เรื่องราวของการมีตัวตนอยู่ของมนุษย์ต่างดาวถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้เสียทีว่ามีจริงหรือไม่มีจริง เพราะหลักฐานแต่ละอย่างต่างไม่ชัดเจนเลยสักอัน ส่วนคนที่บอกเล่าว่าตัวเองโดนลักพาตัวก็อาจจะเป็นเรื่องกุขึ้นก็เป็นได้ แต่วันนี้เรามี 11 เหตุการณ์เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวซึ่งอาจจะทำให้คนทั่วไปอย่างเราๆ เชื่อว่ามีอยู่จริง
เหตุการณ์ที่1 เครื่องบินสีทอง
จากจำนวนวัตถุลึกลับเกี่ยวกับจานบินทั้งหมดแล้ว เรื่องราวของจานบินชิ้นนี้ถือว่าดังที่สุด ซึ่งเรื่องนี้ถูกพบในโคลัมเบีย อเมริกาใต้ ที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี โดยลักษณะนั้นเหมือนเครื่องบินเจ็ทปีกเป็นรูปสามเหลี่ยมของยุคปัจจุบัน มีที่นั่งนักบินอยู่ตรงส่วนหัวและมีหางเหมือนเครื่องบินปัจจุบันด้วย และแน่นอนชาวพื้นเมืองในโคลัมเบียคงไม่สามารถสร้างเครื่องบินนี้แน่ ยิ่งเป็นเมื่อ 1,000 ปีก่อน
ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่ามนุษย์ต่างดาวได้เดินทางมาถึงอเมริกาใต้ ในยานอวกาศที่มีรูปร่างเหมือนเครื่องบินเจ็ทตั้งแต่เมื่อ 1,000 ปีมาแล้ว และคงสร้างยานลำนี้ไว้เป็นที่ระลึก
เหตุการณ์ที่2 เด็กเขียว
ในเดือนสิงหาคม 1887 ในสเปน มีเด็กสองคนที่มีผิวหนังสีเขียวเป็นมันวาว และมีดวงตารีเฉียง เดินออกมาจากถ้ำแห่งหนึ่ง โดยเด็กสองคนนั้นสวมเสื้อผ้าที่ทำจากวัตถุประหลาด แถมยังพูดภาษาประหลาดที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาจากบาร์เซโลนาก็ยังไม่เข้าใจ แล้วไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นภาษาอะไร ทว่าต่อมาเด็กที่เป็นผู้ชายก็ได้ตายก่อน ส่วนเด็กผู้หญิงยังอยู่ต่อมาและหัดพูดภาษาสเปนได้จนคล่อง ซึ่งเธอได้เล่าว่าเธอถูกนำมาจากดินแดนแห่งหนึ่งซึ่งมีแต่ยามสนธยามีพระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็ถูกหอบมาทิ้งไว้ที่ถ้ำนั่น
ซึ่งดินแดนที่ว่านั้น เป็นดินแดนของดาวอีกดวงหนึ่งใช่หรือไม่ หรือว่าพวกเธอถูกส่งตัวมายังโลกด้วย ยาวอวกาศหรือเปล่า หรืออาจมาจากมิติที่สี่ก็เป็นได้
เหตุการณ์ที่ 3 การระเบิดที่ไซบีเรีย
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 1908 มีการระเบิดอย่างรุนแรงเกิดขึ้นที่ไซบีเรีย โดยเป็นการแรงระเบิดที่รุนแรงกว่าฮิโรชิม่าถึง 10 เท่าดังไปค่อนโลก มีบางคนบอกว่า ตนเองได้เห็นแสงไฟและเห็นควันรูปเห็ด อย่างไรก็ตามผลสุดท้ายสาเหตุการระเบิดไม่มีใครทราบแน่ชัด
