25 วิธีใช้จ่ายอย่างประหยัด ออมเงินได้เยอะขึ้นทุกเดือน
2014-10-06 15:34:00

ใครที่คิดว่าตัวเองเก็บเงินไม่เก่ง หรือเก็บตังไม่ค่อยอยู่แล้วล่ะก็ วันนี้เรามีวิธีประหยัดเงิน กับการขจัดปัญหาใช้จ่ายการเงินให้หายไป และวิธีออมเงินที่สามารถทำได้จริงมาบอกต่อกัน

 

1. วางแผนการใช้จ่าย

วางแผนเอาไว้เลยว่าในแต่ละเดือนเราต้องจ่ายเงินกับอะไรบ้าง โดยหักค่าใช้จ่ายเจ้าประจำอย่างค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าโทรศัพท์ ​ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าอื่น ๆ ที่ค่อนข้างตายตัวอยู่แล้ว จนสุดท้ายก็นำเงินส่วนที่เหลือมาแบ่งออมและใช้จ่ายรายวัน แต่ที่สำคัญก็ต้องใช้จ่ายให้ไม่เกินงบที่ตั้งไว้ด้วยนะครับ

 

2. เที่ยวสวนกระแส

ถ้าอยากเที่ยวก็เที่ยวได้ แต่แนะนำให้เที่ยวสวนกระแสดีกว่า เพราะอย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าช่วงไฮซีซั่นจะเป็นช่วงฉวยโอกาสขึ้นราคาของแหล่งท่องเที่ยวทุก ๆ ที่ ดังนั้นอยากเที่ยวแบบประหยัดก็ต้องไปในช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งนอกจากค่าใช้จ่ายจะถูกลงแล้ว คนยังบางตา เที่ยวสะดวกกว่าเยอะนะครับ

 

3. กินข้าวที่บ้านให้บ่อยขึ้น

กินอาหารนอกบ้านโดยเฉพาะในห้าง เราไม่ได้เสียแค่ค่าอาหาร แต่เรายังต้องจ่ายเงินให้กับค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่มอีกด้วย ซึ่งก็แน่นอนว่าเป็นจำนวนเงินที่่เพิ่มขึ้นมาอีกพอสมควร ดังนั้นหากเราลดการกินข้าวนอกบ้านให้น้อยลงได้ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อยเลย

 

4. ใช้บริการรถสาธารณะ

ในกรณีที่คุณอยู่ในเมืองที่มีการคมนาคมไม่ค่อนข้างสะดวก อาจลองหันมาใช้บริการรถสาธารณะดูบ้าง แต่หากอยู่นอกเมืองที่การเดินทางค่อนข้างต้องพึ่งตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ลองเลือกใช้รถยนต์ขนาดเล็กแบบอีโคคาร์ รถจักรยาน หรือจักรยานยนต์ที่จะมาช่วยเซฟค่าน้ำมันได้บ้างก็ยังดีนะครับ

 

5. ประหยัดพลังงาน

ทั้งน้ำและไฟในบ้าน หากใช้ให้น้อยลง หรือใช้ให้คุ้มค่ามากขึ้น รายจ่ายในส่วนนี้ก็คงลดลงไปได้อีกพอสมควร อย่างเช่น นำน้ำที่ซักผ้าน้ำสุดท้ายไปรดน้ำต้นไม้ และปิดไฟทุกครั้งที่ไม่ได้ใช้จะช่วยได้มากเลยทีเดียว

 

6. ทำประกันชีวิตแต่พอดี

ประกันชีวิตเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยเราออมเงินได้ในระยะยาว เพียงแต่เราควรต้องเช็กให้ดีด้วยว่า เงื่อนไขในแต่ละกรมธรรม์มีความแตกต่าง หรือให้ผลประโยชน์ที่ครอบคลุมกับเรามากน้อยแค่ไหน เพราะหากเราทำประกันชีวิตที่เงื่อนไขและผลประโยชน์ไม่แตกต่างกันเท่าไร ก็เท่ากับว่าเสียเงินซ้ำซ้อนเปล่า ๆ

 

7. กาแฟอร่อยแต่ไม่แพงก็มี

ใครที่ติดกาแฟแบรนด์ดังแก้วละร้อยกว่า ลองหากาแฟบ้าน ๆ ราคาถูกแต่รสชาติดีมาดื่มดูสิครับ แล้วคุณจะค้นพบร้านกาแฟเจ้าประจำร้านใหม่ ที่ช่วยเซฟเงินเราไปได้อีกมาก

 

