9 ตัวการร้ายทำลาย ตับ .. ที่คุณควรรู้ไว้ !!!
ผู้ที่มีพฤติกรรม นอนดึกตื่นสาย ไม่ทานอาหารเช้า และทานอาหารที่มีการปรุงแต่งมากจนเกิน ระวังอาจจะเป็น "โรคตับ" .. โรคที่คุณไม่อยากเป็นแน่นอน !!
"ตับ" เป็นอวัยวะสำคัญ และใหญ่ที่สุดของร่างกายที่มีเพียงหนึ่งเดียว แต่มีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง ทั้งทำลายสารพิษต่างๆ ที่เข้าไป หรือสร้างขึ้นภายในร่างกาย ทำลายหรือทำให้ยาต่าง ๆ ออกฤทธิ์ดีขึ้น สร้างน้ำดี สารที่ทำให้เลือดแข็งตัว และฮอร์โมนหลายชนิด รวมทั้งมีบทบาทสำคัญต่อภูมิต้านทานของร่างกาย ควบคุมการเผาผลาญและสร้างสารอาหารหลาย ๆ ชนิด เช่น สร้างน้ำตาลกลูโคส กรดอะมิโนและโปรตีน ไขมันทั้งไตรกลีเซอไรด์และโคเลสเตอรอล ทำให้วิตามินทำงานได้ดีขึ้น และเป็นแหล่งสะสมวิตามินหลายชนิด
สาเหตุ 9 ตัวร้ายทำลายตับคุณ !!!
1. นอนดึกตื่นสาย
2. ตื่นนอนแล้วไม่ปัสสาวะ
3. ทานอาหารมากจนเกินไป
4. ไม่รับประทานอาหารเช้า
5. ทานยาปฏิชีวนะมากจนเกินไป
6. ทานอาหารที่มีสารปรุงแต่งมากจนเกินไป
7. น้ำมันปรุงอาหารที่มีสนิมน้ำมัน (Oxidized fatty acids )
8. ทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ปิ้งย่าง ที่ไหม้เกรียม เสมอๆ
9. ดื่มแอลกอฮอล์ และหรือเครื่องดื่มมึนเมาเป็นประจำ
ดังนั้น "ตับ" จึงเปรียบเสมือนแผนกพลาธิการของร่างกาย เพราะทำการควบคุมการใช้สารอาหารส่วนใหญ่ ดังนั้นเมื่อตับทำงานไม่ปกติ จึงทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาได้มาก และอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ การถนอมรักษาตับจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการกินอาหารให้ถูกหลักและการหมั่นดูแลใส่ใจสุขภาพของตนเองจะสามารถช่วย "ตับ" ของคุณทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น หากคุณยังไม่ป่วย !!
แต่ถ้าคุณป่วย ก็ยิ่งสำคัญ :
ดังนั้น การกินอาหารถูกหลักในคนที่ป่วยเป็น "โรคตับ" จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับโรคและระยะของโรค เช่น
- ตับอักเสบจากสุรา ถ้าขาดอาหารและสารอาหารจะมีอัตราตายสูงกว่าคนที่ไม่ขาด และถ้าได้รับสารอาหารครบถ้วนในปริมาณเพียงพอ จะช่วยการฟื้นตัวของตับให้ดีขึ้นได้
- ตับอักเสบจากไวรัสตับอักเสบ ถ้าได้รับอาหารและสารอาหารครบถ้วนในปริมาณเพียงพอ จะช่วยการฟื้นตัวของตับให้ดีขึ้นได้
- ไขมันแทรกในตับ ในขณะนี้ การลดอาหารและลดน้ำหนักเป็นวิธีเดียวที่ได้ผลในการลดปริมาณไขมันที่แทรกในเซลล์ตับ และลดความเสี่ยงของการเกิดตับแข็งที่จะตามมา
- ตับแข็ง มีการดัดแปลงสารอาหารบางอย่างที่จะลดอาการของคนที่ป่วยได้ เช่น ถ้ามีอาการบวมหรือมีน้ำในท้อง ต้องทำการลดเกลือโซเดียมและอาหารเค็ม และหากมีอาการหมดสติหรือซึมจากตับวาย การปรับปริมาณและประเภทของโปรตีน จะช่วยลดอาการของผู้ป่วยได้
