เรื่องใกล้ตัวหลังความตายที่ควรรู้ไว้
2014-06-27 12:42:00

          ความเชื่อเกี่ยวกับอาถรรพ์ของเงินปากผีนั้น เป็นเรื่องเล่าเกิดจากความหวาดกลัวของคนสมัยก่อนซึ่งสมัยก่อนนั้นมีเรื่องที่เหนือธรรมชาติซึ่งมักจะพบกับปรากฏการณ์ที่อยู่เหนือคำอธิบายอยู่มากมาย ถ้าไม่ใช่ผู้ที่มีวิชาอาคมจริงๆ ก็ไม่สามารถจะนำมาครอบครองได้ เพราะเงินปากผีนั้นเป็นเรื่องที่หาคำอธิบายไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะเหตุผลที่ว่าการทำศพในสมัยโบราณมักจะนำศพไปฝังไว้ที่ป่าช้า (ถ้าไม่เผา) ซึ่งป่าช้านั้นเป็นแหล่งรวมของอาถรรพ์ต่างๆ มากมาย ทั้งที่สามารถสัมผัสได้นั่นคือหลุมศพและซากศพคนตายและสัมผัสไม่ได้อย่างวิญญาณหรือปิศาจ

 

 

 

          ดังนั้นการที่จะนำเอาเงินปากผีมาทำพิธีกรรมต่างๆ เพื่อผสมสร้างเป็นเครื่องรางของขลังหรือนำไปเป็นของอาถรรพ์ที่ใช้ทำพิธีต่างๆ แต่จะต้องมีการทำพิธีที่ถูกต้อง เพราะถ้าทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือทำไม่เป็นล่ะก็ อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ เพราะเจ้าของเงินปากผีหรือวิญญาณของผู้ตายอาจจะมาทวงคืนได้

 

          และในเรื่องนี้นั้นชาวฮินดูเองก็มีความเชื่อเช่นกัน โดยจะเอาเงินและข้าวสารเล็กน้อยใส่ปากศพ ด้านพวกสิงโพที่เป็นชาวป่าของพม่า เมื่อแต่งตัวศพเรียบร้อยแล้ว ก็จะเอาเนื้อหมู เหล้าและข้าวเซ่นสรวง จากนั้นก็เอาเงินใส่ปากศพ ถ้าผู้ตายเป็นหัวหน้าจะเอาเอาหินแก้วอันมีค่าใส่ไว้ใต้รักแร้ข้างละเม็ด แล้วจึงนำใส่โลง ส่วนชาวจีนจะเอาอีแป๊ะใส่ปากศพและเผากระดาษเงินกระดาษทองให้ด้วย

 

          ด้านความเชื่อในสังคมไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็มีมาช้านาน แม้แต่ชาติอื่นๆ ก็มีความเชื่อในเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย ซึ่งข้อปฏิบัติจะแตกต่างกันไป ซึ่งในสังคมไทยก็จะมีวิธีปฏิบัติก็คือ จะนำเงินพดด้วง เงินเหรียญบาทหนึ่ง หรือจะเป็นเหรียญสลึงสองสลึงไม่กำหนด มาห่อผ้าขาวผูกเชือกไว้หางยาว หย่อนลงในปากศพ ซึ่งจะมีคำอธิบายไว้หลายเหตุผล ดังนี้

 

เคยมีการสร้างภาพยนตร์แนวสยองขวัญมาแล้ว

 

          เหตุผลแรก

          การนำเงินใส่ปากศพก็เพื่อผู้ตายจะได้เอาทรัพย์ติดตัวไปใช้สอยในเมืองผี แต่มีข้อสงสัยว่าทำไมจึงใส่เงินในปาก แค่เพียงหนึ่งบาทเท่านั้น (เท่าที่สอบถามจากสัปเหร่อวัดให้ใช้เหรียญบาทเท่านั้น เนื่องจากมีความเชื่อว่าใช้หนึ่งบาทเพื่อซื้อทางในดินแดนแห่งโลกวิญญาณ) แต่ตามความเชื่อของคนจีน จะมีการเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ผู้ตายคราวละมากๆ จะเห็นได้ว่า มีความแตกต่างกันระหว่างความเชื่อของคนไทยกับคนจีนนั่นเอง

