หลักฐานแสดงให้เห็นชัดเจนว่าคนร้าย คือลูกจ้างชั่วคราวของการรถไฟ ไม่ใช่ลูกจ้างของบริษัทเอกชนที่รับเหมางานมา ความรับผิดชอบเป็นของการรถไฟเต็มๆ หรือกลัวจะซ้ำรอยปี 51 ที่เหยื่อถูกพนักงานการรถไฟข่มขืน ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการรถไฟด้วย
ล่าสุดตำรวจเตรียมนำผู้ต้องหาข่มขืนน้องแก้ม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยผู้ลงมือก่อเหตุระบุ ได้ไปอุ้มน้องแก้มออกมาจากที่นอน และลงมือข่มขืน หลังจากนั้นจึงผลักออกจากโบกี้รถไฟทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่
พบศพ'น้องแก้ม'แล้วในพงหญ้าริมทางรถไฟ หลังระดมหาตลอดคืน ห่างรางรถไฟประมาณ 2 ม. ขาล่องใต้เลยจุดตัดทางเข้า วนอุทยานปราณบุรี
เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังกันค้นหาร่าง ด.ญ.วัย 13 ปี หลังจาก นายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี พนักงานปูผ้าปูเตียงของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ว่าจ้าง ได้รับสารภาพว่า ได้เป็นผู้ข่มขืนและฆ่าก่อนโยนร่างออกจากตู้รถไฟ โดยล่าสุด หาศพน้องแก้ม เจอศพแล้วตอนเวลาประมาณ 04.10 น. เลยจุดตัดทางเข้า วนอุทยานปราณบุรีไป 2 กม. ขาล่องใต้ พบอยู่ในพงหญ้าห่างรางรถไฟประมาณ 2 ม. โดยใช้ จนท.20 นายในการค้นหา สภาพศพดังกล่าวอยู่ในสภาพเปลือย
ทั้งนี้ จากการสอบสวน นายวันชัย ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนน้องแก้ม ได้รับสารภาพว่า ขณะเกิดเหตุ กำลังดื่มเบียร์กับเพื่อนรวมทั้งหมด 4 คน ที่บริเวณโบกี้ที่ 4 ซึ่งอยู่ติดกับโบกี้ 3 ซึ่งเป็นโบกี้ที่น้องแก้มนอนพักผ่อนอยู่ หลังจากดื่มเบียร์กับเพื่อน จนกระทั่งเกิดอาการมึนเมาอย่างหนัก ขณะเดินผ่านโบกี้ 3 ที่น้องแก้มนอนพักผ่อนอยู่ ได้เกิดอารมณ์ทางเพศ จึงได้ตรงเข้าไปทำร้ายใช้มือปิดปาก บีบคอและต่อยท้อง จนเหยื่อหมดทางสู้ ก่อนจะลงมือข่มขืนกระทำชำเรา จนสำเร็จความใคร่ 2 ครั้ง หลังจากเสร็จกิจเรียบร้อย จึงได้โยนร่างของน้องแก้มออกทางหน้าต่าง ขณะรถไฟวิ่งมาถึงบริเวณสถานีวังก์พง
อย่างไรก็ตาม สำหรับโบกี้ที่น้องแก้มนอนพักเป็นโบกี้พัดลม ระหว่างก่อเหตุ นายวันชัย ได้เปิดหน้าต่าง เพื่อที่จะให้เสียงจากภายนอกเข้ามากลบเสียงภายในโบกี้ ทำให้ไม่เป็นที่ต้องสงสัยจากผู้โดยสารรายอื่นๆ
หลังจากที่โยนร่างออกไปด้านนอกแล้ว นายวันชัย ได้ลงมือทำความสะอาดเก็บเสื้อผ้าของน้องแก้ม และของใช้ส่วนตัว รวมถึงผ้าปูที่นอนที่เปรอะคราบเลือด หลักฐานทั้งหมดโยนทิ้งออกนอกหน้าต่าง ขณะรถไฟวิ่งผ่านสถานีหนองแก ซึ่งเป็นสถานีถัดไปจากสถานีวังก์พง
พนักงานรถไฟสารภาพ ทำร้ายและโยนร่างของน้องแก้มลงจากรถไฟบริเวณ เขาเต่า จ.ประจวบฯ ทางด้านพี่สาวน้องแก้มยืนยัน เสื้อผ้าที่พบเป็นชุดที่ใส่ในวันเกิดเหตุ ถูกพบบริเวณริมทางรถไฟช่วงสถานีหนองแก - เขาเต่า
ความคืบหน้ากรณีเด็กหญิงวัย 13 ปีสูญหายขณะเดินทางโดยขบวนรถไฟตู้นอนตู้ที่ 3 ขบวนรถที่ 174 สุราษฏร์ธานี-กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟหัวหินได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหลายจุด โดยเฉพาะจุดที่สัญญาณโทรศัพท์มือของเด็กหญิงวัย 13 ปีได้หายไปจุดสุดท้ายบริเวณค่ายพระรามหก อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบหลักฐานผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนที่ใช้ในตู้นอนรถไฟในสภาพเปื้อนเลือด พร้อมเสื้อยืดคอกลมสีฟ้ามีคราบเลือด และของใช้บางส่วนของเด็กหญิงวัย 13 ปี ทิ้งอยู่ริมทางรถไฟเส้นทางหนองแก-เขาเต่า ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเจ้าหน้าที่ ได้นำหลักฐานทั้งหมด ตรวจสอบดีเอ็นเอ พร้อมมีการสอบปากคำหนุ่มผู้ต้องสงสัยอายุ 22 ปีรายหนึ่ง ซึ่งเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ที่รับจ้างทำความสะอาดบนขบวนรถไฟ คาดว่าจะได้ความชัดเจนและคลี่คลายคดีในที่สุด
