เมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) ชาวบ้าน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ไปร่วมงานพิธีศพ น.ส.กิ่งหยก คงเสมา หรือ น้องมุก อายุ 20 ปี ซึ่งเสียชีวิตอย่างกะทันหันในวันแต่งงาน เนื่องจากมีอาการเลือดออกเป็นจำนวนมาก ซึ่งญาติเชื่อว่าน่าจะเป็นอาการหลังจากเข้าไปรักษาที่คลินิกทำฟันแห่งหนึ่ง เพื่อขูดหินปูน ก่อนอาการจะทรุดหนักลงและเสียชีวิตในที่สุด

ญาติของ น.ส.กิ่งหยก เข้าร่วมพิธีศพที่วัดกล้วย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศก แม่ของ น.ส.กิ่งหยก ยังคงทำใจรับไม่ได้ที่สูญเสียลูกสาวคนโตไปอย่างกะทันหัน ทั้งที่ในวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นฤกษ์วันแต่งงานของลูกสาวกับแฟนหนุ่ม แต่กลายเป็นวันเสียชีวิตและพิธีศพแทน

แม่ของ น.ส.กิ่งหยก เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ลูกสาวเตรียมจัดงานแต่งของตัวเองกับแฟนหนุ่ม โดยมีการเข้าไปรักษาที่คลินิกทำฟันแห่งหนึ่ง เพื่อขูดหินปูน ก่อนวันแต่งงาน แต่หลังจากขูดหินปูนเสร็จ ปรากฏว่าลูกสาวมีอาการเลือดไหลไม่หยุดและไหลอย่างต่อเนื่องหลายวัน กระทั่งวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ระหว่างจัดของเตรียมงานแต่ง ลูกสาวมีอาการเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ญาติต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนอาการจะทรุดลงอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเช้าวันที่ 31 มีนาคม ซึ่งเป็นฤกษ์งานแต่ง น.ส.กิ่งหยก ก็เสียชีวิตในที่สุด แพทย์ระบุสาเหตุของการเสียชีวิตว่า ติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง

ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ญาติพี่น้องและว่าที่เจ้าบ่าวของ น.ส.กิ่งหยก รู้สึกแคลงใจสงสัยเกี่ยวกับปมการเสียชีวิต เชื่อว่าอาจจะเป็นผลจากการขูดหินปูน เนื่องจากหลังไปทำฟันมา น.ส.กิ่งหยก เกิดอาการเลือดไหลไม่หยุดมาหลายวัน อาจจะเป็นเพราะเครื่องมือทางการแพทย์หรือโรคประหลาดที่รู้จัก

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา นพ.สุรชัย โชคครรชิตชัย รอง ผอ.รพ.พระนครศรีอยุธยา ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.กิ่งหยก ระบุว่า ผู้ป่วยเสียชีวิตจากอาการเกล็ดเลือดต่ำมาก ซึ่งปกติมนุษย์ทั่วไปจะมีเกล็ดเลือดประมาณ 200,000 - 400,000 แต่เมื่อ น.ส.กิ่งหยก ถึงมีแพทย์กลับพบเกล็ดเลือดเหลือเพียง 20,000 เท่านั้น ซึ่งเป็นความผิดปกติอย่างรุนแรง

นอกจากนี้ ญาติยังระบุว่า ผู้ป่วยมีการอาเจียนเป็นเลือดหลายครั้ง แม้กระทั่งก่อนเสียชีวิต น.ส.กิ่งหยก ได้อาเจียนเป็นเลือด ก่อนจะเกิดอาการช็อก แพทย์พยายามปั๊มหัวใจช่วยเหลือแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากมีอาการเลือดไหลออกไม่หยุดในช่องท้องและสมอง ส่วนประเด็นที่อ้างว่า ผู้ป่วยติดเชื้อจากการไปทำฟันมานั้น ไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ เชื่อว่าน่าผู้ป่วยน่าจะเป็นโรคเกล็ดเลือดต่ำ แต่อาจจะไม่ทราบว่าตัวเองเป็นโรคนี้

ที่มา: sanook.com