ดูเหมือนงานจะเข้า "ชาม ไอยวริญท์ โอสถานนท์" เหตุเพราะฉากเลิฟซีนที่เล่นกับหนุ่ม "อ้น สราวุธ มาตรทอง" ดูจะเผ็ดร้อน ซึ่งขัดกับภาพลักษณ์นางงาม แถมงานนี้มีข่าวว่าคุณแม่ไม่ปลื้มอีกด้วย เมื่อได้เจอ "ชาม" มาร่วมบวงสรวงละคร "ลิเก๊ ลิเก" ณ แอ็กซ์ สตูดิโอ โดยเจ้าตัวเผยว่า...

 

 

"ฉากเลิฟซีนที่เห็นถือเป็นฉากหนึ่งของละคร และอีกอย่างละครเรื่อง สาปสาง ครบทุกรสชาติ ซึ่งเลิฟซีนเป็นองค์ประกอบหนึ่งของเรื่องซึ่งไม่ใช่ว่าทั้งเรื่องจะมีแต่ฉากอย่างนั้น ชามเพียงเล่นตามบทบาทและทำให้เต็มที่ค่ะ

 

ทำไมเราถึงทุ่มเทเต็มที่ขนาดนั้น

"จริงๆ มันก็เป็นไปตามบทบาทค่ะ สำหระบเหตุการณ์ในเรื่อง "แพรว" จะเป็นคนที่ทะเยอทะยานมากถึงกระทั่งยอมไปทำของมันก็เลยต้องรุนแรงนิดหนึ่ง เราต้องลงทุนกับฉากนั้นในสระว่ายน้ำเลยนะคะ ทุกอย่างมันต้องเยอะ ใหญ่และเต็มที่จริงๆ

 

 

ฉากเลิฟซีนเราเล่นเอง

"ชามเล่นเองทุกอย่างค่ะ ไม่ใช่แค่เลิฟซีนนะคะ ฉากบู๊ชามก็เล่นเองทุกฉากตัวเขียวตลอดเลยค่ะ แต่ลิมิตเลิฟซีนของชามก็อยู่แค่นี้แหละค่ะ เล่นได้มากสุดแค่นี้จริงๆ เพราะฉะนั้นก็อยากให้ติดตามเรื่องสาปสางเพราะเต็มที่ของชามอยู่ในนั้นค่ะ"

 

เราเซฟในฉากขนาดนั้น

"เราเซฟอยู่แล้วค่ะ ก่อนที่จะถ่ายเราจะมีการประชุมกันกับทุกๆ หน่วยงานว่าลิมิตแต่ละคนมีอยู่แค่ไหน แต่ด้วยการดำเนินเรื่องของบทบาทมันก็เลยไปเรื่อยๆ ค่ะ"

 

หลายคนมองว่าขัดกับภาพลักษณ์นางงาม

"คือตอนที่ชามตัดสินใจในการแสดงแล้วชามมองว่าเป็นเรื่องที่ต่างกันเลยค่ะ เราก็อยากจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเพราะแต่ละบทบาทมันมีหน้าที่ต่างกัน ในเมื่อชามรับงานตรงนี้แล้วก็เลยอยากทำให้เต็มที่ ชามคิดว่าถ้าทำเราทำไมม่เต็มที่ ทำแค่นิดๆ หน่อยๆ ก็อย่าทำซะดีกว่าค่ะ คือตอนนี้ชามเป็นนักแสดง ชามเป็นนางงามเมื่อ 8 ปีที่แล้วชามก็ยังดีใจที่ได้เป็นนางงามนะ ทำให้ชามมีโอกาสในการทำหลายๆ อย่างในวงการบันเทิง แต่ตอนนี้ชามอยากเป็นนักแสดงเต็มตัวไม่อยากให้คนมาติดภาพนางงามค่ะค่ะ"

 

 

ฟีดแบคเป็นยังไงบ้าง

"หลายๆ คนก็ตกใจเพราะชามไม่เคยเล่นฉากแบบนี้ ไม่เคยรับบทแรงขนาดนี้มาก่อน ไม่ใช่แค่ฉากเลิฟซีนแต่เป็นอารมณ์ของตัวละครที่ร้ายมากๆ นี่เป็นเรื่องแรกและรู้สึกท้าทายมาก ชามเองก็รักในตัวละคร "แพรว" เพราะเขาสอนอะไรชามหลายอย่างเลย เพราะฉะนั้นทุกฉากที่ชามเล่นก็เต็มที่จริงๆ ค่ะ"

 

มีกระแสข่าวที่ว่าคุณแม่ไม่ปลื้ม

"คุณแม่เป็นคนที่เข้าใจศาสตร์การแสดงและหน้าที่การงานของเรา และคุณแม่ก็รู้อยู่แล้วว่าเรามีลิมิตในการทำงานมากน้อยแค่ไหน ยังไงก็คงไม่มากไปกว่านี้อยู่แล้วเพราะทีมงานคอยช่วยเซฟตลอดเวลา เรียกว่าหายห่วง ไม่ใช่ว่าเราเปลือยนะคะ เราใส่มิดชิดเต็มที่เลย อีกอย่างคือเราถ่ายฉากนี้ตอนท้ายๆ แล้ว มันก็เลยไม่จำเป็นต้องเขินอะไร เราไว้ใจกันค่ะ อย่างพี่อ้นเขายังเป็นครูสอนการแสดงให้ชามตั้งแต่ต้นอีกด้วย ชามรู้อยู่แล้วว่าพี่อ้นเขาเป้นนักแสดงมืออาชีพ เวลาเขาแสดงเขาเต็มที่กับมันและไม่มีอะไรแอบแฝงแน่นอนค่ะ อยากจะบอกว่าชามเล่นเลิฟซีนกับพี่อ้นชามไม่เขินอะไรเลยเพราะพี่อ้นเหมือนพี่ชายชามอีกอย่างเขาเป็นครูเราด้วย เหมือนทุกฉากที่เราได้เล่นไปก็ถือเป็นการเรียนรู้ทำให้เราได้พัฒนาในการแสดงด้วย"

 

 

ถ่ายไปกี่ครั้ง

"จริงๆ ฉากพวกนี้หรือแม้แต่ฉากบู๊เราพยายามทำให้ผ่านใน 1 เทคอยู่แล้ว แต่อาจจะด้วยมุมกล้องหรือแสงไม่เต็มที่ก็ต้องถ่ายอีกค่ะ

 

เราบอกคุณแม่ก่อนไหม

"คุณแม่ทราบอยู่แล้วตั้งแต่รับเรื่องนี้แต่ไม่ทราบว่าจะเลิฟซีนขนาดนี้เพราะบทมันมาเรื่อยๆ เราไม่คิดว่าฉากจะแรงขนาดนี้แต่ในเมื่อเราเล่นมาขนาดนี้แล้วชามก็อยากจะทำให้เต็มที่ในตัว "แพรว" ค่ะ"

 

เขาได้มาขอโทษคุณแม่ก่อนจะเข้าฉากเลิฟซีนแบบนี้หรือเปล่า

"จริงๆ มันเป็นธรรมเนียมของนักแสดงอยู่แล้ว ไม่ใช่ผู้ชายต้องขอโทษอย่างเดียวตัวผู้หญิงเองก็ต้องขอโทษด้วย เรามีการพูดคุยกันก่อนค่ะ"

 

Credit : Daradaily