10 อันดับสถานที่สุดน่ากลัวของโลก!
2014-05-07 10:24:46

         สำหรับวันนี้เรากลับมาเรื่องราว 10 อันดับกันเหมือนเดิม โดยเรื่องราวในคราวนี้เป็น 10 อันดับสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในโลก โดยบางอันดับหลายคนคงทราบกันดีจากเรื่องราวหรือตามภาพยนตร์กันมาบางแล้ว แต่บางอันดับกลับไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ดังนั้นสำหรับในอันดับที่ไม่ค่อยได้ยินมาก่อน เราก็ขอบอกโดยเรียงอันดับจาก 10 ไป 1 เลยดีกว่า

         เริ่มจากอันดับที่ 10

 

 

10.บ้านบอลีย์

 

 

         บ้านบอร์ลีย์เป็นแมนชั่นสไตล์วิคตอเรียในมณฑลเอสเส็กซ์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านที่หลอนที่สุดในอังกฤษ สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1862 เพื่อให้เป็นที่พักสำหรับนักบวช แต่นับตั้งแต่สร้างเสร็จก็มีการพบเห็นวิญญาณอยู่เรื่อยมา และมีเรื่องเล่าว่ามีนักบวชรายหนึ่งตกหลุมรักแม่ชีในโบสถ์ที่อยู่ใกล้ๆ จึงวางแผนที่จะหนีตามกันไป แต่บาทหลวงจับได้ก่อน นักบวชรายนี้จึงผูกคอตายอยู่บริเวณบ้านบอร์ลีย์ ส่วนแม่ชีที่สมรู้ร่วมคิดนั้นถูกฝังทั้งเป็น จากนั้นทั้งคู่จึงเป็นผีหลอกหลอนคนที่ย่างกรายเข้าไปบริเวณนี้อยู่เป็นประจำ

 

 

9.เมืองร้างพริเพียตในยูเครน

 

 

         เมืองร้างพริเพียตในยูเครน ได้รับการประกาศเป็นเมืองในปี ค.ศ. 1979 และมีประชาชนราว 49,360 คน แต่แล้วในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1986 โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลซึ่งอยู่ภายในเมืองได้เกิดระเบิดขึ้นหลังการทดลองผิดพลาด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบรายและได้รับกัมมันตรังสีกว่า 200 คน อพยพอีกนับแสนในตอนนั้น ก่อนที่เมืองพริเพียตจะกลายเป็นเมืองร้างมาจนถึงทุกวันนี้
         อย่างไรก็ดี ปัจจุบันกลุ่มบริษัททัวร์หัวใสได้จัดทัวร์พานักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมเมืองพริเพียตอันโด่งดังแห่งนี้ โดยบรรยากาศในเมืองเต็มไปด้วยความเศร้าและหลอน ขณะที่เรื่องหลอนๆ ของผู้คนที่พบเจอกับวิญญาณก็มีออกมาให้ได้ยินกันอยู่เนืองๆ

 

 

8.ปราสาทเอดินบะระ

 

 

         ปราสาทเอดินบะระถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่หลอนที่สุดในสกอตแลนด์ ใครโชคดีอาจจะได้เจอแจ็กพอต ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณคนเป่าปี่ นักตีกลองไร้หัว ผีนักโทษฝรั่งเศส และผีนักโทษนายพลสมัยสงครามปฏิวัติอเมริกา หรือแม้แต่วิญญาณสุนัขที่วนเวียนอยู่บริเวณหลุมฝังซากของมันเอง นี่ยังไม่รวมเงาดำมืดที่ระบุไม่ได้ว่าคืออะไรด้วย ขณะที่นักท่องเที่ยวอีกหลายคนก็รู้สึกว่ามีใครสักคนมาดึงเสื้อแต่มองไม่เห็นตัวตนของเขา ว่าแต่คุณๆ อยากเจอแจ็กพอตแบบนี้กันบ้างไหมล่ะ

 

 

7.สุสานใต้ดินในกรุงปารีส

 

 

