นับว่าเป็นเรื่องแปลกที่คนส่วนใหญ่ที่ถึงจะกลัวผีที่มองไม่เห็น แต่พวกเขาก็อยากรู้อยากเห็นสิ่งเหล่านั้นอยู่ดี แน่นอนว่าแต่ละที่แต่ละประเทศก็จะมีผีประจำชาติกันทั้งนั้น หากเป็นบ้านเราก็คงเป็น แม่นาค กระสือ เปรต ฯลฯ
แต่ในวันนี้เราจะไม่พูดถึงผีไทยกันหรอกนะ เพราะเรื่องผีๆ ที่จะกล่าวถึงขอส่งตรงมาจากญี่ปุ่นกันบ้าง ซึ่งผีญี่ปุ่นเขามีอะไรบ้างมาดูกัน
ผีสามหัว (ไมคุบิ)
เป็นตำนานเก่าแก่ที่ปรากฏในนิทานของชาวโมโมยามะเมื่อราวปีค.ศ.1200 เล่ากันว่าคืนหนึ่งมีซามูไร 3 คนที่นิสัยไม่ดีนักได้แก่ โคซันตะ, มาตะชิเงะ และอากุโกโร ทะเลาะกันอย่างดุเดือดอยู่ริมทะเล และลงท้ายด้วยการบั่นคอของแต่ละคนจนตายกันถ้วนหน้า ซึ่งนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาในคืนเดือนเพ็ญก็จะปรากฏศีรษะลุ่นๆ สามหัวหรือเห็นเป็นแค่ดวงไฟ 3 ดวง ลอยหมุนติ้วเป็นวงกลม ร้องตะโกนว่า “เป็นความผิดของเจ้านั่นแหละ” เชื่อกันว่าถ้าเกิดไปล้อเลียนมันเข้า มันจะตรงดิ่งเข้ามาเล่นงานทันที
ปีศาจกลับหมอน (มากุระ งาเอชิ)
ถ้าเช้าวันหนึ่งตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกมึนงงว่าที่นี่มันที่ไหน หรือว่าทำไมบ้านเราถึงมีบรรยากาศเปลี่ยนไป หรือสงสัยว่าทำไมชีวิตประจำวันมันถึงช่างแปลกออกไป ก็คิดซะว่านั่นเป็นฝีมือของปีศาจกลับหมอน (ในกรณีที่ไม่ได้เมาน่ะนะ) โดยปีศาจตนนี้จะแอบมากลับหมอนของผู้คนยามนอนหลับ เมื่อคนคนนั้นตื่นขึ้นมาจะพบว่าตนเองอยู่ในโลกที่ตรงข้ามกะความเป็นจริงในอีกมิติหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยความโหดร้าย ผิดหวัง และขมขื่น เพราะปีศาจตัวนี้ชอบเห็นผู้อื่นเดือดร้อน แต่ถ้าคนที่โชคดีหน่อยอาจจะฝ่าฝันร้ายๆ นั้นออกมาได้และตื่นขึ้นมาในมิติเดิม แต่มีหลายคนที่ถูกชักนำไปสู่มิติแห่งความตาย
ผีว้าก (อุว้ง)
เป็นปีศาจที่มีรูปร่างใหญ่โตราวกับยักษ์ หูแหลม ศีรษะล้าน และมีกรงเล็บแหลมคม มักจะปรากฏตัวตามกำแพงวัดร้างหรือป่าช้า เมื่อปรากฏตัวมันจะร้องว่า "อุว้ง อุว้ง" หรือ "ว้ากกก ว้ากกก" ซึ่งนั่นเป็นที่มาของชื่อ มันจะร้องเช่นนี้ก็ต่อเมื่อมีคนผ่านมา และคนที่ได้ยินเสียงนี้จะต้องร้องตอบไปว่า "อุว้ง/ว้าก"เช่นเดียวกันและต้องตอบให้ทัน แต่แน่นอนว่ามันจะเพิ่มความเร็วในการร้องเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนคนร้องตามไม่ทัน และเมื่อถึงคราวนั้นมันจะใช้กรงเล็บตะปบคนคนนั้นจนตาย