มีรายงานเพิ่มเติมว่า หนุ่มคนดังกล่าวได้รับสารภาพแล้วว่า เห็นเด็กหญิงหลับอยู่ จึงเข้าไปทำร้ายร่างกาย จากนั้นโยนเด็กออกจากทางหน้าต่างโดยไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรต่อไป พร้อมอ้างว่า ลงมือเพียงคนเดียว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าทำคนเดียว จึงคุมตัวสอบสวนเพิ่มเติม
ขณะที่พี่สาวของเด็กหญิงวัย 13 ปี ได้ติดตามความคืบหน้า การติดตามตัวน้องสาวอยู่ที่สน.นพวงศ์ กทม. ได้เห็นเสื้อผ้าของน้องสาวแล้ว และยืนยันว่า เป็นของน้องสาวจริง แต่ยังไม่ปักใจเชื่อว่า น้องสาวจะเสียชีวิตแล้ว เพราะต้องรอข้อมูลหลักฐานให้ชัดเจนก่อน
ขณะที่ พล.ต.ต.ธนังค์ บุรานนท์ ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ว่า ทางตำรวจรถไฟ ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับกระแสข่าวที่ระบุว่า พนักงานบริษัทเอกชนที่รับจ้างทำความสะอาดบนรถไฟขบวนดังกล่าว เป็นผู้ลงมือกับเด็กหญิงวัย 13 ปีที่หายตัวไป โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ กำลังสอบสวนอยู่ จึงยังไม่มีการสรุปผลใดๆ ต้องรอการยืนยัน จากเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 ที่ลงสืบสวนสอบสวนในพื้นที่เกิดเหตุก่อน
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ ( 8 ก.ค.) คงมีความคืบหน้าทางคดีอย่างเป็นทางการ ส่วนตัวยังไม่อยากให้สื่อมวลชน สันนิษฐานกันไปต่างๆนานา ไปก่อนว่า เกิดเหตุใดกับเด็กหญิงวัย 13 ปี ต้องรอความชัดเจน และคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว ด.ญ.กชกร พิทักษ์จำนงค์ หรือ น้องแก้ม มา ณ ที่นี้
คดีน้องแก้ม ไม่ใช่เหตุสลดรายแรกนะที่เกิดขึ้นบนรถไฟ
ก่อนหน้านี้ตอนปี 2544 เคยมีนักศึกษาปริญญาโทเดินทางบนรถไฟในตู้นอนชั้นสอง สายใต้สุไหง-โกลก แล้วถูกลูกจ้างการรถไฟข่มขืน ต่อมาคนร้ายถูกจับกุมและศาลฎีกาตัดสินให้มีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 9 ปี
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=307551
หลังจากเกิดเหตุจนกลายเป็นข่าวคราวดังไปทั่วประเทศ ทางบริษัทนายจ้างของเหยื่อ อ้างว่าเหยื่อตกเป็นข่าวฉาว ทำให้ชื่อเสียงของบริษัทเสียหาย เหยื่อจึงต้องออกจากงานเดิมหางานทำใหม่ ชีวิตของเหยื่อทั้งชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงานต้องพังพินาศเพราะเหตุการณ์นี้ เธอจึงร้องเรียนเรียกค่าเสียหายกับการรถไฟฯเป็นเงิน 18 ล้าน แต่การรถไฟฯปฎิเสธ อ้างว่า "เป็นเรื่องส่วนตัวของจำเลยและผู้เสียหาย" ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับการรถไฟ
http://www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?Home=/home/InterWeb2000&File=/home2/searchdata/Forums/http/www.pantip.com/cafe/torakhong/topic/C2391471/C2391471.html
http://not.siit.net/webboard/read.php?Topic_ID=13180
เรามารอดูกันว่าการรถไฟ จะแสดงท่าทีเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้เช่นไร ประวัติศาสต์จะซ้ำรอยของมันอีกหรือไม่
Credit : Drama-addict , ThaiPBS , Thairath TV