ต่อมาในปี 1927 นักวิทยาศาสตร์ชาวโซเวียตก็ได้ออกทำการสำรวจและพบบริเวณที่เกิดการระเบิดนั้น ซึ่งกินบริเวณกว้างขวางถึง 800 ตารางไมค์ จากการลงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ว่าแรงระเบิดนั้น ไม่ใช่เพราะอุกาบาตรแน่ ขณะที่บางคนบอกว่ามันอาจเป็นดาวหาง แต่อาจเป็นเสี่ยวหนึ่งของหลุมดำ หรืออาจเป็นแสงเลเซอร์จากดวงดาวอื่นก็ได้
อเล็กซานเดอร์ คาซานท์เซฟ วิศวกรด้านอาวุธของรัสเซียลงความเห็นว่า มันเป็นพวกยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งขณะบินทำการสำรวจโลก ตกลงมาและเกิดระเบิดขึ้น
เหตุการณ์ที่ 4 สัญญาณวิทยุจากมนุษย์ต่างดาว
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519 นักดาราศาสตร์โครงการซีคลอปส์ (Cyclops) ได้รับสัญญาณที่ซับซ้อนกว่าเสียงสะท้อนใดๆ ในโลกนี้ มันเป็นโทนเสียงขึ้นๆ ลงๆ ผสมผสานกันอย่างซับซ้อน พร้อมโครงสร้างจังหวะ รวมไปถึงเสียงที่ไม่เคยมีมนุษย์ได้ยินมาก่อนรวมอยู่ด้วย ซึ่งสัญญาณนี้ระบุว่ามาจากดาวออฟิยูซิ ซึ่งอยู่ห่างจากโลกราว 17 ปีแสง ทำให้เชื่อกันว่าเป็นสัญญาณวิทยุจากมนุษย์ต่างดาวซึ่งมีอารยธรรมสูงกว่าเรา
เหตุการณ์ที่ 5 เมื่อมนุษย์ต่างดาวเป็นฆาตกร
วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2491 รัฐเคนตักกี้ อเมริกา เรืออากาศเอก โธมัส แมนเทลล์ จูเนียร์ ได้ขับเครื่องบินซี 118 แถวน่านฟ้าของเมืองแมรีส์วิลล์ เพื่อไปตรวจสอบการพบเห็น UFO ส่องแสงขนาดใหญ่ และเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ และเงียบเชียบข้ามท้องฟ้า ซึ่งทางฐานทัพก็จับสัญญามันได้เช่นกัน
แมนเทลล์ขับแล้วไปเจอ UFO ลำนั้นทันที เขารายงานวัตถุนั้นต่อศูนย์เป็นระยะในการติดตาม “พระเจ้า! มันน่ามหัศจรรย์ มันอยู่เหนือผมพอดี และมันใหญ่โตมโหฬารมาก มันดูเหมือนโลกหะรูปกลมใหญ่มาก ผมกำลังพยายามไปให้ถึงมัน มันกำลังบินสูง มันเริ่มบินสูง.... พระเจ้า! มันน่ามหัศจรรย์มาก! มันเริ่มร้อน มันร้อน ร้อนมากทีเดียว ผมทำไม่...”จากนั้นสัญญาณก็ถูกตัด
เวลาต่อมา มีการพบซากเครื่องบนและศพของเรืออากาศเอกแมนเทลล์ มีรายงานว่าซากเครื่องบินมีรูและรอยขีดข่วงจากความร้อนสูง เหมือนกับว่าเครื่องบินถูกทำลายจากรังสีบางอย่าง
ปัจจุบันการตายของแมนเทลล์ยังเป็นปริศนาต่อไป ว่าสิ่งที่เขาพบนั้นคือ UFO จริงหรือไม่?
เหตุการณ์ที่ 6 แอเรีย 51 (Area 51)
พื้นที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในกลางทะเลทรายทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เนวาด้า และอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ปี 1958 เป็นพื้นที่ที่ลึกลับที่สุดเพราะเป็นเขตหวงห้ามไม่ให้คนนอกเข้าและมีการรักษาความปลอดภัยสูงสุด แม้ทางการสหรัฐจะบอกว่าพื้นที่นี้เป็นเพียงสถานที่ทดสอบอาวุธหรือเครื่องบินรบใหม่ของสหรัฐ แต่มีหลายคนบอกว่าอาจเป็นฐานทัพของมนุษย์ต่างดาวหรือไม่ก็สถานที่ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว นั่นก็อาจจะเป็นเพราะมีคนจำนวนมาก อ้างว่าได้เห็นวัตถุบินลึกลับหรือ UFO (Unidentified Flying Object) บินอยู่เหนือบริเวณนั้นบ่อยครั้ง จนหลายคนสงสัยว่าบริเวณพื้นที่ 51 นั้นต้องมีอะไรมากกว่าสถานที่ซ้อมรบเครื่องบินรบ แน่นอน
เหตุการณ์ที่ 7 จานบินตกที่รอสเวลล์
ในปี ค.ศ.1948 เมืองรอสเวลล์ เกิดเหตุการณ์วัตถุบินลึกลับตกในพื้นที่ทะเลทรายของชาวเมืองนาม แม็ค บราเซิล วัตถุชิ้นตกตกและชิ้นส่วนตกกระจัดกระจายเป็นวงกว้าง ไม่นานหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการก็มาถึงและเก็บวัตถุในพื้นที่ที่เกิดเหตุจนหมด ซึ่งผลจากการตรวจสอบตอนแรกบอกว่าวัตถุที่ตกลงมานั้นเป็นวัตถุที่ไม่เคยมีอยู่ในโลก และแต่ละชิ้นโลหะมีคุณสมบัติแปลกประหลาด แต่ถึงอย่างไรเพราะอะไรไม่ทราบสาเหตุภายหลังทางการดันกลับคำให้การบอกว่าวัตถุที่ตกลงมาเมืองรอสเวลล์นั้นคือหรือบอลลูนตรวจสภาพอากาศ?
ทำไมต้องกลับคำผลการตรวจสอบ? แล้ววัตถุบินลึกลับนั้นเป็นจานบินหรือไม่? ไม่มีใครทราบได้ แม้ว่าเหตุการณ์จะล่วงเลยมานานหลายสิบปีแล้วก็ตามแต่หลายๆ ฝ่ายยังหวังว่าทางการสหรัฐจะเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้
เหตุการณ์ที่ 8 การลักพาตัวเบตตี้และบาร์นีย์ ฮิลลส์ (betty and Barney Hill)
นี้คือการลักพาตัวที่โด่งดังที่สุดและเป็นครั้งแรกที่มนุษย์ต่างดาวลักพาตัวคนในโลก
19 กันยายน 1961 ขณะที่เบตตี้และบาร์นีย์ ฮิลลส์ สองสามีภรรยาขับรถผ่านแดนทะเลทรายของรัฐนิวแฮมเชียร์ จู่ๆ ก็มีจานบินแล่นขวางหน้า และบังคับให้สองสามีภรรยาคู่นี้หยุดรถ
สิ่งมีชีวิตในยานนั้นมีอยู่ 5 คน(ตัว) สูง 5 ฟุต ตาโต ไม่มีจมูก และผิวหนังสีเทา เมื่อคนพวกนี้มาใกล้ สองสามีภรรยาก็รู้สึกเหมือนสะกดจิต ทั้งคู่ถูกนำตัวเข้าไปในยานและถูกตรวจสอบทางกายภาพ มนุษย์ต่างดาวเหล่านั้นสอบถามสองสามีภรรยาโดยใช้พลังจิต แต่เมื่อเขาพูดกันเองก็พูดด้วยภาษาแปลกประหลาด
จากนั้นสองสามีภรรยาก็ถูกลบความทรงจำ และถูกปล่อยตัวออกมา ซึ่งภายหลังสองสามีภรรยาคู่นี้ถูกสะกดจิต ทั้งคู่ก็เล่าเหตุการณ์นี้อย่างละเอียด จนเป็นเรื่องน่าสนใจอย่างมาก จนต้องออกโทรทัศน์รายการพิเศษในปี 1975
เหตุการณ์ที่ 9 การชำแหละวัวในท้องทุ่ง (Cattle Mutilations)