8. แพ็คเกจโทรศัพท์คุ้มแค่ไหน

สำหรับคนที่ใช้สมาร์ทโฟน หรือใช้โทรศัพท์แบบรายเดือน ลองคิดดูดีกว่าว่าการใช้โทรศัพท์ของเรากับเงินที่ต้องจ่ายนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ หากเปลี่ยนแพ็คเกจเป็นแบบที่ถูกลงได้ก็จะดีมากเลยทีเดียวครับ

 

9. ลดแพ็คเกจเคเบิ้ล

นอกจากแพ็คเกจโทรศัพท์ที่ต้องตรวจสอบให้ดีแล้ว อย่าลืมดูแพ็คเกจเคเบิ้ลทีวีที่บ้านด้วย หากคุณไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จากเคเบิ้ลทีวีเท่าไรนัก ดูก็แต่ช่องพื้น ๆ ทั่วไป บางทีลดแพ็คเกจมาเป็นแบบธรรมดาดีกว่าครับ

 

10. ขับรถให้ช้าลง

อาจจะเป็นวิธีที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายแค่บางส่วน แต่หากคุณปรับนิสัยขับรถให้ช้าลงได้ ทั้งตัวคุณเองก็จะเสี่ยงภัยบนท้องถนนน้อยลง และประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย

 

11. ซื้อของแพ็คใหญ่เท่าที่ใช้จริง ๆ

สินค้าบางรายการกักตุนไปก็เหมือนเอาเงินไปจม ดังนั้นหากจะซื้อของยกแพ็คก็ซื้อแค่สินค้าที่เราใช้เป็นประจำ และเก็บไว้ใช้ได้นาน อย่างเช่น ทิชชู แป้งทาตัว หรือถุงขยะ เป็นต้น

 

12. อย่าตามกระแสคนรอบข้าง

อาจมีบ้างที่เราต้องเข้าสังคมที่่เกินตัว ต้องใช้จ่ายเงินไปกับความฟุ่มเฟือยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หากในกรณีที่สามารถบอกปัด หรือนำเสนอทางเลือกที่ใช้เงินน้อยกว่าก็อย่าอายที่จะเสนอไอเดียออกไป เผื่อบางทีกิจกรรมสังสรรค์ที่คุณเสนออาจเป็นความแปลกใหม่ที่เพื่อน ๆ ชอบใจก็ได้

 

13. เที่ยวฟรีดีกว่า

งานบันเทิงหรือกิจกรรมดี ๆ ที่จัดฟรีก็อย่าได้พลาด ยิ่งในช่วงที่คุณมีอาการเบื่อ ๆ งานเที่ยวฟรี อิ่มดี แต่ตังค์ยังอยู่ครบนี่ยิ่งต้องไปให้ได้เลย

 

14. ออกกำลังกายแบบไม่ต้องพึ่งฟิตเนส

สุขภาพจะดีได้ก็ต้องออกกำลังกาย และบางคนที่อยากฟิตหุ่นด้วยอาจจะเลือกใช้บริการฟิตเนส จ้างเทรนเนอร์มาคอยสอนอีก ซึ่งอันที่จริงแล้วแค่เราออกกำลังกายด้วยตัวเองที่บ้าน หรือใช้บริการเครื่องเล่นที่สวนสาธารณะก็ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ต่างกันสักเท่าไร เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ความตั้งใจของเราเองมากกว่าครับ

 

15. กินอาหารคลีน

ดูเป็นเรื่องที่อิงสุขภาพไม่เบา แต่ผลพลอยได้จากการกินอาหารคลีนยังช่วยให้เราประหยัดค่าอาหารได้อีกเยอะเลยล่ะ เพราะวัตถุดิบของอาหารคลีนจะเน้นผัก เน้นเนื้อสัตว์ ตัดพวกขนมไร้ประโยชน์และอาหารราคาแพงที่ไม่ได้ให้คุณค่าทางสารอาหารเท่าไรออกไปโดยปริยาย

 

16. ทำความสะอาดบ้านเอง

หากคุณจ้างแม่บ้านหรือบริษัททำความสะอาดบ้าน และจัดสวนมาดูแลความเรียบร้อยในบ้านแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้ยกเลิกบริการเหล่านี้แล้วลงมือทำความสะอาดบ้านด้วยตัวเองดีกว่า ตัดรายจ่ายได้อีกหลายบาทเชียว

 

17. รูดบัตรเครดิตเท่าที่จ่ายไหว

รู้กันดีอยู่แล้วว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตไม่ใช่ถูก ๆ ดังนั้นก่อนตัดสินใจรูดบัตรชำระสินค้าอะไรอยากให้ลองคำนวณเงินในบัญชีของตัวเองกันสักนิด โดยเฉพาะถ้าของที่รูดซื้ออยู่ไม่ได้มีความจำเป็นต่อชีวิตเท่าไรยิ่งต้องเก็บบัตรเครดิตลงกระเป๋าด่วนเลยจริง ๆ

