เรื่องเล่าวังหลวง การปรากฏพระองค์ของรัชกาลที่ ๓
2014-06-03 10:25:24

          เมื่อวานเราได้พูดถึงเรื่องลี้ลับของวังหลวงไปบางแล้วส่วนหนึ่ง วันนี้เราก็ขอนำเรื่องนี้กับมาพูดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรนั่นเชิญอ่านได้เลย

 

 

          เรื่องนี้เกี่ยวกับพระที่นั่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ เป็นพระที่นั่งองค์ประธานของหมู่พระมหามณเฑียรในสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อมีการก่อสร้างพระที่นั่งจักรีแล้วเสร็จ รัชกาลที่ ๕ และพระบรมวงศานุวงศ์ได้เสด็จย้ายจากที่ประทับเดิม มาประทับที่พระที่นั่งองค์นี้และได้ทรงโปรดให้เขียนภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ของรัชกาลต่างๆ ไว้ในมุขกระสัน (มุขที่เชื่อมระหว่างพระที่นั่งองค์หนึ่งกับอีกองค์หนึ่ง)

 

 

          แล้วเวลานั้นสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ ยังทรงพระเยาว์และทรงซุกซนมาก ขณะที่ประทับเล่นอยู่บริเวณห้องไพรเวทและมุขกระสัน พระองค์ทรงวิ่งเล่นไปมาภายในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานโดยที่พระพี่เลี้ยงก็ตามไม่ทัน หาพระองค์ท่านไม่เจอ ประมาณครูใหญ่พระองค์ถึงกลับมาเองพร้อมกับเล่าให้พระพี่เลี้ยงฟังว่าทรงเห็นตาอ้วนนั่งอยู่ในพระที่นั่งฯ แล้วเดินหายไปในบริเวณที่ประดิษฐานพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระมหากษัตริย์รัชกาลก่อน ด้วยความที่เป็นเจ้าฟ้าท่านจึงตะโกนเรียกว่า "นั่นใคร...ออกมาเดี๋ยวนี้" ปรากฏว่าก็ไม่มีใครออกมา

 

          จนมาวันหนึ่งสมเด็จจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ กำลังเสด็จไปเฝ้ารัชกาลที่ ๕ ทรงดำเนินผ่านห้องที่มีพระบรมสาทิสลักษณ์รัชกาลที่ ๓ แขวนอยู่ พอทอดพระเนตรก็รับสั่งว่า "นี่ไงตาอ้วน..." จนความทราบไปถึงสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาฯ (พระมาตุจฉา/สมเด็จป้า) พระนางจึงมีรับสั่งถามเรื่องราวและทรงเดาว่าคงเป็นรัชกาลที่ ๓ ปรากฏพระองค์ให้เห็นจึงทรงให้นางพระกำนัลจัดดอกไม้ธูปเทียน ไปถวายสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ เพื่อทรงไปขอขมาลาโทษรัชกาลที่ ๓ ที่ทรงล่วงเกิน เข้าไปวิ่งเล่นเอะอะในที่ที่พระองค์เคยประทับ

 

 

          การปรากฏพระองค์ของรัชกาลที่ ๓ ให้สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ ได้ทอดพระเนตร ณ พระที่นั่งองค์นี้ ยิ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าพระวิญญาณของพระองค์ท่านยังคงสถิตย์อยู่ที่นี่ อาจจะเพราะความที่ทรงผูกพันหรือเปล่าก็ไม่รู้ชัดแต่ที่รู้ก็คือ พระองค์ทรงเคยประทับที่พระที่นั่งองค์นี้มาตลอดพระชนม์ชีพและทรงเสด็จสวรรคตที่พระที่นั่งองค์นี้ด้วย

 

---------------------------------

 

          เรื่องเล่าต่อมาเป็นเหตุ ณ บ้านเจ้าจอมก๊ก อ. ซึ่งเหตุการณ์นี้ข้าราชสำนักเจอดีที่หน้าเรือนของ เจ้าจอมก๊ก อ. ซึ่งเจ้าจอมก๊ก อ. นี้เป็นธิดาของเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ (เทศ บุนนาค) เจ้าเมืองเพชรบุรี กับท่านผู้หญิงอู่ บุนนาค โดยเป็นพี่น้องกัน ๕ คน ได้แก่ เจ้าจอมมารดาอ่อน, เจ้าจอมมารดาเอี่ยม, เจ้าจอมเอิบ, เจ้าจอมอาบ และเจ้าจอมเอื้อน (รูปข้างล่างเรียงจากซ้ายไปขวา)

 

 

          เรือนของเจ้าจอมทั้ง ๕ อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นใน ตัวเรือนใช้โครงสร้างเป็นไม้ทั้งหลัง รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูงสี่ชั้น ประตูทางเข้าอยู่ทิศเหนือ ทำเป็นรูปครึ่งวงกลม มีหน้าต่างเจาะเป็นรูปโค้งอยู่ตรงกันทุกชั้น ด้านหน้าชั้นที่สองและชั้นที่สามทำเป็นเฉลียง ส่วนชั้นบนสุดเป็นดาดฟ้า ชั้นล่างเป็นที่อยู่ของข้าราชบริพาร ส่วนชั้นที่สองเป็นที่อยู่ของเจ้าจอมและไว้ใช้รับแขก

 

 

          และแล้วเรือนหลังนี้ก็มีเรื่องเล่าว่าวันหนึ่งขณะที่ว่างจากงานในหน้าที่ ข้าราชการฝ่ายในกลุ่มหนึ่งเห็นว่าสถานที่หน้าเรือนเจ้าจอมก๊ก อ. เงียบสงบ เลยชวนกันมานั่งเล่นพักผ่อนกันในบริเวณสนามหญ้า ขณะกำลังคุยกันออกรส เสียงหัวเราะอาจจะดังไปหน่อยจู่ๆ มีน้ำมาจากไหนไม่รู้เหมือนใครเทราดสาดลงมาจากข้างบน เสียงคุยเฮฮาเมื่อครู่เงียบกริบ...

 

 

          เนื้อตัวก็เปียกปอนกันหมด ครั้นจะแหงนดูข้างบนก็ไม่มีใคร เพราะเรือนนี้ถูกปล่อยร้างไม่มีใครอยู่มานานแล้ว เป็นเรื่องที่น่าประหลาดและจับมือใครดมก็ไม่ได้ เลยเชื่อกันว่าเจ้าของผลงานนี้ไม่มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้แล้ว!

 

 

ที่มา: board.postjung.com


Admin : Maimai
view
:
4117

Post
:
2014-06-03 10:25:24


ร่วมแสดงความคิดเห็น