เรื่องราวลี้ลับหลายเรื่องถูกเล่าขานโดยเวลานั้นผ่านไปจนกลายเป็นเป็นตำนาน ซึ่งไม่อาจฟันธงได้ว่าเรื่องราวเหล่านั้นเป็นเรื่องจริงมากน้อยแค่ไหน หรือถูกแต่งเติมอะไรมาบ้างแล้วจากเวลาที่ล่วงเลยมา หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวของ “เสือสมิง” ซึ่งเป็นตำนานของเสือที่ดุร้าย ชอบจับคนกินเป็นอาหาร และเมื่อเสือกินคนเข้าไปมากๆ วิญญาณของคนเหล่านั้นก็สิงอยู่ในกายเสือ ทำให้เสือตัวนั้นมีความอาถรรพ์กว่าเสือธรรมดา สามารถแปลงกายเป็นคนได้เพื่อหลอกล่อคนให้มาเป็นเหยื่อ และยิ่งเสือสมิงกินคนเข้าไปมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีฤทธิ์มากขึ้นทวีคูณ
นั่นเป็นเพียงเรื่องราวคราวๆ ที่มักได้ยินได้ฟังกัน แต่ยังมีอีกเรื่องราวหนึ่งเกี่ยวกับการเกิดเสือสมิง ที่ไม่ใช่แค่เสือดุร้ายมากินคนแล้วกลายเป็นเสือสมิง แต่เป็นเรื่องของไสยศาสตร์ นั่นก็คือผู้ที่มีวิชาอาคมที่เรียกว่า “วิชาเสือ” เรียกเอาวิญญาณของเสือมาสิงในตัวเองผนวกเข้ากับการที่บุคคลผู้นั้นเรียนอาคมทางเดรัชฉานวิชาด้วย เมื่อนานเข้าทั้งวิชาเรียกเสือและอาคมทำให้ผู้นั้นกลายเป็นเสือสมิง และยิ่งถ้าหากเสือตนนี้ได้ไปกินคนเข้าก็จะกลายเป็นเสือสมิงโดยสมบูรณ์
มีเรื่องเล่าขานและค่อนข้างดังมาก เมื่อประมาณหลายสิบปีมาแล้ว และดูเหมือนว่ากลายเป็นข่าวลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ของประเทศว่ามีชาวบ้านทางภาคเหนือได้รับความเดือดร้อนที่ว่า มีเสือตัวใหญ่เข้าไปทำร้ายคนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งนั้นเป็นที่หวาดกลัวแก่ชาวบ้านมาก จึงได้ไปขอความคุ้มครองจากทหารหน่วย ตชด. เพื่อเข้ามาดูแลความปลอดภัยภายในหมู่บ้าน ฝ่ายทหารหน่วย ตชด. จึงส่งกำลังเข้าไปคุ้มครองและได้ล่าเสือตัวนั่นไปในตัว
กลางดึกคืนหนึ่งนั้นฝ่าย ตชด. ได้จัดกำลังตรวจตราหน่วยหนึ่ง และส่วนที่เหลือก็เข้าที่พัก บนศาลาที่จัดกันไว้เป็นที่พักผ่อนนอนหลับ และในตอนดึกคืนนั้นศาลาที่หน่วย ตชด. พักเกิดสั่นไหวโยกเอน เมื่อทหารที่นอนตื่นกันลุกขึ้นมาดู กลับเห็นเสือโคร่งขนาดใหญ่พิงสีตัวอยู่ที่โคนเสาศาลา ทหารกำลังหน่วยนั้นได้ยิงใส่เสือโคร่งใหญ่นั้น ทำให้เสือตัวนั้นบาดเจ็บและหายไปในความมืดนั้น ครั้นรุ่งเช้าหน่วยทหารจึงทำการติดตามแกะรอยเลือดเสือตนนั้นไป
