ประวัติ "Hello Kitty" ที่คุณควรรู้ เพราะคุณอาจไม่รู้ !!!
2014-08-29 10:21:00
ประวัติ "Hello Kitty" ที่คุณควรรู้ เพราะคุณอาจไม่รู้ !!!
 
"Hello Kitty" แท้ที่จริงแล้วนั้นไม่ใช่แมว แต่เธอเป็น เด็กผู้หญิง !!!
 
จริงหรือเนี่ย...นึกว่าเป็น แมว มาตลอดเลย ???
 
 
กลายเป็นข่าวที่สร้างความประหลาดใจให้คนทั้งโลกฉลองอายุครบ 40 ปีของ Hello Kitty เลยทีเดียว เมื่อ 'คริสติน อาร์ ยาโนะ' (Christine R. Yano) นักมานุษยวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาวาย ที่ศึกษาปรากฎการณ์ความดังของ Hello Kitty มาหลายปี ออกมาเผยว่า ความจริงแล้ว Hello Kitty ตัวละครซานริโอ้ที่โด่งดังตั้งแต่ปี 1974 เป็นเด็กผู้หญิง ไม่ใช่แมวอย่างที่คนทั้งโลกเคยคิด เนื่องจากเธอไม่เคยเดินสี่ขา แต่เลี้ยงแมวชื่อว่า 'ชาร์มมี่ คิตตี้
 
นอกจากนี้ ซานริโอ้เองก็ออกมายืนยันเช่นกันว่า Hello Kitty นั้นเป็นเด็กผู้หญิง โดยมีบุคลิกดใส จิตใจดี เกิดราศีพิจิก ตัวสูงเท่าแอปเปิ้ล 5 ผล หนักเท่าแอปเปิ้ล 3 ผล และยังมีน้องสาวฝาแฝดชื่อว่า 'มิมมี่ (Mimmy)' ซึ่งทั้งคู่เกิดที่อังกฤษ และตอนนี้ก็อาศัยอยู่ในลอนดอน
 
 
 

ข้อมูลตัวละครอย่างเป็นทางการสำหรับ เฮลโลคิตตี ชื่อเต็มของเธอคือ คิตตีไวท์ (ญี่ปุ่นKitty White キティ・ホワイト Kiti howaito) เธอเกิดในเขตชานเมืองของ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน มีความสูงเท่ากับแอปเปิ้ล 5 ผล และน้ำหนักเท่ากับ แอปเปิ้ล 3 ผล ภาพลักษณ์ของเธอคือหญิงสาวที่สดใสและใจดี สนิทกับน้องสาวฝาแฝดของเธอที่ชื่อมิมมี่มาก อบคุ้กกี้เก่งและชอบทานพายแอปเปิ้ลที่แม่ทำ เธอชอบสะสมของน่ารัก ๆ และวิชาที่เธอชื่นชอบในโรงเรียนเป็นภาษาอังกฤษ ดนตรี และศิลปะ

เฮลโลคิตตี เป็นตัวละครที่รายล้อมไปด้วยครอบครัวขนาดใหญ่ที่ทุกคนมีนามสกุล “สีขาว” น้องสาวฝาแฝดของเธอที่ชื่อมิมมี่ เป็นเด็กผู้หญิงที่ขี้อายมาก ชอบเย็บปักถักร้อยและฝันถึงการแต่งงาน ในขณะที่คิตตีสวมโบว์สีแดงที่หูซ้ายของเธอ มิมมี่จะสวมโบว์สีเหลืองอยู่ทางด้านขวา จอร์จซึ่งเป็นพ่อของพวกเขาเป็นคนที่น่าเชื่อถือ มีอารมณ์ขัน แต่มักจะเหม่อลอยอยู่บ่อย ๆ ในขณะที่แม่ (แมรี่) ทำอาหารเก่งและชอบทำงานบ้าน “คุณปู่แอนโทนี่” ชอบที่เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟัง ส่วน “คุณยายมาร์กาเร็ต” ชอบเย็บผ้า “เดียร์ แดเนียล” เป็นเพื่อนในวัยเด็กของคิตตี เกิดวันที่ 3 พฤษภาคม ในลอนดอน มีชื่อจริงของ แดเนียล สตาร์ เขาออกเดินทางไปกับพ่อแม่ของเขาและต้องจากเฮลโลคิตตีเป็นเวลานาน เขามีบุคลิกที่ทันสมัยและมีความอ่อนไหว เต้นและเล่นเปียโนเก่ง สนใจในการถ่ายภาพและฝันที่จะเป็นคนดัง “แชมมี่ คิตตี” คือแมว เปอร์เซีย สีขาวที่เป็นสัตว์เลี้ยงของคิตตี อ่อนน้อมเชื่อฟังเจ้าของและชอบของที่มีประกายเงางาม สร้อยที่คล้องคอแชมมี่ห้อยกุญแจเปิดกล่องเครื่องประดับ ของคิตตี นอกจากนี้คิตตียังมีสัตว์เลี้ยงเป็นหนูแฮมสเตอร์ที่มีชื่อว่า “ชูการ์” ซึ่งเป็นของขวัญที่ได้รับจาก เดียร์ แดเนียล อีกด้วย

