6 วิธีชาร์ตมือถือง่ายๆ ป้องกันแบตเสื่อม!!
2014-09-25 11:57:00
 
 
สำหรับแบตเตอรี่โทรศัพท์สมาร์ทโฟนมี 3 ประเภทด้วยกันนะจ๊ะ ได้แก่  NiCD/NiMH,  Lithium-lon และ Lithium-Polymer โดยสำหรับ  NiCD/NiMH นั้น จำเป็นจะต้องใช้เวลาชาร์ตถึง 8 ชั่วโมง สำหรับการเปิดใช้งานครั้งแรก แตกต่างจาก Lithium-lon และ Lithium-Polymer ที่ไม่จำเป็นต้องชาร์ตยาวนานขนาดนั้น โดยแบตเตอรี่ Lithium-lon สามารถชาร์ตได้ประมาณ 500 รอบกันเลยทีเดียว
 
 
แล้ว 500 รอบที่ว่านี้มันนับยังไงกันนะ?
 
โดยหลักการของการนับรอบของแบตเตอรี่นั้น คือจะครบ 1 รอบก็ต่อเมื่อแบตเต็มครบทุกๆ 100 % เช่น ชาร์ตแบตเตอรี่มาแล้ว 70% จะเท่ากับชาร์ตได้ 0.7 รอบ และหากได้ชาร์ทครั้งที่สองเพิ่มเข้าไปอีก 50%  เมื่อได้ 30% ก็จะครบ 1 รอบการชาร์ต ส่วนอีก 20% ที่เหลือ เมื่อครบ 50% ก็จะเท่ากับชาร์ต 1.2 รอบพอดี 
 
 
 
How to ทำอย่างไรให้แบตเตอรี่อยู่กับเราไปนานๆ!!?
 
 
1. หลีกเลี่ยงอากาศร้อนจัด เพราะมันเป็นสาเหตุที่ทำให้เเบตเตอรี่เสื่อมสภาพตัวยง และทำให้แบตเตอรี่คายประจุไวขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นเมื่อเครื่องเริ่มมีความร้อน ก็ควรปล่อยไว้สักพักให้เครื่องเย็นลง ค่อยกลับมาใช้งานใหม่กันนะจ๊ะ และอย่าทิ้งโทรศัพท์ไว้กลางแจ้งด้วยล่ะ ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องที่ประมาณ 25-30 องศาตามสภาพอากาศบ้านเราดีกว่า
 
 
 
2. หลีกเลี่ยงการใช้ไปเล่นไปด้วยนะจ๊ะ เพราะจะทำให้แบตเตอรี่และโทรศัพท์ของคุณทำงานหนักเกิ้น!!

 
 
3. อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกี้ยงแล้วค่อยชาร์ตนะ เหลือสัก 30-40% ก็ควรหยิบสายชาร์ตมาเสียบกันได้แล้ว 
 
 
 
4. หลีกเลี่ยงการชาร์ตแบบไร้สาย หลายคนอาจสงสัย "อ้าว! แล้วใช้วิธีแบบชาร์ตแบบไร้สายไม่ได้หรือไงกัน?" คงต้องตอบว่า มันก็ได้ล่ะนะ แต่วิธีนี้มันจะทำให้เกิดความร้อนโดยไม่จำเป็นซะมากกว่า ดังนั้น ถ้าไม่จำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยงวิธีนี้ 
 
 
 
5. หลีกเลี่ยงการชาร์ตโทรศัพท์มาราธอนทั้งคืน ถ้าไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นมามันจะแย่เอานะตัวเธอ!!
 
 
 
6. ใช้เทคนิกการเสียบสายชาร์ตที่ถูกวิธี เพื่อป้องกันไฟกระชาก ด้วยการเสียบเรียงลำดับจากการเสียบจากตัวจ่ายไฟมาเรื่อยๆ แล้วจึงเสียบเข้ากับโทรศัพท์เป็นลำดับสุดท้าย คือ เสียบหม้อแปลงเข้ากับปลั๊กไฟ(ตัวจ่ายไฟ)ก่อน แล้วจึงนำสายชาร์ตมาเสียบต่อจากหม้อแปลง จากนั้นจึงค่อยเสียบเข้ากับโทรศัพท์ทีหลังสุด ซึ่งนอกจากวิธีการเสียบสายชาร์ตที่ถูกวิธีจะช่วยป้องกันไฟกระชากที่อาจเป็นสาเหตุให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วแล้วนั้น ยังเป็นวิธีที่ช่วยป้องกันไม่ให้โทรศัพท์มีปัญหาและยังเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้โทรศัพท์ด้วย
 
 
และนอกจากสาเหตุของปัญหาไฟกระชากข้างต้นแล้ว ก็ไม่ควรใช้ที่ชาร์จและพวก Power Bank ที่ไม่ได้มาตรฐานด้วยนะจ๊ะ เพราะพวกนี้ถูกจริงอะไรจริง ต้นทุนจึงต่ำ และแน่นอนคุณภาพก็ต่ำด้วย ซึ่งมันจะทำให้กาารจ่ายไฟไม่สม่ำเสมอจนอาจเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจรได้เช่นเดียวกัน
 
 
 
หวังว่าข้อมูลดีๆนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆทุกคนนะจ๊ะ ใช้โทรศัพท์กันอย่างทะนุถนอมและระวังๆกันด้วยน้า~~ ^3^
 
 
 
 
 
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก  thaiware , bloggang.com และ 1000tipsit

By : Admin_Ano

 
 
 

Admin :
view
:
82349

Post
:
2014-09-25 11:57:00


ร่วมแสดงความคิดเห็น