8 วิธีการสู่ความอมตะ
2014-04-24 11:41:37

          ชีวิตอมตะ เป็นสิ่งทีมนุษย์ใฝ่ฝันถึงทุกยุคทุกสมัย เลยไม่น่าแปลกที่จะมีตำนานเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับวิธีสู่ชีวิตอมตะ วันนี้เราลองมาดูตัวอย่างของแต่ละตำนานกัน


 

กินนางเงือก : ญี่ปุ่น

 

 

          ในตำนานของประเทศญี่ปุ่น มีสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งคล้ายนางเงือกที่เรียกว่า นินเงียว (Ningyo) ซึ่งบรรยายรูปร่างลักษณะไว้ว่า เหมือนเป็นลิงผสมปลาคาร์ฟ อาศัยอยู่ในทะเล และเมื่อถูกจับได้จะนำพาโชคร้ายมาให้หรือทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง (ว่ากันว่า ถ้าพบนินเงียวถูกพัดขึ้นมาบนชายฝั่งถือว่าเป็นลางว่าจะเกิดสงครามขึ้น)

 

          ตำนานเรื่องหนึ่งเกี่ยวข้องกับหญิงสาวที่เรียกกันว่า “แม่ชี 800 ปี” (Eight Hundred Nun) เรื่องเล่าไว้ว่า พ่อของเธอนำเนื้อนินเงียวมาให้เธอกินโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เธอถูกสาปให้เป็นอมตะ หลังจากหลายปีผ่านไป เธอมีสามีและลูกหลายคน แต่ทั้งหมดก็ตายจากเธอไปหมด ด้วยความเศร้าเธอจึงอุทิศชีวิตให้กับพระพุทธศาสนาและกลายเป็นแม่ชี อย่างไรก็ตาม อาจจะเป็นเพราะคุณงามความดีที่เธอได้ทำไว้ เธอจึงได้รับการยกเว้นให้เสียชีวิตเมื่ออายุได้ 800 ปี ไม่ได้อยู่ตลอดไป

 

 

สบประมาทพระเยซู : คริสเตียน

 

 

          ในตำนานของชาวคริสเตียน เล่ากันว่ามีชายชาวยิวคนหนึ่งได้ทำการสบประมาทพระเยซูขณะกำลังเดินแบกไม้กางเขน ด้วยการทุบตีพระองค์ด้วยรองเท้าและสั่งให้รีบเดินเร็วๆ พระเยซูตอบกลับด้วยการบอกชายคนนั้นว่า ถึงแม้ตัวเขาเองจะจากไปแล้ว แต่ชายคนนี้ก็ยังต้องอยู่ต่อไปจนกว่าพระเยซูจะกลับมาอีกครั้ง

 

          หลังจากนั้น ชายคนนั้นก็รู้ตัวว่าทำผิดไป เขาจึงเปลี่ยนชื่อเป็นโจเซฟ หันมาเป็นคริสเตียน และได้รับศีลจุ่ม แต่อย่างไรก็ตาม คำสาปนั้นยังคงติดตัวเขาอยู่ เขาไม่สามารถนั่งหรือพักผ่อนได้ยกเว้นช่วงเวลาสั้นๆ ตอนวันคริสมาส และทุกๆ 100 ปี เขาจะล้มป่วยลงและมีอาการชักอยู่ระยะหนึ่ง หลังจากนั้น เขาจะกลับมามีอายุ 30 ปีอีกครั้ง วนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ

 

 

ทำให้เทพเจ้าโกรธ : กรีก

 

 

          เรื่องราวหลักๆ ในตำนานกรีกโบราณทั้งหลายเกี่ยวข้องกับเรื่องของมนุษย์ที่ถูกเทพเจ้าลงโทษ อันตรายของการอหังการ หรือไม่ก็เกี่ยวกับตำนานวีรบุรุษ มีมนุษย์มากมายที่พยายามหลอกล่อหรือท้าทายเทพเจ้า ซึ่งคนเหล่านี้ส่วนมากก็จะมีจุดจบถูกลงโทษไปตลอดกาล

 

