ภาษี มรดก จ่อบังคับใช้ ปี 2558

พร้อมเตรียมสอบข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี

ภาษีมรดก จ่อบังคับใช้ปี 2558 พร้อมเตรียมสอบข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี กันการซุก การโอน และการย้ายทรัพย์สินก่อน ชี้จัดเก็บคนที่ได้มรดกเกินกว่า 50 ล้าน 10% ในอัตราเดียว

            วันนี้ (22 กันยายน 2557) จาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับ "ภาษีมรดก" ซึ่งได้ระบุว่า เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ มีข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงการคลัง ที่ระบุว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาชุดพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีการรับมรดกและภาษีการรับให้ พ.ศ. ... ซึ่งมี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน โดย นายมีชัย กำลังพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าวใกล้เสร็จแล้วและพยายามจะสรุปให้จบภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นก็จะนำเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา โดยไม่ต้องเสนอกลับไปที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจากผ่านความเห็นชอบจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาแล้ว

            ทั้งนี้แหล่งข่าวได้กล่าวต่อว่า "ภาษีมรดก" นั้น เป็นนโยบายของ หัวหน้า คสช. ที่ต้องการให้ร่าง พ.ร.บ.ภาษี ดังกล่าว และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป โดยการจัดเก็บ "ภาษีมรดก" จะเก็บจากผู้รับ คือมีการรับเมื่อใดก็เก็บเมื่อนั้น ไม่ใช่เก็บจากมรดกอย่างเดียวอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่จะจัดเก็บสำหรับผู้ที่ได้รับมรดกจากผู้ตายที่มีมูลค่าเกิน 50 ล้านบาทขึ้นไป ในอัตราเดียวคือ 10% ไม่ได้เป็นขั้นบันไดเหมือนที่เคยเสนอก่อนหน้านี้ เพราะอาจจะทำให้ผู้เสียภาษีสับสน

            ขณะเดียวกัน ภาษีมรดกดังกล่าวยังรวมถึงการรับมรดกในช่วงผู้ที่โอนให้แก่ผู้รับ ระหว่างที่ผู้ให้ยังไม่ตายอีกด้วย โดยจะดูการโอนมรดกให้กันในช่วงย้อนหลังไป 5 ปีก่อนถึงวันที่จะมีการโอนทรัพย์สินให้แก่กันในวันล่าสุด ทั้งนี้เพื่อป้องกันการโอนหรือถ่ายเททรัพย์สินกันก่อน ซึ่งในส่วนนี้จะเรียกว่า "ภาษีการรับให้" เดิมก่อนหน้านี้จะกำหนดแค่ 2 ปี แต่เพิ่มเป็น 5 ปี เป้าหมายเพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินกันล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นเงินฝากในธนาคาร หลักทรัพย์ หรือที่ดิน หากรวมแล้วเกิน 50 ล้านบาท ก็จะถูกเก็บภาษี 10% ไม่ว่าผู้ให้จะตายหรือไม่ก็ตาม

ขอขอบคุณข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม : tartoh.com นำเสนอ