ปกติแล้วเราจะได้ยินว่าผีหลอกคน โดยเฉพาะพวกบ้านหรือสถานที่ที่มีประวัติ ซึ่งหากเป็นสถานที่อย่างน้อยเราหนีได้โดยไม่ต้องย้อนกลับมาอีก แต่ถ้าเป็นบ้านนี่สิ เสียเงินซื้อแล้วครั้นจะย้ายหนีเลยก็คงไม่ได้ เพราะเพิ่งซื้อหรือไม่ก็ยังไม่มีเงินซื้อบ้านใหม่ ผู้อยู่อาศัยสุดซวยเลยต้องทนอยู่ต่อไป
แต่ก็มีบ้านหลังหนึ่งเท่านั้นที่ไม่ได้โดนผีหลอก เพราะว่างานนี้คนหลอกผีต่างหาก! ซึ่งบ้านที่ว่านั่นคือ บ้านวินเชสเตอร์ โดยบ้านหลังนี้จะเป็นยังไงมาอ่านประวัติความเป็นมากันเถอะ
ในยุคที่คนขาวรุกรานถิ่นอินเดียแดง พวกอินเดียแดงมีวิธีต่อสู้กับอาวุธปืนด้วยการขี่ม้าวนไปรอบๆ เพื่อล่อให้ยิง พอคนขาวกำลังบรรจุกระสุนใหม่ก็เป็นโอกาสเข้าโจมตีของอินเดียแดง เพราะปืนไรเฟิลยุคนั้นบรรจุกระสุนได้เพียงนัดเดียวเท่านั้น
แต่จนเมื่อ โอลิเวอร์ วินเชสเตอร์ สร้างปืนไรเฟิลที่บรรจุกระสุนได้ถึง 13 นัดในคราวเดียว พวกอินเดียแดงก็ล้มตายราวกับใบไม้ กระทั่งมีการเรียกปืนไรเฟิลรุ่น ปี 1873 ของวินเชสเตอร์ว่า"ปืนพิชิตตะวันตก" (The gun that won the West) วิลเลียม เวิร์ต วินเชสเตอร์ ผู้เป็นลูกชายก็ได้ขายปืนให้รัฐบาลอเมริกา แล้วมันก็ถูกนำไปใช้ในทางการทหารและแพร่หลายไปจนทั่วโลก ทำให้ตระกูลวินเชสเตอร์จึงร่ำรวยอย่างมหาศาล
ต่อมาในปี ค.ศ.1862 วิลเลี่ยมสมรสกับซาราห์ บ้านเดิมเธออยู่ที่เมืองนิวฮาเวน รัฐคอนเน็คติคัต หลังจากแต่งงานได้ 4 ปีเธอก็ให้กำเนิดลูกสาวคนแรก ชื่อแอน แต่เดือนต่อมาแอนก็เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุและทั้งสองก็ไม่เคยมีลูกอีกเลย
แล้วมาในปี ค.ศ.1880 โอลิเวอร์ก็เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน วิลเลียมจึงเข้าดูแลกิจการแทนพ่อได้เพียงแค่ 1 ปี วิลเลียมก็เสียชีวิตด้วยวัณโรคอีก ทำให้ซาราห์โศกเศร้าเสียใจอย่างมาก ประกอบกับเธอค่อนข้างจะเชื่อเรื่องไสยศาสตร์จึงไปปรึกษานักจิตศาสตร์ที่บอสตัน
แน่นอนว่าเธอได้รับคำแนะนำว่าโชคร้ายที่ประดังเข้ามานี้ล้วนเกิดจากความแค้นของผู้คนที่ตายด้วยปืนของตระกูลสามีเธอ แล้วบอกให้เธอย้ายบ้านไปอยู่ทางฝั่งตะวันตกเสีย พร้อมทั้งสร้างบ้านให้เกิดเสียงดังตลอดเวลาเพราะเสียงค้อนตอกตะปูในเวลาสร้างบ้านจะตอกย้ำเข้าไปในรูหูของปีศาจ ทำให้มันไม่กล้ามารบกวน