          มีเรื่องราวหนึ่งเกี่ยวชายที่ชื่อ ซิซิฟัส (Sisyphus) เขาใช้กลอุบายหลอกล่อเทพเจ้าซุส (Zeus) และจับทานาทอส (Thanatos) เทพเจ้าแห่งความตายมาขังไว้ ทำให้มนุษย์ทั้งโลกไม่มีวันตาย (เพราะเทพแห่งความตายออกไปรับวิญญาณใครมาไม่ได้) ซึ่งทำให้อาเรส (Ares) เทพแห่งสงครามโมโหมาก ดังนั้น ซิซิฟัสจึงถูกลงโทษให้กลิ้งหินก้อนใหญ่ขึ้นภูเขาทุกๆ วัน และกลิ้งมันกลับลงมาทุกๆ คืน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

          อีกตำนานหนึ่งพูดถึงกษัตริย์อิซิออน (Ixion) ซึ่งได้ทำการสังหารพ่อตาของตัวเอง เขาขึ้นไปยังเทือกเขาโอลิมปัสเพื่อไปขอให้เทพเจ้าซุสยกโทษให้ แต่เขากลับไปทำเรื่องผิดพลาดขึ้นเพราะดันไปยุ่งกับเฮรา ราชินีของซุสเข้า เมื่อซุสรู้เข้าจึงใช้เมฆแปลงเป็นพระนางเฮราเพื่อหลอกล่ออิซิออน หลังจากนั้น เขาก็ถูกลงโทษโดยการถูกผูกติดไว้กับกงล้อไฟชั่วนิรันดร์ (ดูเหมือนเป็นอมตะด้วยวิธีนี้จะไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่)

 

 

แร่ปรอท (Cinnabar) : ลัทธิเต๋า

 

 

          แร่ปรอทเป็นส่วนผสมสำคัญในการทำน้ำยาอมตะในทางความเชื่อของลัทธิเต๋า มีความเชื่อกันว่า การกินวัตถุบางประเภทเช่น แร่ปรอทหรือทอง จะช่วยกำจัดสิ่งไม่ดีออกจากร่างกาย และทำให้เป็นอมตะ

น่าเสียดายที่ความจริงแล้วของที่กินเข้าไปพวกนี้เป็นสารพิษ ดังนั้น ทำให้แทนที่จะมีชีวิตเป็นอมตะ กลับทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ซึ่งผู้คนที่เสียชีวิตจากสาเหตุนี้ก็รวมถึงเชื้อพระวงศ์แห่งราชวงศ์ถังหลายคน อย่างไรก์ตาม แนวคิดเรื่องการแปรธาตุภายนอกแบบนี้ก็ถูกเปลี่ยนไปเป็นการแปรธาตุภายใน ด้วยการฝึกฝนลมปราณภายในร่างกายแทนด้วยความหวังว่าการฝึกฝนนี้จะเป็นหนทางสู่การมีชีวิตอมตะ

 

 

ลูกท้อแห่งชีวิตอมตะ : จีน

 

 

          ในเรื่องตำนานมหากาพย์ ไซอิ๋ว (Journey to the West) ที่เราคงพอคุ้นชื่อกันบ้าง ลูกท้อแห่งชีวิตอมตะมีบทบาทสำคัญ ในเรื่อง ราชาวานรซึงหงอคง (Sun Wukong หรือว่าเห้งเจียนั่นเอง) ได้รับเลือกให้เป็นผู้ปกป้องลูกท้อ แต่เขากลับไปแอบกินลูกท้อเข้าไปลูกหนึ่งเสียเอง ทำให้เขาได้รับชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 1,000 ปี ในตอนแรกเขาหลบหนีไป แต่ต่อมาก็ถูกจับได้ แต่เนื่องจากเขากินผลไม้นี้เข้าไป จึงไม่สามารถมีใครประหารชีวิตเขาได้สำเร็จ

 

          หลังจากนั้น ซึนหงอคงก็ก่อสงครามกับสวรรค์ ทำให้พระพุทธเจ้า (พระยูไล) ต้องออกโรงมากำราบซึนหงอคงด้วยตัวเอง ด้วยการหลอกล่อและขังเขาไว้เป็นเวลา 500 ปี หลังจากนั้น ก็เป็นเนื้อเรื่องการเดินทางในตำนานไซอิ๋วต่อมา

