นักบรรพชีวินวิทยาชาวรัสเซียขุดพบโครงกระดูกไดโนเสาร์คาดอายุราว 100-120 ล้านปี ทีมสำรวจพบโครงกระดูกไดโนเสาร์สภาพสมบูรณ์ที่ความลึกกว่า 2.5 เมตร หลังใช้ความพยายามขุดมาเป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์

       ทีมขุดสำรวจใช้เวลา 3 สัปดาห์ในการขุดสำรวจโครงกระดูกที่ความลึกประมาณ 2.5 เมตร ในบริเวณแหล่งขุดสำรวจที่รู้จักกันดี ใกล้หมู่บ้านเชสเตโกโว (shestakovo) ในแถบไซบีเรียของเมืองคีมีโรโว (Kemerovo) อย่างไรก็ดีแหล่งข่าวมิได้เผยภาพฟอสซิลที่ค้นพบ

       
       โอลกา ฟีโอฟาโนวา (Olga Feofanova) ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ที่ค้นพบไดโนเสาร์กล่าวว่า “ชิ้นส่วนโครงกระดูกยังอยู่ในสภาพที่เชื่อมต่อกันดี มันเป็นเรื่องยากมากที่จะพบซากไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์ทั้งตัวขนาดนี้ นับเป็นการค้นพบครั้งสำคัญของโลก”

       โอลกา ระบุว่าไดโนเสาร์ที่ขุดพบนี้น่าจะเป็นสายพันธุ์ ซิตตาโกซอรัส ซิบิริคัส (Psittacosaurus sibiricus) โดยบอกด้วยว่า กระดูกแต่ละชิ้นยาวถึง 2 เมตร การขุดค้นหาซากไดโนเสาร์นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากพิพิธภัณฑ์และนักบรรพชีวินวิทยาของมอสโกว์ได้รับอนุญาตให้ทำงานนี้

       ก่อนหน้านี้มีงานวิจัยของทีมนักชีววิทยา จากมหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโก (New Mexico University) สหรัฐฯ ซึ่งได้ศึกษาซากไดโนเสาร์เพื่อตอบคำถามว่า “ไดโนเสาร์เป็นสัตว์เลือดอุ่นหรือสัตว์เลือดเย็น” ด้วยการเปรียบเทียบอัตราการเมตาบอลิซึมจากสัตว์ 400 ชนิดทั้งที่มีอยู่และสูญพันธุ์ไปแล้ว สำหรับสัตว์ที่ยังมีอยู่ใช้วิธีวัดอัตราเมตาบอลิซึมโดยตรง ส่วนสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปนานแล้วอย่างไดโนเสาร์จะใช้วิธีการวัดอัตราการเจริญเติบโตของชั้นกระดูก เพื่อเปรียบเทียบเป็นอัตราเมตาบอลิซึม ซึ่งได้ข้อสรุปว่า ไดโนเสาร์เป็นสัตว์กึ่งเลือดอุ่นและเลือดเย็น 

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

ภาพจาก : อินเตอร์เน็ต