9 มิถุนายน 2005 ได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดวัวตายอย่างลึกลับจำนวนมากในท้องทุ่งในประเทศสหรัฐอเมริกาและบราซิลและแถบอื่นๆ ทั่วโลก
โดยการตายลึกลับนี้แทบไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของมนุษย์จะสามารถทำได้ เพราะแต่ละพื้นที่วัวถูกฆ่าจำนวนมากโดยทั้งหมดนั้นลงมือเสร็จเพียงคืนเดียว โดยส่วนใหญ่ท้องของวัวเคราะห์ร้ายถูกเจาะเป็นรูขนาดใหญ่รูปไข่ ด้วยเครื่องมือบางอย่างและถูกทำให้ไหม้แต่ไม่ใช้เลเซอร์หรือมีด และไม่มีเลือดไหลออกมา อวัยวะบางส่วนเช่น อวัยวะเพศ ลูกตาและเต้านมโดยเฉพาะลำไส้มักหายไป แต่ไม่มีร่องรอยการดิ้นรนเพื่อหนีความตายของวัวหรือแม้กระทั่งรอยเท้าในบริเวณที่มันตาย
มีการศึกษาเพื่อไขปริศนาปรากฏการณ์นี้มีมานานแล้ว ในขณะที่มนุษย์มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า แต่ทว่าก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่ามันเกิดจากอะไร
เหตุการณ์ที่ 10 วงกลมประหลาดบนทุ่งหญ้า (Crop Circles)
ในช่วงปี 1980 เกิดเหตุการณ์ประหลาดคือประจักษ์ต่อชาวโลก ใน 29 ประเทศ ทั่วโลก คือเกิดวงกลมประหลาด หรือสัญลักษณ์ประหลาดที่ทุ่งข้าวสาลี ข้าวบาเล่ห์ ข้าว และอื่นๆ
โดยจากรายงานการเกิด Crop Circles กว่า 10,000 ครั้ง
พบว่าในช่วงปลายปี 1980 นั้น Crop Circles ส่วนใหญ่รูปแบบจะออกมาในลักษณะเส้นตรงซึ่งจะออกมาคล้ายๆกับสัญลักษณ์ แต่ภายหลังจากปี 1990 รูปแบบของ Crop Circles จะซับซ้อนมาก จนแทบไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของมนุษย์จะทำได้ นอกเสียจากจะเป็นมนุษย์ต่างดาว แล้วหาเป็นมนุษย์ต่างดาวจริง พวกเขาจะทำทำไม มันเป็นสัญญาบอกชาวโลกหรือ หรือว่าเป็นที่จอดยานบิน หรือว่าเป็นการเล่นสนุก??
เหตุการณ์ที่ 11 เทปวีดีโอผ่าตัดมนุษย์ต่างดาว
ในปี 1992 ผู้สร้างภาพยนตร์ เรย์ ซานติลี อ้างว่าได้ซื้อฟิล์มภาพยนตร์ขนาด 16 มิลลิเมตร มีความยาวกว่า 91 นาที (ไม่เปิดเผยถึงราคาที่ซื้อมา) เป็นฟิล์มภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับการผ่าตัดซากมนุษย์ต่างดาวหลังเหตุการณ์การตกที่รอสเวลส์โดยซื้อมาจากช่างภาพของกองทัพ (ไม่เปิดเผยชื่อ) ที่ถูกมอบหมายให้ทำการถ่ายภาพยนตร์การผ่าศพมนุษย์ต่างดาวที่ Fort Worth, Texas เพื่อทำการถ่ายภาพยนตร์
จนกระทั่งในปี 1995 ภาพยนตร์ชุดนี้ได้ถูกนำมาออกแสดง และเครือข่ายทีวีของ FOX นำภาพยนตร์ชุด นี้ออกอากาศในรายการ One-hour special ผลปรากฏว่ามีคนสนใจดูมากจนต้องมีการนำมาออกอากาศซ้ำอีกถึงสี่ครั้งหลังจากนั้นทำให้มีการถ่ายถอดออกไปใน อังกฤษ, เยอรมัน, ฮอลล์แลนด์, บราซิล และอิตาลี
และนี่ก็คือ 11 เหตุการณ์ที่ว่ากันว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง ดังนั้นแล้วจะเชื่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนแล้วล่ะ
ที่มา: tpa.or.th และ thaithesims3.com