 

          ส่วนเจ้าของๆ ลูกท้อแห่งชีวิตอมตะก็คือเง็กเซียนฮ่องเต้นั่นเอง ซึ่งต้นท้อที่ปลูกไว้นี้จะให้ผลทุกๆ 3,000 ปี และจะถูกยกให้กับเทพองค์อื่นๆ เพื่อให้มีชีวิตอยู่เป็นอมตะ

 

 

แอปเปิลทองคำ : นอร์ส

 

 

          แอปเปิลทองคำในตำนานของชาวนอร์สแตกต่างจากแอปเปิลทองคำในตำนานกรีก เพราะมันเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเหล่าเทพเจ้า เทพของชาวนอร์สทั้งหมดต้องใช้แอปเปิลนี้เพื่อจะคงชีวิตอมตะและเป็นหนุ่มสาวตลอดกาล ผู้ดูแลสวนแอปเปิลนี้ก็คือ Idun เทพธิดาแห่งใบไม้ผลิ

 

          เมื่อ Idun ถูกล่อลวงโดย Loki และถูกคุมตัวโดยยักษ์ Thiassi พร้อมกับแอปเปิล เทพเจ้าทั้งหมดก็เริ่มแก่ตัวลงและอำนาจก็เริ่มหดหาย ด้วยพลังเฮือกสุดท้ายเหล่าเทพบังคับให้ Loki คืน Idun และแอปเปิลมาได้สำเร็จ ทำให้เทพทั้งหมดกลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้ง ส่วน Loki ก็แปลงร่างเป็นเหยี่ยวบินหนีไป

 

 

 แอมโบรเซีย (Ambrosia) : กรีก

 

 

          แอมโบรเซียคือเครื่องดื่มของเหล่าเทพเจ้ากรีก ว่ากันว่ามันมีรสชาติคล้ายกับน้ำผึ้ง แอมโบเซียถูกนำส่งไปที่เทือกเขาโอลิมปัสโดยนกพิราบ และน้ำนี้เองที่เป็นสิ่งที่ทำให้เทพเจ้าเป็นอมตะ

 

          มีมนุษย์และมนุษย์ครึ่งเทพหลายคนที่ได้รับสิทธ์ให้ดื่มน้ำแอมโบรเซีย อย่างเช่น เฮอร์คิวลิส (Heracles) ในขณะที่มีอีกหลายคนพยายามขโมยมันแต่ก็ถูกจับได้และถูกลงโทษ อย่างเช่น แทนทาลัส (Tantalus) ส่วนบางคนก็เกือบจะได้ชีวิตอมตะแล้วแต่กลับไปทำเรื่องเสียก่อน จนทำให้ถูกริบสิทธิ์นั้นไป เช่น ไทดุส (Tydeus) ซึ่งเทพีอาเธน่า (Athena) กำลังจะมอบชีวิตอมตะให้ แต่จับได้เสียก่อนว่าไทดุสนั้นกินสมองมนุษย์ จึงยกเลิกไม่มอบชีวิตอมตะให้กับเขา

 

 

จอกศักดิ์สิทธิ์ : คริสเตียน

 

 

          หนึ่งในตำนานที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดของชาวคริสเตียน ก็คือเรื่องราวของจอกศักดิ์สิทธิ์ มันคือจอกที่พระเยซูใช้ดื่มในช่วงอาหารมื้อสุดท้าย และมันเป็นสิ่งที่มีผู้ทำการค้นหากันอย่างกว้างขวาง นอกจากนั้น ยังเชื่อกันว่า จอกนี้ใช้รองรับเลือดของพระเยซูเมื่อถูกตรึงกางเขนอีกด้วย

 

          ในตำนานของกษัตริย์อาเธอร์และเหล่าอัศวินได้ออกตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งผู้ที่มีวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะแตะต้องได้ ว่ากันว่า มีเพียงเซอร์กาลาฮัดเท่านั้นที่แตะต้องจอกนี้ได้ และได้รับชีวิตอมตะไป

 

 

ที่มา: everyday-readers.com


Admin : Maimai
view
:
3111

Post
:
2014-04-24 11:41:37


ร่วมแสดงความคิดเห็น