ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ทวีตข่าว MH370 เทียบกับเครื่องบินตกเขาใหญ่ วอนสื่ออย่าเสนอข่าวไม่จริงหรือข่าวคาดการณ์ ชี้กระทบทีมค้นหาและจิตใจญาติ ย้ำต้องหาเครื่องบินให้เจอถึงจะรู้สาเหตุที่แท้จริง

 

 

            ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวช่อง 3 รายงานผ่านทวิตเตอร์ถึงข่าวคราวการค้นหาเครื่องบิน MH370 เปรียบเทียบกับเหตุเครื่องบินตกเขาใหญ่ เพื่อเป็นอุทาหรณ์กับสื่อว่า อย่าเสนอข่าวไม่จริงหรือข่าวคาดการณ์ เพราะเป็นการกระทบทีมค้นหาและจิตใจญาติ โดยย้ำว่าภารกิจที่สำคัญของทางการมาเลเซียขณะนี้ คือ ต้องค้นหาเครื่องบินให้พบเพื่อจะได้รู้สาเหตุที่แท้จริง โดยมีข้อความทั้งหมดดังนี้

 

 

            "2 วันกับการมาติดตามข่าวการหายไปของเครื่องบิน MH370 ที่กัวลาลัมเปอร์ ยอมรับว่าการรับฟังคำแถลงจากสถานที่จริงกับข่าวออนไลน์บางเรื่องต่างกัน แน่นอนข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศที่ออกจากการแถลงถูกต้องและรวดเร็ว สำนักข่าวไทยนำเสนอต่อได้อย่างถูกต้อง

 

            แต่เรื่องที่ทำให้มาเลเซียต้องแถลงย้ำ 2 ครั้งวันนี้ คือ เรื่องสื่อที่ขอร้องอย่านำเสนอข่าวไม่จริงหรือข่าวคาดการณ์เพราะกระทบทีมค้นหาและจิตใจญาติ แต่หน้าที่ของสื่อก็ต้องวิเคราะห์ยิ่งเรื่องการหายไปของ MH370 ยังมีประเด็นที่มาเลเซียเองยอมรับว่า ยังหาคำตอบไม่ได้ สื่อก็ต้องหาคำตอบ โดยเฉพาะการก่อการร้ายที่มีความเชื่อมโยงทั้งหลักฐานผู้โดยสารและการหายไปทางเทคนิคที่น่าสงสัยเช่นลักษณะสัญญาณจากจอเรดาร์

 

            เมื่ออ่านบทวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินต่างประเทศที่วิเคราะห์การหายไปของเครื่องบินหลายลำก่อนหน้านี้ ส่วนตัวมีตัวอย่างหนึ่งมาเล่าให้ฟัง หวังว่าคงจำกันได้กับความลี้ลับการหายไปอย่างปริศนาของ 2 นักบินฝึกหัดที่เขาใหญ่เมื่อ 6 ปีที่แล้วนะคะ กรณี 2 นักบินที่หายในไทยอาจไม่เกี่ยวกับก่อการร้ายการวิเคราะห์จึงไม่เข้มข้นเท่า MH370 จึงขอเล่าเฉพาะกรณีนี้คะ

 

            การหายไปของ 2 นักบินที่เขาใหญ่ครอบครัวใช้เวลาตามหา 5 ปี สุดท้ายเครื่องตกอยู่ในจุดที่สัญญาณหายจากจอเรดาร์ ตั้งแต่ 2 นักบินและเครื่องหายไป มีการระดมค้นหาในจุดสัญญาณหายจากจอเรดาร์แต่ไม่พบ 5 ปีผ่านไป ครอบครัวใช้ทุกวิถีทางในการตามหา เริ่มต้นจากการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์จากจุดสัญญาณหายและน้ำมันที่มีในเครื่องรวมถึงการติดต่อวิทยุการบินครั้งสุดท้าย 2 ครอบครัววิเคราะห์ว่าถ้าเครื่องไม่ตก น้ำมันที่เหลือขับได้ 2 ชม. อาจบินไปถึงกัมพูชา เลยออกตามหาไปถึงกัมพูชา

 

            นอกจากนี้ยังวิเคราะห์จากเรื่องลี้ลับ การทำนายของหมอดูตามความเชื่อทุกอย่างที่มี 5 ปีเสียเงินไปจำนวนมาก สุดท้ายเมื่อพบซากเครื่องบินตกใกล้จุดเรดาร์ลอส ปริศนาก็แก้ด้วยวิทยาศาสตร์ ครอบครัวยอมรับที่ทำไปทั้ง 5 ปีเหมือนคนบ้าที่วิ่งตามความเชื่อ แต่หัวอกของพ่อและแม่ ต่อให้ทำมากกว่านั้นก็ยอมเพื่อตามหาลูก ตราบใดที่ปริศนายังหาคำตอบไม่ได้ นี่คือเรื่องราวของ 2 นักบินหายในไทย

 

            เรื่องราวครอบครัว 2 นักบินที่เล่ามาทั้งหมด ส่วนหนึ่งก็อยากให้สติเรื่องการสื่อสารที่คาดเดาทั้งหลาย จริงอย่างที่ทางการมาเลพูดจะกระทบจิตใจญาติ ดังนั้น สิ่งที่รับฟังจากการแถลงของอธิบดีการบินมาเลเซียล่าสุดเมื่อช่วงค่ำยืนยันยังไม่พบชิ้นส่วนเครื่องบิน MH370 คราบน้ำมันใกล้จุดสัญญาณขาดการติดต่อก็ไม่ใช่น้ำมันเครื่องบิน การพบวัตถุคล้ายเรือชูชีพในทะเลจีนใต้เมื่อไปตรวจแล้วก็เป็นเพียงท่อนไม้ รวมทั้งชิ้นส่วนที่สื่อบอกเวียดนามพบชิ้นส่วนประตูก็ไม่จริง

 

            สิ่งที่มาเลเซียย้ำ คือ ภารกิจสำคัญขณะนี้คือการค้นหาเครื่องบินให้พบเพื่อจะได้รู้สาเหตุที่แท้จริงจึงไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าจะเกี่ยวกับการก่อการร้าย มีข้อสังเกตุจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงว่า หากเครื่องถูกจี้เพื่อหวังผลทางการเมือง ทำไมเครื่องหายไปโดยไร้ร่องรอยเพราะไฮแจคต้องมีข้อต่อรอง เป็นไปได้หากถูกจี้แล้วเครื่องระเบิดหรือเกิดเหตุก่อนมีข้อเสนอ หากเป็นเช่นนั้นถ้าก่อการร้ายกลุ่มก่อเหตุต้องแสดงตัวแต่ผ่านมา 3 วันยังเงียบ มีหลายเรื่องที่ได้จากแหล่งข่าวมาเลเซีย แต่ขอไม่นำมาเล่าด้วยเหตุผลข้างต้น แค่ขอแชร์ในสิ่งที่ได้จากการทำข่าวเครื่องบินตกมากคนหนึ่ง"

 

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @thapanee3miti