เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน หลายคนอาจไม่สบาย และเกิดการเจ็บป่วยกันมากขึ้น อันเนื่องมาจากโรคหลายโรคที่มากับฝน ซึ่ง โรคปอดบวม หรือ โรคปอดอักเสบ ก็เป็นอีกหนึ่งโรคอันตรายที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูฝน เช่นกัน สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่มีร่างกายไม่แข็งแรงและมีภูมิต้านทานต่ำ จึงเป็นสาเหตุลำดับต้นๆ ของการเสียชีวิตในเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ

          โรคปอดบวม เป็นโรคปอดและระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเกิดจากภาวะถุงลมในปอดเกิดการอักเสบ อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อรา หรือพยาธิ เมื่อเป็นปอดบวมจะมีหนองและสารน้ำอย่างอื่นในถุงลม ทำให้ร่างกายไม่สามารถรับออกซิเจนได้ ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน และอาจถึงแก่ชีวิตได้

โรคปอดบวมติดต่อได้อย่างไร

          การติดต่อของโรคปลอดบวม จะมีลักษณะเช่นเดียวกับการติดต่อของโรคหวัด โดยเชื้อโรคจะแพร่กระจายโดยการไอ จาม การหายใจรดกัน หรือแม้แต่การสำลักเอาสารเคมี หรือเศษอาหารเข้าไปในปอด และการแพร่กระจายของเชื้อไปตามกระแสเลือด เช่น การฉีดยา การให้ น้ำเกลือ การอักเสบในอวัยวะส่วนอื่นๆ เป็นต้น

การสังเกตุอาการเบื้องต้น

          อาการของโรคปอดบวมโดยทั่วไป จะมีอาการไข้ตลอดเวลา หนาวสั่น ปวดศีรษะ น้ำมูกไหล ไอแห้ง ๆ และจะเริ่มมีเสมหะเหนียว เป็นสีเหลือง สีเขียว หรือมีเลือดปน จาม คัดจมูก เจ็บหน้าอก และอาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย

วิธีการป้องกัน

          1. หมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

          2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเน้นทานผักและผลไม้ เพราะในผักและผลไม้จะมีวิตมินซี ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค

          3. ไม่ควรใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคปอดบวม โดยเฉพาะเด็กทารก เพราะถ้าเป็นเปอดบวมจะอันตรายมาก

          4. หลีกเลี่ยงมลภาวะเป็นพิษ เช่น ควันบุหรี่ ควันท่อไอเสียรถยนต์ ควันไฟ เป็นต้น

          5. เมื่อเป็นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หัด อีสุกอีใส ฯลฯ ควรดูแลรักษาเสียแต่เนิ่น ๆ และหากมีอาการไม่ดีขึ้น ให้รีบปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด

          6. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล