เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 10 เม.ย. พ.ต.อ.สุทธิศักดิ์ วันที ผกก.สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าได้ช่วยกันควบคุมตัวผู้ก่อเหตุข่มขืนหญิงพิการวัยชรา ไว้ได้ภายบ้านไม่มีเลขที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้ตำรวจสายตรวจรีบรุดไปตรวจสอบ

 

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักชั้นเดียวปลูกเรียงติดกันหลายห้อง พบชาวบ้านนับ 10 คน กำลังช่วยกันควบคุมตัว นายนันธวุฒิ หาวสกัด อายุ 21 ปี อาชีพคนงานก่อสร้าง ที่นั่งอยู่กับพื้นในสภาพใบหน้าบวมปูด ใกล้กันพบหญิงชราวัย 74 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งพิการขาทั้ง 2 ข้างอ่อนแรง เวลาเดินต้องใช้ที่ช่วยค้ำยันในการพยุงตัว นั่งอยู่ในสภาพตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

สอบปากคำเพื่อนบ้าน ให้การว่า ขณะตนนั่งอยู่ในห้องพัก จู่ๆ ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงรีบออกมาดูพบนายนันธวุฒิ เดินสวนออกไปท่าทางลุกลี้ลุกลน เมื่อตรวจสอบพบว่าประตูห้องดังกล่าว ถูกปิดล็อคกุญแจจากด้านนอก จึงคาดว่าน่าจะเกิดเหตุร้าย เลยตะโกนร้องให้ชาวบ้านช่วยกันควบคุมตัวนายนันธวุฒิ ไว้ก่อน แต่เจ้าตัวเหมือนรู้แกวรีบวิ่งเผ่นหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต โดยมีชาวบ้านบางส่วนวิ่งไล่กวดตามไปติดๆ กระทั่งสามารถควบคุมตัวไว้ได้ในป่าละเมาะ ริมถนนเลียบทางรถไฟ ห่างจากจุดเกิดเหตุราวๆ 1 กิโลเมตร ก่อนนำตัวมายังจุดเกิดเหตุ พร้อมกับช่วยเหลือหญิงชราออกมานอกห้อง และแจ้งให้ตำรวจทราบดังกล่าว

 

ผู้เสียหาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะนั่งเล่นอยู่หน้าห้องพัก นายนันธวุฒิ ซึ่งมีที่พักอาศัยอยู่ห้องใกล้เคียงกัน ได้เดินเข้ามาหาพร้อมกับหลอกล่อให้ตนพาเข้าไปดูโทรทัศน์ในห้อง แต่เมื่อเดินเข้าไปปรากฏว่านายนันธวุฒิ กลับเผยธาตุแท้ด้วยการรีบปิดล็อคประตู แล้วใช้ผ้าขนหนูมาอุดปากไม่ให้ส่งเสียงร้อง ก่อนถอดเสื้อผ้าลงมือข่มขืนตนจนสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง พร้อมกับข่มขู่ว่าไม่ให้นำเรื่องนี้ไปบอกใครไม่อย่างนั้นจะตามมาฆ่าปิดปาก จากนั้นจึงเดินออกจากห้องไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและใช้แม่กุญแจล็อคประตูไว้ พอตนได้สติจึงตะโกนให้ชาวบ้านช่วยเหลือดังกล่าว

 

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ตำรวจพบพิรุธหลายอย่างทำให้ยังไม่ปักใจเชื่อมากนัก จึงควบตัวไปหาสารเสพติดในร่างกาย พร้อมกับส่งคุณยายไปทำการตรวจร่างกายที่ รพ.บางละมุง เพื่อใช้เป็นหลักฐานมัดตัวหนุ่มหื่นรายนี้ก่อนแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

เข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 57 เต็มตัวแล้วในปีนี้ กำหนดให้เป็น “7 วันแห่งความปลอดภัย” ด้วยคำขวัญ “ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย สงกรานต์ทั่วไทยไร้อุบัติเหตุ” ระหว่างวันที่ 11–17 เม.ย. 57

 

สงกรานต์ปี 56 ที่ผ่านมา ในช่วง 7 วันอันตราย มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในการเดินทาง จำนวน 321 ศพ ผู้บาดเจ็บ 3,040 ราย สาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ เมาแล้วขับ

 

ในปีนี้ พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ให้รับผิดชอบดูแลเกี่ยวกับการป้องกันอุบัติเหตุทั่วประเทศ ช่วงสงกรานต์ จึงได้ร่วมกับ พล.ต.ต. พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผบก.ทล. เผยแพร่ข้อมูลให้กับประชาชนที่เดินทางได้รับทราบเอาไว้ จะได้หลีกเลี่ยงและระวังอันตราย

 

มีทั้งหมด 23 จุดเสี่ยง ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็นถนนในภาคอีสาน

 

เช่น กม.77-78 ถนนพหลโยธิน ต.สนับหีบ อ.วังน้อย อยุธยา เป็นทางโค้ง, ถนนมิตรภาพ กม.30-27 ต.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เป็นทางลงเขาลาดชันคดโค้งหักมุมต่อเนื่อง, ถนนพหลโยธิน กม.24-25 สี่แยกเข้าบ้านมะนาวหวาน อ.พัฒนานิคม ลพบุรี กม.77-78 และ กม.82- 83 ต.ศิลาทิพย์ อ.ชัยบาดาล และ กม.280 อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี, ตามมาด้วยถนนพหลโยธิน กม.354-355 และ กม.361-365 อ.เมืองนครสวรรค์

 

ขึ้นเหนือไปที่ถนนพุแค-หล่มสัก กม.151-152 อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ถนนนครสวรรค์-พิษณุโลก กม.71-72 อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร, ด้าน จ.สิงห์บุรี ถนนเอเชีย กม.86 และ กม.93+600 เป็นจุดกลับรถระดับเดียวกับถนน, กม.42-46 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี กม.76-79 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เป็นทางโค้งลาดชัน ขึ้น-ลงเขา

 

นอกจากนี้ยังมีเส้นทางมหาสารคาม-กาฬสินธุ์ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม กับเส้นทางร้อยเอ็ด-กาฬสินธุ์ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธ์ุ เส้นทางถนนมิตรภาพ อ.พล อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น มีทางโค้งลงเนิน และถนนมิตรภาพทั้งขาขึ้นและขาล่อง อ.กลางดง และ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

 

และจุดเสี่ยงที่ 23 ถนนมิตรภาพ กม.87-89 ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว มีจุดกลับรถและเป็นช่วงลาดลงเนินยาวประมาณ 2 กม.

 

ครับ ขอให้ระมัดระวังอุบัติเหตุ 23 จุดเสี่ยง จากการเดินทาง

ช่วงสงกรานต์ 11­-17 เม.ย.นี้ครับ

 

 

เครดิต ไทยรัฐ