         สุสานใต้ดินในกรุงปารีสเป็นอุโมงค์ใต้ดินที่กลายเป็นที่ฝังศพของผู้คนมากกว่า 6 ล้านศพ หลังจากมหานครปารีสเติบโตอย่างรวดเร็วเมื่อนับร้อยปีก่อน และทางการอยากจะให้มีพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยมากขึ้น และเมื่อย้ายสุสานลงมาใต้ดินไว้เก็บศพผู้คนเรื่อยมา ในที่สุดสุสานใต้ดินก็มีสภาพอย่างที่เห็น คือมีโครงกระดูกเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ซึ่งแน่นอนว่าที่ไหนเต็มไปด้วยคนตาย ที่นั่นก็จะมีเรื่องหลอนออกมาให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ 
         อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะเป็นสุสานใต้ดิน แต่ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 สุสานแห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดให้ผู้คนไปชมอย่างมากมาย จนถึงวันนี้ถ้าใครอยากสัมผัสประสบการณ์สุดหลอนก็ลองไปเยือนกันดู

 

 

6.ป่าอาโอกิกาฮาระ

 

 

         ป่าอาโอกิกาฮาระเป็นผืนป่าพื้นที่ราว 35 ตารางกิโลเมตรที่ทอดตัวอยู่บริเวณเชิงภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหากมองเผินๆ แล้วก็เป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ผืนหนึ่ง แต่ใครเลยจะเชื่อว่าป่าแห่งนี้มีผู้มาฆ่าตัวตายเฉลี่ยปีละ 100 คน 
         ปรากฏการณ์ฆ่าตัวตายนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักเขียนเซโช มัตสึโมโต ได้เขียนนิยายเรื่อง คุโรอิ ไคจู ขึ้นมา และใช้ป่าแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ตัวละคร 2 ตัวมาฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นมาก็มีคนแห่มาฆ่าตัวตายในป่าแห่งนี้อยู่บ่อยๆ จนต้องมีการติดป้ายเตือนใจประเภท "ชีวิตมีค่า โปรดคิดอีกครั้ง" หรือ "คิดถึงครอบครัวก่อนจะทำอะไรลงไป" เลยทีเดียว

 

 

5.ภูเขาแห่งกางเขนในลิทัวเนีย

 

 

         ภูเขาแห่งกางเขนในลิทัวเนีย สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ลึกลับมากในเรื่องความเป็นมา ไม่มีใครรู้ว่าคนสมัยก่อนปักไม้กางเขนไว้ทำไมมากมายเช่นนี้ แต่คาดว่าน่าจะเริ่มทำกันมาตั้งแต่ ค.ศ. 1830 เรื่อยมาจนปัจจุบันมีไม้กางเขนมากมายจนไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน คาดว่าน่าจะมีจำนวนราว 100,000 เป็นอย่างต่ำ และในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้ก็ถูกใช้เป็นสถานที่แห่งการอธิษฐานและมีการปักไม้กางเขนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น บรรยากาศกลับดูวังเวงน่ากลัวพิลึก ยิ่งเมื่อไม่รู้ที่มาที่ไปแล้ว ใครจะกล้าอยู่ในบริเวณนี้คนเดียวตอนพลบค่ำล่ะเนอะ

 

 

4.หอคอยลอนดอนแห่งอังกฤษ

 

 

         หอคอยลอนดอนแห่งอังกฤษ เป็นสถานที่ที่ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 900 ปี ซึ่งตลอดช่วงเกือบพันปีนี้ ที่ตั้งของหอคอยลอนดอนได้ถูกใช้เป็นทั้งป้อมปราการ พระราชวัง เรือนจำ และลานประหาร ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีคนจำนวนมากเสียชีวิตอยู่ในที่แห่งนี้ และปัจจุบันดวงวิญญาณบางดวงก็ยังคงวนเวียนอยู่ที่เดิมไม่จากไปไหน ทำให้มีเรื่องเล่าสุดหลอนออกมาให้ได้ยินเรื่อยๆ โดยเฉพาะการพบเห็นแอนน์ โบลีน พระสนมในพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ที่ถูกประหารชีวิตด้วยการตัดหัว ปัจจุบันเธอยังคงวนเวียนอยู่ที่นี่ และปรากฏตัวให้ใครหลายคนเห็นในสภาพเดินถือหัวไปมา

 

 

3.เกาะฮาชิมะ

 

 