จากการติดตามรอยเลือดนั้นผลปรากฏว่า รอยเลือดนั้นไปสิ้นสุดที่หลุมเนินดินแห่งหนึ่ง แล้วไม่ปรากฏรอยเลือดนั้นไปทางไหนอีก ทหารที่ติดตามนั้นเห็นเนินดินแล้วจึงตัดสินใจในความสงสัยกันบางอย่างจึงขุดหลุมเปิดเนินดินนั้น เมื่อขุดไปลึกพอประมาณก็ต้องอึ้งกันไปทั้งหมด เพราะสิ่งที่เห็นในหลุมนั้นปรากฏว่าเป็นศพผู้ชายคนหนึ่งแต่ตัวท่อนล่างนั้นเป็นสภาพของเสือลายพาดกลอน ดูเหมือนว่าเป็นการกลายร่างจากเสือเป็นคนที่ยังไม่สมบูรณ์นั้นเอง จากการถามที่มาของศพชายผู้นี้ได้ความว่าเป็นคนในหมู่บ้านย่านนั้น และสาเหตุที่ตายเพราะผิดผีจึงตาย ประเด็นน่าสนใจอยู่ที่ว่าชายผู้นี้ผิดผีอะไร อย่างไรซึ่งหนังสือนั้นมิได้กล่าวถึงจึงยากต่อการวิเคราะห์ได้
อีกหนึ่งเรื่องเล่าเกี่ยวกับเสือสมิง จากอดีตเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรชื่อว่าลุงทองปัจจุบันเกษียณแล้ว
เรื่องราวมีอยู่ว่า มีอยู่ปีหนึ่งเขาได้ลาพักร้อน 3 วันเพื่อพักผ่อน แต่การพักผ่อนครั้งนั้น เขาตั้งใจว่าจะไปนั่งห้างที่ทุ่งใหญ่นเรศวรเพื่อดูสัตว์ป่ามากินดินโป่งตอนกลางคืน บรรยากาศดี เย็นสบาย ก่อนจะเข้าป่าครั้งนั้น ได้สั่งภรรยาไว้ว่า “ไม่ต้องเข้าไปตามนะ พี่จะเข้าป่าอีก 3 วันพี่จะกลับออกมา” หลังจากนั้นเขาก็ได้เตรียมสัมภาระที่จำเป็นในการเข้าป่า เขาเล่าว่าเดินเข้าไปลึกมาก พอถึงห้างที่จะพำนักเพื่อดูสัตว์ในเวลากลางคืน คืนแรกผ่านไปบรรยากาศดีมาก ลมเย็นสบาย เห็นหมูป่าตัวหัวหน้าพร้อมหมูตัวเมียแวดล้อมออกมาหาดินโป่งกินตอนกลางคืน ทุ่งใหญ่นเรศวรสมัยนั้นสัตว์ป่าชุกชมมากถือเป็นป่าใหญ่ก็ว่าได้
พอถึงวันที่ 2 ตกกลางคืนเขาก็ขึ้นไปนั่งบนห้างเช่นเคย คืนนี้แปลกฟ้ามืดสนิทไม่มีดาวไม่มีแสงจันทร์ ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบผิดปกติและแล้วเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดิน เขาตั้งใจฟังใจนึกว่าใครหนอกล้าหาญมากมาเดินป่าตอนกลางคืน จากนั้นเขาก็ได้ยินเหมือนเสียงเมียตัวเองเรียก “พี่ทอง พี่ทอง นี่ฉันเอง” เขามองลงไปเห็นเมียถือตะเกียงเจ้าพายุมายืนอยู่บอกว่า ลูกไม่สบายตัวร้อนจัดฉันทำอะไรไม่ถูกเลยมาตามพี่ พอเห็นเมียเขาก็ทำท่าจะลงจากนั่งห้างไปหาเมีย แต่ก็เอะใจขึ้นมาว่าทำไมภรรยาถึงรู้ว่าเราอยู่ตรงนี้ ทำไมถึงกล้าหาญมาในป่าลึกกลางคืนโดยไม่กลัวสิงสาราสัตว์เลย เวลาคุยจะพยายามหลบสายตาไม่ยอมสบตาเราตรงๆ ตะเกียงเจ้าพายุหากมาจากบ้านน้ำมันตะเกียงน่าจะหมด แต่ทำไมถึงสว่างอยู่ได้ และในมือก็ไม่มีสัมภาระมาเลยมาในชุดคอกระเช้าและผ้าถุงซึ่งเป็นชุดอยู่บ้าน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจหันปากกระบอกปืนส่งให้เมีย และพูดว่า “รับปืนพี่ที พี่จะลงไปแล้ว” พอเมียตัดสินใจยื่นมือจะรับกระบอกปืน เขาก็ลั่นไกปืนยิงทันที เสียงปืนดังสนั่นท่ามกลางความเงียบในคืนราตรีคืนนั้น มีเสียงเสือคำรามและพุ่งพรวดด้วยความเร็วออกไปทางด้านทิศตะวันตกซึ่งเป็นแนวป่าลึกเข้าไปอีก เขาตกใจมากๆ ที่เห็นเสือสมิงว่าจะมีจริง เคยรู้แค่เป็นตำนาน แต่นี่อะไรกันและศพเมียไปไหนหรือโดนเสียกินไปแล้ว พอรุ่งเช้ารอให้ตะวันโด่งเขาตัดสินใจกลับบ้าน
แต่ยังคาใจเรื่องแปลกเมื่อคืนจึงตัดสินใจเดินลงไปในแนวป่าลึกที่มีเงาทะมึน พุ่งพรวดไปทางนั้น ไม่ไกลนัก เขาก็เห็นเสือลายพาดกลอนขนาดใหญ่นอนตายอยู่ เห็นอย่างนั้นก็ตัดสินใจกลับบ้านทันทีตัดสินใจกลับบ้านทันที
พอถึงบ้านเห็นเมียกำลังเล่นกับลูก ก็โล่งอก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ถามเพียงว่า 3 วันนี่ไปไหนมาบ้าง เมียแกตอบว่าไม่ได้ไปไหนพี่อยู่บ้านกับลูกตลอด ลุงทองบอกว่าเหลือเชื่อมากๆ ถ้าไม่เจอกับตัวจะไม่เชื่อเลยคิดว่าเป็นตำนานที่ไหนได้มีจริงในโลก
เขาบอกว่าการลั่นไกครั้งนั้น ตัดสินใจยิงที่ตะเกียงเจ้าพายุ เพราะพรานเฒ่าเคยสอนว่าเสือสมิงแปลงร่างเป็นคนได้ หากจะฆ่าให้ตายให้ยิงที่แสงไฟที่มันถือ ขณะแปลงร่างเป็นคน เพราะนั่นคือหัวใจของมัน
เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเสือสมิงเป็นเรื่องที่เล่าขานกันมาปากต่อปาก ใครที่เคยพบเห็นกับตัวก็คงยืนยันได้ว่าอาจจะมีอยู่จริง แต่คนที่ฟังเพียงเขาเล่ามาก็คงยากที่จะปักใจเชื่อ เพราะเรื่องเล่าหลายเรื่องยิ่งผ่านกาลเวลามายาวนานเท่าไหร่ก็ยิ่งมีสีสันเติมแต่งมากกว่าข้อมูลที่มีอยู่เดิมมากขึ้นเท่านั้น ฟังไว้เพื่อประดับความรู้ดูจะเข้าท่ากว่า และหากวันใดต้องเผชิญหน้ากับเสือสมิงเข้าจริง เรื่องราวที่ฟังเขาเล่ามาก็อาจจะจำเป็นขึ้นมาในทันทีทันใดก็เป็นได้
ที่มา: shock.mthai.com, ventpro.in.th, cm-pra.com และ cmprice.com