 

 

ประวัติผู้ออกแบบ (ยูโกะ ชิมิซุ)

ในปี 1962 ชินทาโร ซูจิ ผู้ก่อตั้ง ซานริโอ้ เริ่มขายรองเท้าแตะยางพิมพ์ลายดอกไม้ ซูจิสังเกตเห็นว่าสามารถเพิ่มผลกำไรให้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มการออกแบบที่น่ารักบนรองเท้าแตะ จึงจ้างให้นักเขียนการ์ตูน การออกแบบตัวละครที่น่ารักสำหรับสินค้าของเขา บริษัทได้ผลิตสินค้าโดยมีลายรูปตัวละครเพื่อเป็นของขวัญในโอกาสต่าง ๆ เฮลโล โหลคิตตีได้รับการออกแบบโดย ยูโกะ ชิมิซุ และถูกบันทึกอยู่ในตัวละครหลักของซานริโอ้ ในต้นปี 1974 ภาพของการปรากฏตัวครั้งแรกในรายการ “A vinyl coin purse” ในประเทศญี่ปุ่น เป็นภาพที่คิตตีนั่งอยู่ระหว่างขวดนมและชามปลาทอง และปรากฏตัวครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 1976

บริษัทตัดสินใจที่จะสร้างให้ เฮลโลคิตตี ให้เกิดในประเทศอังกฤษ เพราะในช่วงเวลาที่คิตตีถูกสร้างขึ้นมานั้น อะไรก็ตามที่มาจากต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศอังกฤษให้ความรู้สึกทันสมัยมาก สำหรับคนญี่ปุ่น นอกจากนี้ ซานริโอ้ ก็มีตัวละครอื่น ๆ ที่เกิดในสหรัฐอยู่แล้ว พวกเขาจึงต้องการสร้างให้คิตตีมีความแตกต่าง ออกไป “ชิมิซุ” ได้ชื่อคิตตี จากนิยายชื่อ มองผ่านกระจก ของ ลูอิส แครอล ที่อยู่ในตอนต้นของหนังสือ ที่อลิซเล่นกับแมวของเธอที่ชื่อ คิตตี คำขวัญซานริโอ้ คือ "การสื่อสารในสังคม" และ ซูจิ อยากใช้ชื่อของแมวที่จะสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งนั้น ครั้งแรกที่เขาคิดว่า "ไฮ คิตตี" ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ "เฮลโล" ซึ่งสื่อถึงคำอวยพร ได้ด้วยตัวแทนประชาสัมพันธ์ของบริษัทได้อธิบายว่า คิตตี ไม่มีปากเพราะพวกเขาต้องการให้ผู้คนมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครและมีความสุข หรือเศร้าร่วมไปกับคิตตี อีกอย่างหนึ่งที่อธิบายได้ว่าทำไม คิตตี ไม่มีปากคือการที่เธอ "พูดออกมาจากหัวใจ” คิตตีเป็นเหมือนกับทูตของซานริโอ้สู่ทั่วโลกและไม่ได้ยึดติดกับภาษา ใดๆโดยเฉพาะ "บริษัทมองเห็นคิตตีเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและพวกเขาหวังว่าเธอจะส่งเสริมมิตรภาพระหว่างผู้คนทั่วโลก มีบางคนให้ข้อสังเกต ว่าเฮลโลคิตตี มีต้นกำเนิดมาจากแมวกวักของญี่ปุ่น “มาเนกิ เนโกะ” ซึ่งชื่อคิตตีเองก็มีที่มาจากแมวกวัก (มาเนกิ เนโกะ ภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งหมายถึงการกวักมือเรียกแมวในภาษาอังกฤษ