 

18. DIY ของขวัญให้เพื่อน

ภาษีสังคมอย่างค่าของขวัญแบบนี้เป็นภาระค่าใช้จ่ายที่เราสามารถตัดออกได้ง่าย ๆ เพียงแค่คุณ DIY ของขวัญให้เพื่อนด้วยตัวเอง ใส่ไอเดียและความตั้งใจลงไปบนของชิ้นนั้น รับรองเลยว่าผู้รับจะต้องประทับใจมากกว่าได้ของขวัญราคาแพงซะอีก

 

19. ออมอย่างชาญฉลาด

หากคุณต้องการออมเงินแต่มักจะล้มเหลวไม่เป็นท่าทุกที ลองเปลี่ยนวิธีออมเงินแบบที่ตัวเองเบี้ยวไม่ได้ เช่น เปิดบัญชีเงินฝากประจำ หรือออมเงินให้สนุกกว่าเดิม ด้วยการตั้งกติกาการออมเงินอย่างเก็บเฉพาะแบงก์ 50 เหรียญ 10 หรือหักเอาค่ากาแฟมาเก็บออม ถือเป็นภารกิจไดเอตไปด้วยในตัวเลย

 

20. จ่ายบิลตรงเวลา

บิลค่าใช้จ่ายต้องเคลียร์ให้ทันกำหนดชำระ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมที่ต้องเสีย โดยเฉพาะบิลค่าบัตรเครดิตที่นอกจากจะเสียค่าธรรมเนียมในการจ่ายแล้ว ยังมีอัตราดอกเบี้ยที่ต้องเสียเพิ่มขึ้นเมื่อชำระล่าช้าอีกด้วย

 

21. ช้อปสินค้าให้ถูกแหล่ง

สินค้าราคาถูกมักจะมีแหล่งซื้อ-ขายของมันเอง ซึ่งเราก็ควรไปหาซื้อของจากแหล่งนั้น ๆ หรือในกรณีที่ของถูกอยู่ไกล ก็ลองคำนวณความคุ้มค่าในการเดินทางด้วยก็ได้ หากยอมจ่ายแพงหน่อยแต่ประหยัดค่าเดินทางและเวลาก็ถือว่าคุ้มพอตัว

 

22. เลือกซื้อสินค้าที่ใช้ได้นาน

สินค้าบางอย่างก็ต้องเน้นคุณภาพมากกว่าราคา อย่างเหล่าเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า หากยอมลงทุนซื้อของดีที่มีราคามาหน่อย แต่ใช้ได้นานและคุ้มก็น่าจะเวิร์กกว่าของราคาถูกแต่ใช้ไปได้ไม่เท่าไรก็พังนะครับ

 

23. แลกเสื้อผ้ากับเพื่อน

เสื้อผ้าที่เราเบื่อแล้ว หรือใส่ไม่ได้เพราะรูปร่างที่เปลี่ยนไป ลองเอาไปแลกกับเพื่อนใส่ดูก็ได้ นอกจากจะช่วยประหยัดค่าเสื้อผ้าแล้ว ยังได้เสื้อผ้าชุดใหม่มาใส่ฟรี ๆ อีกต่างหาก

 

24. ลงทุนให้ถูกทาง

หากคุณกำลังมองช่องทางเสริมรายได้ด้วยการลงทุนทำธุรกิจบางอย่าง ลองหาวิธีลดต้นทุนของตัวเองให้ได้มากที่สุด เช่น ขายของผ่านโซเซียลเน็ตเวิร์ก หรือขายของทำมือที่ไม่ต้องไปซื้อต่อจากที่ไหน ฟันกำไรแบบเน้น ๆ ให้มากขึ้น

 

25. เล่นเกมชิงรางวัล

เดี๋ยวนี้มีสื่อมากขึ้นและการตลาดก็ทำในรูปแบบที่แปลกใหม่มากขึ้นด้วย อย่างสื่อวิทยุหรือโทรทัศน์ที่มักจะแจกของรางวัล หรือโปรโมทตัวเองด้วยการแจกของสมนาคุณ หากเราร่วมรายการกับเขาของแบบนี้ลองส่งไปลุ้นขำ ๆ บ้างก็ได้ เผลอ ๆ อาจจะได้ของรางวัลชิ้นใหญ่มาใช้แบบไม่ต้องควักกระเป๋าเลยสักบาทก็ได้

 

Credit : Kapook

By Admin Park


Admin :
view
:
3188

Post
:
2014-10-06 15:34:00


ร่วมแสดงความคิดเห็น