ปีศาจขวางโลก (อามาโนะจากุ)
จากคนนิสัยดีอ่อนหวานแล้วจู่ๆ ก็เปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือโดยไม่มีสาเหตุ ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าคนคนนั้นถูกอามาโนะจากุเข้าสิง โดยมันจะเป็นปีศาจตัวเล็กๆ ตัวนี้มีนิสัยขวางโลกอย่างรุนแรง ใครว่าซ้าย ข้าจะไปขวา ใครว่าขวา ข้าจะไปซ้าย ใครว่าสีขาวข้าจะว่าสีดำ อะไรทำนองนี้ ซึ่งปีศาจตนนี้มีแต่จะเปลี่ยนคนดีให้เป็นคนเลวเท่านั้น
ยักษ์ร้อยตา (โทะโดะเมกิ)
เป็นยักษ์เพศหญิงที่มีตาอยู่บนใบหน้าและร่างกายเต็มไปหมด เชื่อกันว่าตาเหล่านี้จะมองเห็นทะลุปรุโปร่งไปหมด ดังนั้นเมื่อถูกยักษ์ตนนี้ไล่ตามไม่ว่าแอบซ่อนอยู่ที่ไหน หล่อนก็หาเจอ แต่ก็ไม่เคยมีปรากฏว่ายักษ์ตนนี้ทำร้ายใคร นอกจากนี้จะมีเรื่องเล่าว่าถ้าใครทำผิดและแอบซ่อนความผิดนั้นไว้ ก็จะมีตาขึ้นบนร่างกายทีละตาและจะมีมาเรื่อยๆ ถ้าคนคนนั้นยังไม่ยอมหยุดทำและสารภาพออกมา (คล้ายๆ คำขู่ของผู้ใหญ่ที่ใช้กับเด็กไม่ปาน)
ปีศาจผ้า (ตันโมะเม็ง)
เป็นผ้าฝ้ายสีขาวผืนยาวที่มีพื้นที่ประมาณ 2.5 ตารางเมตร มีตาและปากอยู่บนนั้น โดยปีศาจผ้าจะอาศัยอยู่บนภูเขา พอตกกลางคืนก็จะกระพือปีกลงมาคอยรัดคนที่เดินผ่านไปมา ปีศาจผ้านี้ถึงจะมีรูปร่างเป็นผ้า แต่เชื่อกันว่าไม่มีของมีคมชนิดใดที่สามารถตัดให้ขาดได้ นอกจากฟันที่ย้อมเป็นสีดำของเจ้าสาวในพิธีแต่งงาน
ไดดาระโทบ๊ทจิ หรือ เดดาระโบ๊ทจิ
เชื่อกันว่าเป็นยักษ์ผู้สร้างโลก ยักษ์ไดดาระมีรูปร่างสูงใหญ่เหมือนยักษ์ทั่วไปทุกประการ แต่อาศัยอยู่โลกมนุษย์โดยไม่ทำลายสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์และตัวมนุษย์เลย ยักษ์ตนนี้ได้รับคำสั่งจากเทพให้มาช่วยสร้างโลก หน้าที่หลักๆ ก็คือช่วยสร้างหรือเคลื่อนย้ายแม่น้ำและภูเขาให้ถูกที่ถูกทาง แต่ว่าทุกวันนี้พลังทำลายล้างของมนุษย์ช่างมหาศาล ถ้าไดดาระมีจริงๆ ก็คงเอาไม่อยู่เหมือนกัน
ปีศาจถุง (จาบุคุโร)
เพราะว่ามีรูปร่างเป็นถุงผ้าเล็กๆ จึงได้ชื่อนี้ โดยจาบุคุโรจะปรากฏตัวโดยการโรยตัวลงมาจากท้องฟ้า เชื่อกันว่าถ้าเป็นคนที่มีจิตใจดีงามเมื่อจับตัวมัน มันจะพาย้อนเวลากลับไปในอดีตเพื่อให้เราแก้ไขเรื่องที่เราคิดว่าทำผิดพลาดได้ 1 ครั้ง แต่ถ้าเป็นคนที่มีจิตใจต่ำช้าแล้วละก็มันจะดูดเอาวิญญาณของคนคนนั้นไปเสีย
