หมากทุย เป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ ผู้นิยมสะสม เครื่องรางของขลัง หมากทุยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มากที่สุดเห็นจะได้แก่ หมากทุย " หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง "
หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง กรุงเทพมหานคร ท่านเป็นพระอาจารย์ที่พระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 ทรงให้ความนับถือเป็นอย่างสูง ท่านเจ้าคุณเฒ่า หรือ หลวงปู่เอี่ยมนั้นท่านเป็นพระเถระที่ประกอบไปด้วยอำนาจจิตอันสูงส่ง เดิมทีท่านเป็นพระอธิการธรรมดา ๆ ทว่าท่านมีอภินิหารในพระเครื่องรางมากมาย จนกระทั่งเล่าลือไปถึงพระบรมมหาราชวัง ขุนน้ำขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่าง ๆ ได้เดินทางมาขอพระเครื่องรางของท่านไปใช้เป็นอันมาก แม้แต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ได้ทราบเสด็จเป็นการส่วนนพระองค์ไปนมัสการท่านเจ้าคุณเฒ่าที่วัดหนัง ดังนั้นเมื่อท่าเจ้าคุณเฒ่า วัดหนัง ได้มีโอกาสรับเสด็จพระพุทธเจ้าหลวงอีกครั้งพระคุณท่านก็ได้รับการถวายจีวรแพร และสิ่งอื่น ๆ ด้วยที่ทรงซื้อมาจากฝรั่งเศสพร้อมกับพระราชทานสมณศักดิ์ให้เป็นพระราชาคณะที่เจ้าคุณพระภาวนาโกศลเถระ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หลวงปู่เอี่ยม ท่านคงจะทำเครื่องรางมาก่อนที่จะสร้างพระเครื่อง ตั้งแต่ครั้งยังอยู่ที่วัดโคนอน เนื่องจากการทำนั้นทำให้ทุกวาระ เมื่อมีชาวบ้านมาขอให้ท่านทำไว้และหาวัสดุมา ท่านก็ทำให้ การสร้างหมากทุยนั้นท่านคง จะสร้างเมื่อตอนที่มาอยู่ที่วัดหนังแล้ว วัดหนังนั้นอยู่ย่านตลาดพลู บางขุนเทียน แถบนั้นในสมัยก่อนเป็นสวน ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็มีอาชีพทำสวน ปลูกผักผลไม้ หมากพลู และคงมีสวนหมากสวนพลูมาก จนได้ชื่อว่า "ตลาดพลู"
ในตำรับเครื่องรางของขลังไทยนั้น ท่านได้บอกไว้ประการหนึ่งว่า อันต้นไม้ใดก็ดีที่อยู่ดี ๆ ก็มีอันเป็นยืนตายแห้งทั้ง ๆ ที่ผืนดินก็อุดมสมบูรณ์ดีไม่มีวี่แววแห่งโรคต้นไม้นั่นแหละเรียกกันว่า “ต้นไม้ตายพราย” จะเป็นหมากตายพราย มะยมตายพราย หรือไม้ไผ่ไม้รวกตายพรายก็เหมือนกัน นำเอาชิ้นส่วนของมันมาทำเครื่องรางของขลังได้อย่าทิ้งให้เปล่าประโยชน์ไป ที่ไม่เข้าหลักก็มีเพียงกล้วยตานี้ตายพรายเท่านั้น ที่เขาไม่ค่อยจะนิยมเพราะถือว่าเป็นอวมงคล เหมือนคนออกลูกตายทั้งกลมนั่นแหละ
การสร้างหมากทุยนั้น ประการแรกท่านจะให้ศิษย์ไปขึ้นต้นหมาก เพื่อเอาลูกหมากที่ตายพรายลงมา และลูกหมากนั้นจะต้องเป็นลูกหมากอ่อนที่มีขนาดเล็กพอเหมาะ ส่วนการจะขึ้นไปนั้นท่านจะสอนคาถาภาวนาให้ เมื่อเวลาขึ้นต้นหมากก็ต้องภาวนาทุกช่วงเวลาไต่ ครั้นพอถึงแล้วก็ไม่ให้เอามือเด็ด แต่ให้ใช้ปากคาบ แล้วดึงจนลูกหมากขาดแล้วเวลาคาบไว้ในปากพร้อมกับภาวนาคาถากำกับทุกช่วงไปการขึ้นครั้งหนึ่งจะได้ไม่กี่ลูกเท่านั้น
เมื่อได้ลูกหมากตายพรายมาแล้วก็เปิดจุกด้านบนคว้าเอาเนื้อหมากด้านในออกให้หมด จากนั้นจึงเอาเม็ดพระธาตุ (หรือถ้าไม่มีก็เอากระดาษสาลงพระนามพระพุทธเจ้าด้วยอักขระแทน บางลูกพิเศษมีตะกรุดสาริกาใส่ไปด้วยครับ) เมื่อทำการปลุกเสกแล้วก็บรรจุไปด้านในแทนให้เต็ม จากนั้นก็เอาชันโรงใต้ดินมาอุดปิดทับด้านบนให้แน่น เพื่อป้องกันความชื้นและพวกตัวแมลง
การปลุกเสกกำกับด้วยพลังจิต จนเกิดอุดมนิมิต เป็นว่าลูกหมากนั้นลุกขึ้นตั้งได้เอง เมื่อปลุกเสกดีแล้วจะถือเป็นเครื่องรางชั้นดี " เรียกว่า หมากทุย วัดหนัง " ที่นักนิยมเครื่องรางของขลัง เสาะแสวงหามาครอบครองกัน มีสรรพคุณเด่นชัดในด้านทางอยู่ยงคงกระพัน ชาตรีชนิดที่ว่า " แมลงวันไม่กินเลือด " เลยแหละครับ
อานุภาพการใช้ได้กล่าวไว้ว่าเมื่อนำติดตัวจะช่วยป้องกันทางด้านมหาอุด คงกระพัน แคล้วคลาด และยังป้องกันภูตผีปีศาจ เมื่อมีสิ่งนี้พยายามหมั่นปลูกเสกกำกับด้วยคาถาพระเจ้าห้าพระองค์ว่า “นะโมพุทธายะ” อยู่เสมอ ๆ
การอาราธนาใช้วิธีดังนี้
(ตั้งนะโม สามจบ) ระลึกคุณพระศรีรัตนตรัย คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ และเรียกชื่อผู้เป็นเจ้าของหมากทุยที่ท่านนับถืออยู่เป็นที่สุด แล้วใช้คาถามงกุฎเพชร พระพุทธเจ้า จากนั้นหนุนด้วยคาถามหาอุดดังนี้
“นะอุด โมอัด พฺทยัด ธาปิด ยะมิดชิดปิดปากกระบอก นะ พุทธผัดผิด ปิดด้วยนะโมพุทธายะ”
บ้านใครอยู่ใกล้วัดหนัง ลองดูบนหิ้งพระดีๆนะจ้ะ อาจมีของดีอยู่กับตัวแล้วไม่รู้เนื้อรู้ตัว ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก เครื่องรางไทยดอทคอม และสำหรับตอนต่อไป ตาโตดอทคอมจะพาไปพบกับ เขี้ยวเสือ หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน(วัดบางเหี้ย) บอกไว้ก่อนเลย เขี้ยวเสือนี่คือทีเด็ดเลยครับ