. ไข่แดง  
 
แม้จะบอกกันว่า "ไข่แดง" คือแหล่งคลอเรสเตอรอลชั้นดี แต่จากงานวิจัยชิ้นใหม่กลับพบว่า การบริโภคไข่แต่พอสมควรจะไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อปริมาณคอเลสเตอรอล ดังนั้น ไข่แดงที่มีทั้ง วิตามินดี, สารต้านอนุมูลอิสระอย่าง “ไบโอติน” และ "โอเมก้า 3"  ที่ช่วยลดไขมัน จึงเป็นอีกเมนูที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายผู้ป่วย
 
 
 
2. ปลาหมึก 
เช่นเดียวกับ "ไข่แดง" แม้จะเคยถูกตราหน้าว่าเป็นศัตรูสำคัญของคนไข้ไขมันสูง แต่ปลาหมึกไม่ได้มีแต่ไขมันร้ายอย่างเดียว แต่มันกลับอุดมไปด้วย “โอเมก้า 3”หรือไขมันดี เหมือนๆ กับในปลาทูและแซลมอน ซึ่งหากจะบริโภคให้ได้ประโยชน์สูงสุด แนะนำวาควรหลีกเลี่ยงการทอดและชุบแป้งจะดีที่สุด
 
 
 
3. อาหารตระกูลหอย  
อาหารทะเลมีไอโอดีนมาก ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย อาหารตระกูลหอยก็เช่นกัน อย่าง "หอยนางรม" ก็มีธาตุสังกะสีในปริมาณที่สูง ส่วน "หอยแมลงภู่" ก็มีแคลอรีต่ำ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ซึ่งการบริโภคหอยที่ปลอดภัยนั้น ควรปรุงสุก หลีกเลี่ยง สุกๆดิบๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย 
 
 
 
4. ไอศกรีม 
ของหวานเย็นชื่นใจชนิดนี้มีประโยชน์มาก แพทย์บางคนจ่ายให้กับเด็กป่วยมือเท้าปาก แม้ใครจะว่าไอศกรีมทำให้เจ็บคอ แต่ในกรณีโรคมือเท้าปากนั้น เป็นเหมือนเครื่องช่วยชีวิตเด็กได้ เนื่องจากเด็กจะมีอาการเจ็บคอจนไม่อยากอาหาร ทำให้ได้รับสารอาหารและพลังงานไม่เพียงพอ ความหวานๆ เย็นๆ ของไอศครีม จึงช่วยกระตุ้นให้เด็กรู้สึกดีกับรสชาติของอาหารมากขึ้น
 
 
 
5. น้ำเย็น 
ใครว่าไม่สบายห้ามกินน้ำเย็น ขอบอกว่า "ไม่จริงเสมอไป" เพราะน้ำเย็นช่วยทำดับอาการร้อนภายในร่างกาย ด้วยอุณหภูมิของน้ำที่ต่ำจึงทำให้ดูดซึมเข้าร่างกายได้ดีกว่าน้ำอุ่น แต่สำหรับผู้ที่กำลังปวดท้องหรือท้องเสียควรงดน้ำเย็น เพราะจะทำให้เกิดอาการปวดมากขึ้น อีกทั้งุุควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหลังทานอาหารทันที เพราะจะทำให้ไขมันจับตัว ส่งผลต่อระบบย่อยอาหารที่จะทำงานช้าลง
 
 
6. ลูกอม 
ขนมอมเล่นชนิดนี้ มีประโยชน์ไม่ใช่น้อยต่อผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานที่กำลังจะหมดเรี่ยวแรง ความหวานของลูกอมสามารถช่วยหยุดอาการใกล้วูบของผู้ป่วยได้อย่างชะงัด เพราะความหวานของน้ำตาล สามารถช่วยให้หายจากอาหารหน้ามืดบ่อยและความดันต่ำได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่งควรบ้วนปากแปรงฟันหลังป้องกันฟันผุกันด้วย
 