         เกาะฮาชิมะ ในจังหวัดนางาซากิของญี่ปุ่น จริงๆ เกาะแห่งนี้ไม่มีเรื่องเล่าอะไรมากไปกว่าเหมืองถ่านหินเก่าและสถานที่คุมขังนักโทษสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งถูกปล่อยทิ้งร้างไว้นับ 40 ปีแล้ว แต่แม้จะไม่มีประวัติความเป็นมายาวนานว่าเคยมีคนตายอยู่บนเกาะนี้นับพันนับหมื่นชีวิต แต่หากดูจากสภาพความรกร้างบนเกาะ ตึกเก่าที่สุดแสนจะทรุดโทรมแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงไม่อยากจะไปนอนค้างอ้างแรมที่นั่นแน่ๆ ส่วนเรื่องความเฮี้ยนดูเหมือนจะพอมีมาให้ได้ยินอยู่บ้าง เมื่อกองถ่ายภาพยนตร์ Battle Royale ได้เจอกับบุคคลปริศนาที่ไม่ใช่ทีมงานโผล่เข้ามาติดในฉาก และที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือนักแสดงหญิงชาวญี่ปุ่นได้ถูกผีสิงจนต้องหยุดพักกองไปหลายวันเลยทีเดียว

 

 

2.เกาะตุ๊กตาในเม็กซิโก

 

 

         เกาะแห่งนี้มีเรื่องเล่าว่า เคยเป็นที่เสียชีวิตของเด็กหญิงรายหนึ่ง เธอจมน้ำตายขณะวิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ ต่อมาในปี ค.ศ. 1950 ชายคนหนึ่งนามว่า ดอน จูเลียน ซานธานา บาร์เรรา ได้ใช้เกาะเล็กๆ แห่งนี้เป็นบ้าน แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเด็กหญิงอยู่ทุกคืน ทั้งเรียกเขาจากในน้ำ ทั้งร้องเพลง เขากลัวมากจึงเริ่มนำตุ๊กตามาไว้บนเกาะ โดยแขวนมันไว้ตามต้นไม้ทุกต้นและทุกซอกทุกมุมของเกาะเพราะเชื่อว่ามันคงจะทำให้วิญญาณของหนูน้อยไม่เหงาและสงบลง หรืออีกเรื่องคือชาวบ้านนำตุ๊กตาไปแขวนไว้เพื่อเรียกแขกจากต่างถิ่นมาทำการขายค้าโดยมี ดอน จูเลียน คัดค้านเรื่องนี้
         จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2001 ดอน จูเลียน ก็เสียชีวิตลง โดยมีผู้พบศพเข้าคว่ำหน้าจมน้ำอยู่ในจุดเดียวกับที่เด็กหญิงจมน้ำ หลังจากนั้นมาก็มีคนในพื้นที่เปิดเผยว่าพบตุ๊กตาบนเกาะแห่งนี้หันศีรษะได้ ลืมตาเองได้ และใครที่ริอ่านจะไปลองของต้องระวังอย่าได้คิดนำตุ๊กตาบนเกาะติดไม้ติดมือกลับบ้านเลยเชียว

         หรือติดตามในบทความเก่าได้ที่ http://www.tartoh.com/topic/7586/

 

 

1.หมู่บ้านพลัคลีย์ในอังกฤษ

 

 

         หมู่บ้านนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เฮี้ยนที่สุดในอังกฤษ โดยมีการยอมรับอย่างเป็นทางการจากกินเนสส์บุ๊ก เมื่อปี ค.ศ. 1989 หลังจากที่มีรายงานการพบวิญญาณ 12-16 ดวง ในหมู่บ้านนี้ โดยหนึ่งในวิญญาณที่มีผู้พบเห็นมากที่สุดคือ วิญญาณผู้ชายที่เฝ้ากรีดร้องวนเวียนอยู่ในหมู่บ้าน ชาวบ้านเชื่อว่าในสมัยก่อนเขาทำงานก่อสร้างบ้านแต่พลัดตกลงมาเสียชีวิต และอีกดวงคือวิญญาณผู้ชายที่ถูกฆ่าตายด้วยการปักดาบผ่านร่างตรึงไว้กับต้นไม้ ซึ่งแม้ว่าต้นไม้จะถูกตัดไปนานแล้ว แต่ปัจจุบันผู้ที่ผ่านไปพื้นที่ดังกล่าวก็จะได้พบเห็นฉากการต่อสู้และฆ่ากันตายฉายซ้ำบนพื้นที่เดิมครั้งแล้วครั้งเล่า นอกจากนี้ยังมีการพบเห็นผีครูใหญ่ที่เคยผูกคอตาย เดินวนเวียนอยู่ในหมู่บ้านอยู่หลายครั้ง

 

 

ที่มา: hilight.kapook.com/view/92985


Admin : Maimai
view
:
3454

Post
:
2014-05-07 10:24:46


ร่วมแสดงความคิดเห็น