วันที่ 10 มี.ค. นายธรรมรัตน์ จันทร์นวล น้องชายนายมารุต จันทร์นวล เจ้าของรถเก๋งวีออสซึ่งขับเข้าไปบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ แล้วถูกกลุ่มการ์ด กปปส.ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในวันดังกล่าวว่า พี่ชายของตนไปงานเลี้ยงแสดงความยินดีกับเพื่อนที่ทำงานที่ได้เลื่อนตำแหน่ง ในเวลาเกิดเหตุได้ขับรถมาส่งเพื่อนที่แยกหลักสี่ ก่อนขับรถข้ามมายังถนนแจ้งวัฒนะ เพราะคิดว่าสามารถขับรถผ่านพื้นที่ชุมนุมได้ แต่เมื่อเข้าไปเห็นกรวยวางขวางอยู่ จึงลงรถไปเพื่อขยับกรวย แต่ยังเดินไปไม่ถึงกรวย มีกลุ่มคนไม่ต่ำกว่า 5 คนเข้ามารุมทำร้าย โดยไม่บอกสาเหตุว่าเข้ามาทำร้ายเพราะเหตุใด พี่ชายของตนพยายามร้องขอว่าอย่าทำร้าย และพยายามบอกว่าชื่นชอบการเคลื่อนไหวของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. แต่ไม่มีใครยอมฟัง และรุมทำร้ายอย่างต่อเนื่องจนสลบไป

 

นายธรรมรัตน์ ให้สัมภาษณ์ต่อว่า พี่ชายของตนได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกใบหน้าแตกหลายแห่ง หนังตาบวมปิด มีเลือดออกภายในตา กระจกตาถลน เลือดออกในโพรงช่องหูและเยื่อแก้วหู ซึ่งไม่แน่ใจว่าระยะยาวจะมีผลกระทบต่อการมองเห็นและการได้ยินหรือไม่ และจะทำให้ใบหน้าเสียโฉมหรือไม่ นอกจากนี้ยังปัสสาวะเป็นเลือดและมีกระสุนฝังอยู่ในที่ขา สำหรับทรัพย์สินที่หายไปในวันเกิดเหตุมีทั้งสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท แหวน 1 วง พระเลี่ยมทองหลวงพ่อพรหมมูลค่าประมาณ 50,000 บาท โทรศัพท์ไอโฟน และเงินสดติดตัวอีกประมาณ 5,000 บาท

 

นายธรรมรัตน์ ใหัสัมภาษณ์ต่อว่า ส่วนระเบิดที่พบในรถนั้น ไม่ใช่ของพี่ชายตนแน่นอน ยืนยันได้ว่าพี่ชายไม่เคยไปร่วมชุมนุมทางการเมืองกับกลุ่มใด ที่ผ่านมาก็วิพากษ์วิจารณ์ข้อดีข้อเสียของการเคลื่อนไหวทางการเมืองทุกฝ่าย ที่สำคัญพี่ชายไม่เคยมีเรื่องกับใคร ส่วนที่สื่อบางส่วนพยายามเชื่อมโยงและตัดต่อข้อมูลว่าพี่ชายตนเป็นลูกน้องนายโกตี๋นั้น ขอยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง นอกจากนี้ยังมีเฟซบุ๊กที่เป็นแฟนเพจทางการเมืองนำข้อความไปโพสต์ทำให้เกิดความเสื่อมเสียนั้น ถ้ายังไม่ลบข้อความที่เผยแพร่ ก็จะเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป ส่วนเรื่องคดีความ ขณะนี้ได้เข้าแจ้งความเอาผิดกับการ์ดกปปส.แล้ว ที่สน.ทุ่งสองห้อง ต่อจากนี้ก็คงให้เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องติดตามนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

“หลังเกิดเหตุยังไม่มีใครเข้ามารับผิดชอบกับที่เรื่องเกิดขึ้นกปปส.ก็ยังไม่เข้ามารับผิดชอบ ซ้ำยังแถลงข่าวใส่ร้ายพี่ชายของผมอีก ทำให้ครอบครัวตอนนี้เครียดมาก พ่อแม่ถึงกับนอนไม่หลับ ส่วนพี่สะใภ้ที่กำลังตั้งครรภ์ก็เครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก อยากเรียกร้องไปยังผู้ชุมนุมทางการเมืองขณะนี้ว่าทุกคนมีสิทธิ์ออกมาชุมนุม เรียกร้องความเป็นธรรม เรียกร้องประชาธิปไตย แต่วิธีการเรียกร้องควรอยู่ในกรอบกฎหมาย และไม่ทำให้ผู้บริสุทธิ์เดือดร้อนและได้รับความเสียหาย และควรควบคุมฝูงชนและการ์ดไม่ให้ก่อเหตุเช่นนี้กับใครอีก ได้แต่หวังว่าเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นกับครอบครัวใครอีก” นายธรรมรัตน์ ให้สัมภาษณ์

 

เครดิต มติชน