 
 
7. ผักผลไม้ดอง 
ของที่ครูมักดุในสมัยเด็ก และถูกตีตราว่าด้อยค่าไม่เหมือนผลไม้สด ในทางอายุรวัฒน์แล้วมีประโยชน์มาก เพราะเป็นแหล่งรวมของ “โพรไบโอติกส์” คือจุลินทรีย์เชื้อดีที่ช่วยให้ลำไส้แข็งแรงสุดไส้ ควรเลือกผลไม้ดองธรรมชาติที่ไม่ใส่สี,ขัณฑสกร และไม่หวานจัดเกินไป แค่นี้ก็ช่วยให้บริโภคของดองได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง
 
 
 
8. น้ำหวานและน้ำอัดลม
ถือเป็นเครื่องดื่มที่ให้คุณมากกว่าที่หลายคนคิด สำหรับผู้ที่มีอาการท้องเสีย หรือรู้สึกไม่สบายคล้ายจะเป็นลม และรมีอาหารผะอืดผะอมจนไม่อยากกินอาหาร น้ำอัดลมสามารถช่วยได้มากกว่าน้ำเกลือแร่ผงที่จิบแล้วชวนคลื่นไส้เสียอีก เพียงแค่ดื่มสัก 1-2 แก้ว/วัน ก็สามารถซื้อเวลาไปได้เป็นวันเลย
 
 
 
9. ผลไม้บางชนิด เช่น ฝรั่ง กล้วย ส้มโอ
"ฝรั่ง" มีวิตมินซีสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายหายป่วยได้เร็วขึ้น แม้จะมีผลวิจัยและความเชื่อที่ว่า การกินผลไม้ทั้ง 3 ชนิดนี้ อาจทำให้เกิดอาการชัก เนื่องจากมีปริมาณโพแทสเซี่ยมสูง จนอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่ป่วยที่เป็นไข้และเป็นโรคไต แต่นั่นก็เฉพาะในกรณีที่บริโภคมากเกินกว่า 2 กิโลกรัม/วัน เท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงคงไม่มีใครทำสถิติขนาดนั้นได้อยู่แล้ว
 
 
 
แล้วอะไรบ้างล่ะ...
คือ อาหารที่เราควรหลีกเลี่ยงและเป็น "อาหารแสลง" ?
 
นพ. กฤษดา ศิรามพุช ผอ.สถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ
ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ของแสลงที่ไม่ควรกินตอนเป็นไข้ ได้แก่
 
- อาหารจำพวกแป้ง
ของหวานจัด
- อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง 
- อาหารที่มีกำมะถันเยอะๆ เช่น ทุเรียน ขนุน ลำไย 
- ผักที่มีกลิ่นแรง ๆ เช่น ใบกุยช่าย หรือผักที่ห้ามกินตอนตรุษจีน เพราะจะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ยิ่งทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงมากยิ่งขึ้น 
- อาหารที่มีโซเดียมเป็นส่วนประกอบ จำพวกอาหารรสเค็มจัด (เช่น หน่อไม้ดอง) หรืออาหารที่ใส่ผงชูรสมาก ๆ รวมไปถึงเครื่องดื่ม เช่น ชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาขับปัสสาวะ ยาล้างไต ก็ไม่เหมาะกับคนเป็นไข้ เพราะจะทำให้ปัสสาวะบ่อย ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ 
 
นอกจากนี้ควรงดออกกำลังกาย เพราะจะยิ่งทำให้เหงื่อออกมาก ร่างกายสูญเสียน้ำ และ ควรงดสูบบุหรี่ เพราะคนเป็นไข้ต้องการออกซิเจนในปริมาณมาก 
 
 
 
 
 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก   stock2morrow และ npc- se

By : Admin@no_สวยสึดๆ


Admin :
view
:
19579

Post
:
2014-11-01 19:55:00


ร่วมแสดงความคิดเห็น