 

 

ประวัติความเป็นมาของผลิตภัณฑ์ เฮลโลคิตตี

หลังจากที่เปิดตัวปี 1974 เฮลโลคิตตี ก็ขายดีในทันที และ ส่งผลให้ยอดขายรวมของซานริโอ้เพิ่มขึ้นถึงเจ็ดเท่าหลังจากที่เผชิญกับภาวะยอดขายตกต่ำในปี 1978 มี คอลเลคชั่นคิตตีที่ออกแบบแปลก ๆ ใหม่ ๆ รวางจำหน่ายสู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับความเป็นไปในสังคมในปัจจุบัน ทั้งนี้ ยูโกะ ยามากูชิ ซึ่งเป็นนักออกแบบหลักของเฮลโลคิตตี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันกล่าวว่า เธอได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบ คิตตี รุ่นใหม่ ๆ จากแฟชั่น, ภาพยนตร์และโทรทัศน์ ในช่วงแรกที่คิตตีเน้นการทำตลาดเฉพาะเด็กผู้หญิงเท่านั้น แต่ตั้งแต่ปี 1990 กลุ่มเป้าหมายสำหรับคิตตีได้ขยายออกไปยังกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ในฐานะที่เป็นแบรนด์ย้อนยุคทั้งนี้ซานริโอ้เริ่มมีการออกแบบผลิตภัณฑ์คิตตีสำหรับผู้ใหญ่มากขึ้น เช่นกระเป๋าและแล็ปท็อป เพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มนี้เป็นพิเศษ ในปี 1994-1996 มีการวางจำหน่ายเฮลโลคิตตี รุ่นคิตตี เฟซ ซึ่งเน้นการออกแบบสินค้าเพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

 

ซานริโอ้ กล่าวว่า ในปี 1999 มีคิตตีรุ่นใหม่ ๆ ออกวางจำหน่ายถึง 12,000 แบบต่อปี ทั้งนี้ในปี 2008 สามารถทำรายได้กว่าหนึ่งร้อยล้านดอลล่าร์ ซึ่งมากถึงครึ่งหนึ่งของรายได้รวมของซานริโอ้ทั้งบริษัท ทั้งนี้คิตตีมีวางจำหน่ายมากกว่า 50,000 แบบในกว่า 60 ประเทศ ทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา ด้วยแนวโน้มแฟชั่นในญี่ปุ่น ส่งผลให้บริษัทเริ่มใช้สีเข้ม ลดสีชมพู และใช้การออกแบบที่มีรูปแบบที่น่ารัก น้อยลงในการออกแบบคิตตีรุ่นใหม่ ๆ

 

แรกเริ่มเดิมทีที่กลุ่มเป้าหมายหลักของเฮลโลคิตตี ยังคงเป็นเด็กหญิงอยู่นั้น สินค้าที่ผลิตออกมายังเป็นพวกตุ๊กตา, สติ๊กเกอร์, การ์ดอวยพร, เสื้อผ้า, ของใช้กระจุกกระจิก, เครื่องเขียน และกระเป๋าใส่เครื่องเขียน แต่หลังจากที่มีขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ ก็มีการวางจำหน่ายสินค้าประเภท เครื่องปิ้งขนมปัง, โทรทัศน์, เครื่องใช้ในบ้าน, อุปกรณ์นวด และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โดยลักษณะของผลิตภัณฑ์มีตั้งแต่สินค้าทั่วไป, สินค้าราคาสูง และสินค้าประเภทของสะสมหายาก

 

บัตร เดบิตการ์ด มาสเตอร์การ์ดได้ใช้ เฮลโลคิตตี เป็นธีมบัตรมาตั้งแต่ปี 2004 

 

