ประวัติโค้ชเช ชเว ยองซอก
2014-07-16 11:33:00

 

 

 
     โค้ชเช หรือ เช ยอง ซุก เจ้าของความสูง 177 เซนติเมตร เกิดวันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2517 เป็นชาวเกาหลีใต้ มีพี่สาว 1 คน ทั้งนี้ โค้ชเช จบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านพลศึกษา มหาวิทยาลัยคังวอน เกาหลีใต้ ปัจจุบันเป็นนักศึกษาทุนปริญญาเอก สาขาการจัดการการกีฬา (Sport Management) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
 
     ชีวิตตอนเด็กของโค้ชเชค่อนข้างลำบาก เพราะคุณพ่อเสียตั้งแต่โค้ชเชอายุได้ 7 ขวบ ดังนั้นคุณแม่ก็ต้องเป็นคนเลี้ยงโค้ชเชและพี่สาว ตอนกลางวันคุณแม่ต้องทำงานที่โรงงาน พอตกเย็นก็ไปทำงานเป็นแม่บ้าน โดยคุณแม่มีความฝันว่าอยากให้ลูกเป็นครู
 
 
 
 
     ด้านชีวิตส่วนตัว โค้ชเชสมรสแล้วกับภรรยาชาวเกาหลีใต้ มีบุตร 1 คน นอกจากนี้ โค้ชเช ยังได้รับเชิญให้เป็นแขกพิเศษในการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ร่วมทุนไทย-เกาหลีใต้ที่มีชื่อว่า วอนโดนเตะ!! ในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นในประเทศไทย ณ สโมสรทหารบกในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553  ปัจจุบัน โค้ชเชมีแผนที่จะโอนสัญชาติเป็นสัญชาติไทย ภายหลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลา 8 ปี เนื่องด้วยมีความผูกพันต่อประเทศไทยและลูกศิษย์ ในขณะที่ทางเกาหลีใต้มีความประสงค์ต้องการนำตัวโค้ชเชกลับคืนสู่ประเทศของตน แม้ว่าจะมีหลายประเทศมาทาบทามโค้ชเชให้เป็นผู้ฝึกสอนในต่างประเทศด้วยค่าตอบแทนที่สูงกว่า แต่โค้ชเชก็ตอบปฏิเสธไปทุกราย เนื่องจากทำใจไม่ได้ที่จะฝึกให้ชาวต่างชาติมาห้ำหั่นกับลูกศิษย์ของตน
 
     ก่อนหน้าที่จะมาเป็นโค้ชให้ทีมชาติไทย โค้ชเช เคยเป็นนักกีฬาเทควันโดทีมชาติเกาหลีใต้  และในช่วงปี พ.ศ.2543 – พ.ศ.2545 โค้ชเช เช ยอง ซุก เคยเป็นโค้ชให้กับทีมชาติบาห์เรน แต่หลังจากหมดสัญญาก็มาเป็นโค้ชให้กับสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน
 
 
 
 
     ช่วงที่ โค้ชเช มาเป็นโค้ชช่วงแรก ๆ นั้นมีปัญหาเรื่องการสื่อสารกับนักกีฬาไทย แต่ปัจจุบัน โค้ชเช เริ่มพูดสื่อสารภาษาไทยได้บ้างแล้ว ถึงแม้จะพูดไม่ค่อยชัด แต่ก็ถือว่าสื่อสารรู้เรื่อง โดย โค้ชเช บอกว่า ฝึกภาษาไทยจากบรรดาลูกศิษย์
 
     พร้อมกันนี้ โค้ชเช ยังกล่าวว่า มาอยู่เมืองไทยแรก ๆ เรื่องอาหารก็แทบไม่ต้องปรับอะไรเลย เพราะอาหารไทยกับเกาหลีใต้จะมีรสจัดคล้าย ๆ กัน และก็ชอบอาหารไทยมาก ๆ โดยเฉพาะ ต้มยำกุ้ง ปูผัดผงกะหรี่ ผักบุ้งไฟแดง ฯลฯ ส่วนผลไม้ก็ชอบ มะม่วง ทุเรียน แต่ที่ไม่ชอบเลยก็คือ ผักชี เพราะมีกลิ่นเหม็นมาก ๆ นั่นเอง
 
     ส่วนหลายคนที่เห็น โค้ชเช เป็นครูฝึกกีฬาเทควันโดอย่างนี้แล้ว คงไม่รู้ใช่ไหมล่ะว่ากีฬาอื่น ๆ โค้ชเช ก็ชอบเช่นกัน โดยเฉพาะ กอล์ฟ และฟุตบอล
 
 
 
 
     สำหรับผลงานสำคัญของ โค้ชเช คือสามารถนำนักกีฬาไทยแข่งขันโอลิมปิกจนสร้างผลงานโดดเด่น  โดยสามารถทำให้ เยาวภา บุรพลชัย เหรียญทองแดงโอลิมปิก ที่เอเธนส์ และ บุตรี เผือดผ่อง เหรียญเงินโอลิมปิกที่จีน  อย่างไรก็ตาม จากผลงานในโอลิมปิก 2004 (พ.ศ.2543) ทำให้โค้ชเชได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 4 จตุตถดิเรกคุณาภรณ์อีกด้วย ขณะที่ล่าสุดกีฬาเอเชียนเกมส์ 2010 (พ.ศ.2553) กวางโจวเกมส์ก็ทำให้ สริตา ผ่องศรี และชัชวาล ขาวละออ คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ
 
 
     อย่างไรก็ตาม หลังจากจบการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2010 โค้ชเช จะหมดสัญญากับการเป็นโค้ชให้นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ทำให้หลายคนหวั่นว่า โค้ชเช อาจจะไม่ต่อสัญญากับเมืองไทย แต่งานนี้ขอบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ เพราะ โค้ชเช บอกแล้วว่า จะขออยู่เป็นโค้ชให้กับนักกีฬาเทควันโดไทยต่อไป และอยากจะทำหน้าที่เป็นโค้ชให้คนไทยเป็นที่สุดท้าย
 
 
     ขณะที่นักกีฬาเทควันโดชาวไทย ต่างก็ให้ความรัก และเคารพ โค้ชเช มาก ๆ เนื่องจากเป็นคน สบาย ๆ ตลก ขำ ๆ บ้าง แต่ถ้าถึงเวลาฝึกซ้อมก็จะดุ และเข้มงวดกับนักกีฬามาก ๆ  แต่นั่นก็เป็นผลดีกับนักกีฬาที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จจากทุกวันนี้นั่นเอง
 
           
 

Admin : Chanya
view
:
5154

Post
:
2014-07-16 11:33:00


ร่วมแสดงความคิดเห็น