 

          เหตุผลที่สอง

          เพื่อให้พิจารณาเห็นว่าบรรดาทรัพย์สมบัติที่สะสมไว้แม้มากสักเท่าใด ตายแล้วก็นำติดตัวไปไม่ได้ เขาย่อมควักเอาออกจากปาก สุดท้ายจะเอาไปได้ก็แต่กรรมที่ทำไว้ ซึ่งย่อมติดตามไปคล้ายเงาตน และจะส่งผลให้ได้ รับทุกข์ หรือสุขก็ตามแต่กรรมที่ตนได้กระทำไว้ เพราะฉะนั้นคนเราเกิดมาอย่าได้ลุ่มหลงอยู่กับทรัพย์สมบัติ

 

          เหตุผลที่สาม

          เพื่อให้เป็นค่าจ้างแก่สัปเหร่อที่จะนำศพไปเผา ที่ต้องนำไปใส่ไว้ในปากเพื่อที่จะได้ค้นหาได้สะดวก เพราะถ้าเจ้าภาพบิดพลิ้วสัญญาค่าจ้างภายหลัง เงินใส่ปากศพก็จะกลายเป็นเงินค่าจ้าง เนื่องจากในสมัยก่อนเงินบาทมีค่ามาก โดยตามความเชื่อของกรีกโบราณที่เล่าต่อๆ กันมาว่า ผู้ที่ตายวิญญาณจะไปสู่เมืองผี ซึ่งเมืองนี้อยู่ใต้เมืองมนุษย์ด้านทางทิศตะวันตกอันไกลแสนไกล จะมีแม่น้ำปันแดนความสว่างและความมืดชื่อว่า “แม่น้ำสติกษ์” (แปลว่าดำมืด) วิญญาณของผู้ตายไปสู่เมืองผีได้ก็ต้องข้ามแม่น้ำนี้ มีมนุษย์ชื่อว่า “การน” มีรูปร่าง เป็นคนแก่ผมหยิกดำ หนวดเครารุงรัง แจวเรือรับส่งวิญญาณข้ามฟาก โดยคิดค่าจ้างรับส่งเป็นเงินหนึ่งอะบะลัส

 

ตำนานของทางกรีก

 

          แต่อย่างไรก็ดีความเชื่อเรื่องเงินปากผีในปัจจุบัน อาจจะยังมีอยู่ในท้องถิ่นที่ยังคงรักษาความเชื่อนี้เอาไว้ แต่ในเมืองหลวงที่มีความเจริญ สิ่งเหล่านี้ได้สูญสิ้นไปจากคนในสังคมเมืองหมดแล้ว เพราะฉะนั้นการ กระทำความดี เสาะแสวงหาทรัพย์ภายในคือ การทำบุญ เจริญสมาธิ รักษาศีล จึงเป็นการแสวงหาทรัพย์ที่ถูกต้องที่สุด เพราะเป็นทรัพย์ที่สามารถนำติดตัวไปได้ทุกภพทุกชาติ ไม่มีใครสามารถแย่งชิงนำไปได้แต่ก็ไม่ควรนำเงินปากผีมาเล่น เพราะเป็นสิ่งที่มีอาถรรพ์ที่เรามองไม่เห็นถ้าทำไม่ดีของไม่ดีเหล่านั้นก็จะเข้าตัวได้

 

 

ที่มา: caddy4natalie.com


Admin : Maimai
view
:
5114

Post
:
2014-06-27 12:42:00


ร่วมแสดงความคิดเห็น