ในฤดูใบไม้ผลิปี 2005 บริษัทซิมมอนส์ จิวเวลรี่และ ซานริโอ้ได้ประกาศความร่วมมือออกแบบเครื่องประดับร่วมกัน "คิโมรา ลี ซิมมอนส์ สำหรับเฮลโลคิตตี" ที่เปิดตัวเฉพาะห้างไนแมน มาร์คัส ในราคาตั้งแต่ 300 ถึง 5,000 ดอลลาร์ ออกแบบโดย คิโมรา ลี ซิมมอนส์ และเปิดตัวเป็นคอลเลกชันแรก เป็นเครื่องประดับทั้งหมดทำด้วยมือซึ่งประกอบด้วยเพชร,อัญมณีและหินมีค่า, ทอง 18K,เงินสเตอร์ลิง,เครื่องประดับลงยาและเซรามิก

 

ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2008 ซิมมอนส์ จิวเวลรี่และซานริโอ้ ได้ออกเครื่องประดับและนาฬิกาในคอลเลกชัน "เฮลโลคิตตี®โดยซิมมอนส์ จิวเวลรี่" ซึ่งคอลเลกชันดังกล่าวร่วมมือกับ เซลส์ คอร์ปอร์เรชั่น เพื่อขยายการเข้าถึงของแบรนด์และการพัฒนาเครื่องประดับเพื่อตอบสนองความพึงพอใจของแฟนคิตตีทุกระดับ การออกแบบใช้การรวมอัญมณีหลากสีสันและเงินสเตอร์ลิงที่สามารถดึงดูดใจลูกค้าวัยรุ่นด้วยราคาขายปลีกเริ่มต้นที่ 50 ดอลลาร์

 

ในปี 2009 ธนาคารแห่งอเมริกา นำเสนอสมุดเช็คและบัตรวีซ่าเดบิตในธีม เฮลโลคิตตี ซึ่งมีใบหน้าของคิตตีบนเช็คและบัตร นอกเหนือจากเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ แล้ว ในปี 2009 นั้น  คิตตียังเข้าสู่ตลาดไวน์ โดยมีถึง 4 รูปแบบ โดยเป็นการจำหน่ายแบบออนไลน์ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีไว้เพื่อตอบสนองการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น

 

 

ซานริโอ้และบริษัทคู่ค้าได้ออกผลิตภัณฑ์เฮลโลคิตตีภายใต้สินค้าหลาย ๆ แบรนด์ เช่นกีตาร์ไฟฟ้า เฮลโลคิตตี สตาร์โตแคสเตอร์ (ภายใต้แบรนด์ เฟนเดอร์ในสหรัฐอเมริกาในปี 2006) และ แอร์บัส A330-200 ได้ออกแบบเครื่องบินเชิงพาณิชย์ สำหรับเครื่องบินเจ็ทในนามเฮลโลคิตตี เจท (ของสายการบินอีวาแอร์เวย์ของไต้หวันในปี 2005- 2009) ซึ่งตั้งแต่ปลายปี 2011 ถึงต้น 2012, อีวาแอร์เวย์สามารถกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งด้วยการออก "เฮลโลคิตตี เจท" ด้วย A330-300s ลำใหม่ถึง 3 ลำด้วยกัน และต้องเพิ่ม A330-200s อีกถึง 2 ลำหลังจากที่มีความต้องการของตลาดเป็นอย่างมากในช่วงกลางปี 2012 ปี หลังจากนั้นอีก 1 ปี อีวาแอร์เวย์ก็ได้เพิ่มเครื่อง 777-300ERs ให้เป็นเฮลโลคิตตี เจท อีกหนึ่งลำ ซึ่งไม่เพียงแต่คิตตีเท่านั้น ยังมีตัวละครซานริโอ้อื่น ๆ บนเครื่องบินอีกด้วย

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก sanook.com และรายละเอียดประวัติโดย th.wikipedia.org และภาพประกอบเพิ่มเติม www.facebook.com/HelloKittyOnlineTH 

 

 


Admin : Tartoh
view
:
3371

Post
:
2014-08-29 10:21:00


ร่วมแสดงความคิดเห็น