- มะเร็งตับ ถึงแม้ว่าอาหารและสารอาหารอาจจะหรือไม่สามารถแก้ไขโรคมะเร็งได้ แต่การกินอาหารให้ถูกหลักและได้รับสารอาหารที่ดีเพียงพอ จะสามารถช่วยเตรียมสภาพร่างกายของผู้ป่วยให้พร้อมรับการรักษาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด หรือการให้ยาอื่น ๆ ได้เป็นต้น
การกินอาหารให้ถูกหลัก ก็สามารถช่วยสร้างเสริมตับของคุณได้
- ในภาวะปกติ :ไม่จำเป็นต้องเลือกกินอาหารแบบใดเป็นพิเศษเพื่อบำรุงตับ เพียงแค่กินอาหารให้ครบ 5 หมู่อย่างเหมาะสม และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีผลเสียต่อตับ ตามที่ได้กล่าวถึงไว้แล้วเท่านั้น
- ในกรณีที่มีตับอักเสบ หรือผู้ป่วยตับแข็งระยะต้น ๆ : ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่อย่างเพียงพอ เพื่อช่วยการซ่อมแซมตับและทำให้การฟื้นตัวดีขึ้น ป้องกันภาวะทุพโภชนาการ ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย ๆ ไม่จำเป็นต้องงดไขมัน
ยกเว้น : มีอาการท้องอืดหลังกินอาหารมัน ๆ และไม่ต้องกินคาร์โบไฮเดรตเพิ่ม ในขณะที่มีตับอักเสบตามความเชื่อสมัยก่อน เพราะทำให้ผู้ป่วยส่วนหนึ่งมีไขมันชนิดไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้นมากได้
- ในระยะที่มีตับอักเสบ : แพทย์อาจให้ผู้ป่วยกินวิตามินเสริม เพื่อช่วยในการซ่อมแซมตับ แต่ไม่ควรซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกินเองในช่วงนี้ เพราะอาจมีผลข้างเคียงต่อการทำงานของตับได้
การถนอมตับไว้ไม่ให้สึกหรอก่อนวัย คือวิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันโรคที่ป้องกันได้ โดย :
- ฉีดวัคซีนป้องกันตับอักเสบ
- ระวังการกินยา หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อาจมีผลข้างเคียงต่อตับ
- งดหรือลดการดื่มสุรา
- งดกินปลาดิบ เพื่อป้องกันพยาธิใบไม้ในตับ
- ลดหรือหลีกเลี่ยงอาหารซึ่งจะมี ”อัลฟลาทอกซิน” ปนเปื้อน
สำหรับการกินอาหารเพื่อถนอมรักษาตับ : ประเด็นที่สำคัญที่สุดก็ คือ ป้องกันโรคอ้วนและหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีคาร์โบโฮเดรตสูงต่อเนื่องในปริมาณมาก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุกระตุ้นให้มีไขมันแทรกในตับได้มากยิ่งขึ้น และหากเป็นไปได้ การลด ละ เลิก สาเหตุ 9 ตัวร้ายที่ทำลาย ตับ คุณได้ ... จะสามารถทำให้ สุขภาพตับ สุขภาพร่างกาย และสุขภาพชีวิตของคุณดียิ่งขึ้นได้.
ดังนั้นจึงขอฝากกันไว้อีกสักนิด สำหรับการดูแลใส่ใจกับ ”ตับ” ของคุณซึ่ง เป็นอวัยวะที่สำคัญมากต่อการดำรงชีวิต และมีเพียงชิ้นเดียว โดยการถนอมรักษาตับเพื่อป้องกันตับแข็งและมะเร็งตับ จึงมีความสำคัญมาก และควรป้องกันตั้งแต่ยังไม่เกิดโรคจะดีกว่ารอให้เกิดปัญหาแล้วจึงค่อยมาทำการมาดูแลรักษาในภายหลัง ^ ^
tartoh.com เรียบเรียง นำเสนอ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพ โดย si.mahidol.ac.th , momypedia.com (Cr: facebook/www.jantrai) ภาพปรกอบเพิ่มเติมจาก 9thaihealth.com , health.mthai.com และ thaiherbweb.com : ทีมงาน tartoh.com เรียบเรียงนำเสนอ