ข่มขืนพระสนมในวังหลวง
2014-08-05 12:30:00

 

     เมื่อจุลศักราช1159 ปีมะเส็ง เดือนยี่ ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่1 ในคืนนั้นเองท่ามกลางความมืดมิดภายในเขตพระราชฐานชั้นใน ขณะที่เหล่านางใน ข้าหลวงรวมไปถึงพระราชวงศ์กำลังนอนหลับกันอยู่นั้น ใครที่ยังไม่ง่วงก็มักจะเดินออกมาเอาน้ำลูบเนื้อลูบตัว บ้างก็แอบมานั่งอ่านเพลงยาวกันตามประสาหญิงสาวชาววัง ปรากฏว่ามีชายหนุ่มนิรนามปีนเข้ามาในกำแพงวังแอบซุ่มอยู่ตามพุ่มไม้ ครั้งพอได้จังหว่ะนางในคนไหนเดินผ่านมาก็จะอาศัยความมืดย่องเข้าด้านหลังแล้วใช้มือจับไปที่ทรวงอกแล้ววิ่งหนีหายไป
 
จากภาพคือพระบรมมหาราชวังและวงกลมสีแดงคือใบเสมาบนกำแพงวังที่อ้ายมาใช้เชือกมัดแล้วปีนไต่ขึ้นมาเข้าวัง และภาพตัวอย่างเจ้านาย เจ้าจอม ข้าหลวงฝ่ายใน ในสมัยรัชกาลที่5 
 
 
     ครั้นถึงรุ่งเช้าในเขตพระราชฐานชั้นในก็เป็นข่าวใหญ่โตต่างก็ร่ำลือกันไปต่างๆนาๆว่าเมื่อคืนมีผู้ชายลอบเข้ากำแพงวังชั้นใน บ้างก็ลือว่าคนนั้นโดนแล้ว บ้างก็ลือว่าคนนี้เกือบโดน จึงสร้างความหวาดกลัวกันไปตามๆกัน เพราะการต้องมือชายเพียงปลายเล็บในสมัยนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่มาก หญิงสาวแรกรุ่นเมื่อได้ยินบ้างก็กลัวจนต้องทูลลากลับไปอยู่บ้าน แต่บางคนได้ยินก็มีกริยาเหนียมอายหน้าแดงบ้างตามประสาดรุณีแรกรุ่น
 
     จนกระทั่งคืนต่อมาหม่อมทองข้าหลวงในตำหนักหนึ่งต้องขึ้นไปนอนอยู่เวรบนพระมหามณเฑียร ในขณะหลับอยู่นั้นก็รู้สึกได้ว่ามีเงาของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ๆกับมุ้งของตน จึงพยายามเพ่งสายตามองดูว่านั่นเป็นเงาผีหรือคน เมื่อเงานั้นเข้ามาใกล้ตนจึงประจักษ์แก่สายตาว่านั่นเป็นชายหนุ่มร่างสันทัดที่นั่งอยุ่กำลังจะมุดมุ้งเข้ามา หม่อมทองจึงตระโกนจนสุดเสียงว่า”ช่วยด้วยๆ ช้วยด้วยเจ้าข้า” เสียงของหม่อมดังก้องไปทั่วพระบรมหาราชวังจนบรรดาเจ้านายพระราชวงศ์ข้าหลวงตื่นกันหมด 
 
     ทหารตำรวจวังจึงพากันออกค้นหาแต่ก็ไม่พบ หม่อมทองจึงโดนทำโทษข้อหาสร้างความตกใจเสียงดังในยามวิกาล โดนเฆี่ยนไปเน้นๆ30ที พวกข้าหลวงนางในก็หาว่าหม่อมทองละเมอบ้าง มโนจิตคิดไปเองบ้าง โดนผีหลอกบ้าง จนต่อมาอีกคืนหนึ่งพระเจ้าอยู่หัวบังเอิญทอดพระเนตรเห็นชายคนหนึ่ง แอบซุ่มอยู่ในพระราชมณเฑียร ชายผู้นั้นจึงรีบกระโดดข้ามหน้าต่างไป พระองค์จึงสั่งให้ออกดักจับคนร้าย สุดท้ายก็สามารถจับตัวคนร้ายได้สำเร็จ พบว่าคนร้ายชื่อ"อ้ายมา"
 
     อ้ายมาได้ให้การว่า.....ได้ข่าวว่าในวังหลวงน่าสนุก จึงลอบเข้าไปในวังโดยใช้เชือกโยนคล้องกับใบเสมากำแพงวังแล้วไต่เชือกขึ้นไป เดินลัดเลาะไปจนถึงพระราชมณเฑียร พบเจ้าจอมนางหนึ่งงามมาก ตนจึงเฝ้าตามหาที่หลับนอนของเจ้าจอมท่านนั้น แต่ดันไปเจอเจ้าจอมอีกท่านหนึ่งหน้าตาคล้ายๆกัน จึงมุดไปกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ คืนต่อมาอ้ายมาก็กลับมาหาเจ้าจอมคนเดิมอีก แต่คราวนี้เปิดมุ้งไปเจอหม่อมทอง แต่หม่อมทองไม่ยอมจึงโวยวายเสียงดังเป็นยกใหญ่ จึงโดนเฆี่ยนข้อหาสร้างความแตกตื่นยามวิกาลภายในพระบรมหาราชวัง...
 
     จากนั้นจึงทำการสอบสวนต่อไปว่าเจ้าจอมที่โดนอ้ายมาข่มขืนนั้นเป็นใคร ก็ปรากฎว่าเป็นเจ้าจอมอิ่ม เจ้าจอมอิ่มรับสารภาพว่าตนเองตื่นมาก็เจออ้ายมาคร่อมอยู่บนตัว แล้วบอกว่าถ้าตนไม่ยอมให้กระทำจะฆ่าให้ตาย เจ้าจอมอิ่มจึงต้องยอมให้อ้ายมาข่มขืน พอเสร็จกิจแบบไม่เต็มใจแล้ว เจ้าจอมอิ่มจึงออกอุบายไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็หนีไปโดยไม่ได้เล่าเรื่องนี้ใครฟังด้วยความอาย พระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่าเจ้าจอมอิ่มมิได้เต็มใจแต่ก็ตกอยู่ในภาวะจำยอม จึงโปรดให้ถอดยศจากการเป็นสนมและส่งตัวกลับบ้านไป ส่วนหม่อมทองที่โดนเฆี่ยนฟรีนั้น พระเจ้าอยู่หัวก็พระราชทานค่าทำขวัญเป็นการปลอบใจที่โดนฆี่ยน ส่วนอ้ายมาถูกข้อหาข่มขืนชำเราสุดท้ายต้องโทษประหารชีวิต
 
ที่มา:เรื่องเล่าชาววัง โดยเวนิสา เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
 
 

Admin : Chanya
view
:
10587

Post
:
2014-08-05 12:30:00


ร่วมแสดงความคิดเห็น