ปีศาจทารก (โคะนะกิจิจี้)
ชื่อภาษาญี่ปุ่นของปีศาจตนนี้แปลเป็นไทยว่า "ตาแก่ร้องไห้เหมือนเด็ก" เพราะเป็นปีศาจที่มีรูปร่างเหมือนเด็ก แต่หน้าตาเหมือนชายแก่ มันจะหลอกคนโดยการแสร้งนอนหลับร้องไห้เป็นทารกที่ถูกทิ้งเพื่อให้คนมาพบเห็นอุ้มขึ้นมา แล้วมันจะหันหน้าที่แสนน่าเกลียดมาให้ดู เมื่อคนอุ้มตกใจและทำท่าจะปล่อยมันลง มันจะรัดตัวคนคนนั้นไว้แล้วเพิ่มน้ำหนักตัวทับจนขาดใจตายไป
ปีศาจหิมะ (ยูกิอนนะ)
มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับปีศาจตนนี้ แต่ที่ได้ยินมาบ่อยที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่องที่ว่าในคืนที่หิมะตกหนักจะมีหญิงสาวสวยคนหนึ่งปรากฏตัวออกมาพร้อมกับเด็กที่อุ้มอยู่ในอ้อมแขน ถ้าเจอคนเธอจะขอร้องอย่างน่าสงสารว่า " ช่วยอุ้มเด็กคนนี้ให้หน่อยเถอะค่ะ" แต่เมื่อเราสวมวิญญาณคนดีช่วยอุ้มเด็กให้ เด็กคนนั้นก็จะค่อยๆ ตัวเย็นขึ้นจนทำให้คนที่อุ้มแข็งตายไป
หรือไม่เรื่องของชายสองคนที่เดินทางอยู่ท่ามกลางพายุหิมะ เมื่อพวกเขาได้ที่พักและหลับตาลงนอน ทว่ากลับชายคนหนึ่งก็สะลึมสะลือตื่นมาเห็นผู้หญิงแววตาน่ากลัวกำลังเป่าลมหายใจใส่ชายอีกคนที่มีอายุมากกว่าตน โดยหญิงสาวคนนั้นก็ได้ไว้ชีวิตชายหนุ่มคนนั้นเอาไว้ หากเขาไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร แต่พอเขาตื่นขึ้นมาเต็มตาก็พบว่าเพื่อนที่มาด้วยเสียชีวิตไปแล้ว
แล้วหลังจากนั้นชายคนนั้นได้พบกับผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่งแต่มีผิวขาวเผือด ทั้งเขาและเธอแต่งงานและมีลูกด้วยกัน แต่เวลาผ่านไปความงามของภรรยาไม่เคยเปลี่ยนแปลง จนเขาหลุดปากเล่าเรื่องปีศาจหิมะที่ตนเจอ เมื่อภรรยาได้ยินดังนั้นเธอจึงกลับร่างเดิมซึ่งเป็นปีศาจตนเดียวกับที่เขาเจอ แน่นอนว่าชายหนุ่มต้องหวาดกลัวเป็นธรรมดา แต่ทางปีศาจหิมะที่เคยเอยปากจะฆ่าเขาก็ได้ไว้ชีวิตให้อีกครั้ง เนื่องจากเห็นแก่ลูกๆ ของตนจากนั้นเธอก็หายตัวไป ไม่มีใครพบเธออีก
ซึ่งไม่ว่าจะเล่าลือกันอย่างไร สิ่งที่เหมือนกันเสมอนั่นก็คือ ปีศาจหิมะเป็นผู้หญิงที่สวยมาก
ที่มา: thaigoodview.com