ได้รับคำแนะนำแบบนี้แล้ว ซาราห์จึงย้ายบ้านมาอยู่ที่เมืองซานโฮเซ่ ทางเหนือของแคลิฟอร์เนีย ซื้อบ้านเก่าหลังใหญ่ ที่มีห้องจำนวน 8 ห้อง ตั้งอยู่บนที่ดินผืนโต แล้วเธอก็จ้างคนสวน 12 คน คนรับใช้ 10 คน และช่างไม้อีกจำนวนมาก เพื่อที่จะให้สร้างและต่อเติมบ้านของเธออยู่ตลอดเวลา ซาราห์ให้สร้าง "ห้องสีฟ้า" อันเป็นห้องลับสุดยอดที่เธอจะใช้ติดต่อกับวิญญาณที่ดี เพื่อช่วยคุ้มครองและแนะนำการต่อเติมบ้านให้เธอ เพราะซาราห์เชื่อว่าพวกผีแต่ละตนมักจะพิกลพิการเธอจึงให้สร้างประตูลับ โดยมีทั้งประตูกล บันไดหลอก และประตูปลอมเอาไว้มากมาย เพื่ออำนวยความไม่สะดวกให้พวกภูตผีที่จะเข้ามารังควานเธอ บ้านหลังนี้มีห้องนอน 43 ห้อง โดยที่เธอจะแอบเข้าไปนอนโดยไม่บอกใครว่าคืนนี้จะนอนห้องไหน เพราะกลัวผีตามห้องถูกนั่นเอง
ส่วนห้องสีฟ้าของเธอนั้น กว่าจะเข้าไปได้เธอต้องเดินไปตามระเบียงยาวคดเคี้ยวไปมาจนถึงผนังตันก็กดปุ่มลับเลื่อนผนังเปิดเข้าไปในห้อง
และไม่ใช่แค่นั้นเธอยังต้องปีนหน้าต่างข้ามไปยังห้องติดกันขึ้นบันไดอีก 1 ชั้นแล้วย้อนกลับลงมาชั้นเดิม เดินต่อไปจนถึงทางแคบเล็กที่มีประตูกลหมุนเข้าสู่ห้องลับ และเปิดตู้เสื้อผ้าที่ภายในเป็นทางลับเข้าสู่ห้องสีฟ้าของเธอ
ประตูหลอกที่เปิดไปเจอผนังตัน และบันไดที่เดินขึ้นไปจนจรดเพดาน
ประตูหลอกที่ถ้าขืนดื้อเดินออกไปก็จะหล่นปุ๊ลงไปจากชั้น 2
หลังจากที่ซาราห์ต่อเติมบ้านหลังนี้จนสลับซับซ้อนไปมา แต่ในปี ค.ศ.1907 ก็เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ บ้านของเธอจากที่มี 7 ชั้นก็พังลงเหลือ 4 ชั้น และเธอก็หลงทางอยู่ในบ้านของตัวเองจนเธอคิดว่าคงไม่รอดแน่แล้ว แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกได้ทัน
แล้วในคืนวันที่ 15 กันยายน ค.ศ.1922 ขณะที่ช่างไม้ 2 คนกำลังทำงานอยู่บนหลังคาก็เกิดฟ้าผ่าลงมาใกล้ๆ ช่างไม้ทั้ง 2 กลัวจึงหยุดงานแล้วลงมาข้างล่าง และในคืนนั้นเองซาราห์ก็ถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยวัย 83 ปี เป็นการปิดฉากตำนานการ "สร้างบ้านหลอกผี"แต่เพียงเท่านี้
ซึ่งบ้านหลังนี้มีมูลค่า 5,500,000 ดอลล่าร์สหรัฐ มีห้องทั้งหมด 160 ห้อง สูง 4 ชั้น (จากเดิม 7 ชั้น) ห้องใต้ดิน 2 ชั้น ประตู 950 บาน หน้าต่างประมาณหมื่นบาน เตาผิง 47 เตาบันได 40 ที่ (376 ขั้น) และห้องจัดเลี้ยงอีก 2 ห้อง โดยบ้านของเธอก็ถูกเปลี่ยนมือไปหลายครั้งจนสุดท้ายตกมาเป็นสมบัติของชาติ และมีการซ่อมแซมครั้งใหญ่เมื่อปี ค.ศ.1973 ก่อนจะขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์เมื่อปี ค.ศ.1984
และในปัจจุบันบ้านวินเชสเตอร์ก็ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อของแคลิฟอร์เนีย โดยการเข้าชมต้องมีไกด์นำทางไปด้วย เพราะบ้านเขาวงกตนี้ไม่ได้หลอกแค่ผี คนธรรมดาและตัวไกด์เองก็ยังหลงทางเอาได้ง่ายๆ
ที่มา: board.postjung.com