'บิ๊กแจ๊ด'ลั่น!ลุยยึดพท.รอบทำเนียบคืน
2014-02-17 14:57:26
 
17 ก.พ.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.นำผู้ชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยบริเวณด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ปิดประตูเข้าออกด้านหน้า เปิดไว้เพียงช่องทางเดินเท่านั้น เพื่อป้องกันผู้ชุมนุมปิดล้อมบุกรุกเข้ามาด้านในเหมือนเช่นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ในวันนั้นที่สั่งให้ตำรวจปราบจลาจล และกองร้อยควบคุมฝูงชน 30 กองร้อย 4,500 นาย พร้อมอุปกรณ์ป้องกันตัวครบชุด และอาวุธคู่กายเข้ายึดคืนพื้นที่ถนนราชดำเนินนอก สะพานมัฆวานรังสรรค์ และเป้าหมายพื้นที่โดยรอบทำเนียบรัฐบาล 
 
                    โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจู่โจม บช.น.ทั้งหมดเข้าปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่เป้าหมายให้สำเร็จภายในวันที่ 19 ก.พ.นี้ ตามคำสั่ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส.ซึ่งมอบหมาย บช.น.ยึดพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพลังงาน และถนนราชดำเนิน ตั้งแต่สะพานมัฆวานฯ ถึงสะพานผ่านฟ้าฯ โดยเน้นย้ำว่า ที่ทำเนียบรัฐบาลต้องเปิดทำการให้ได้อย่างช้าในสัปดาห์นี้
 
                    ทั้งนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวยืนยันว่า ตำรวจนครบาลพร้อมปฏิบัติตามคำสั่ง ศรส.อย่างเคร่งครัดโดยเริ่มจากการเจรจาก่อนทุกครั้ง และยึดหลักปฏิบัติตามหลักสากลจากขั้นตอนเบาไปหาหนัก มีการชี้แจงประชาสัมพันธ์ให้ทราบทุกขั้นตอน ตำรวจจะปฏิบัติตามกฎหมายไม่ใช้ความรุนแรง โดยระหว่างการขอคืนพื้นที่จะมีสื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย โดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ทุกหน่วยติดตามข่าวเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ ให้มีการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมให้เป็นไปตามขั้นตอน กำชับให้ดำเนินคดีต่างๆ ทั้งคดีขัดขวางการเลือกตั้ง คดีที่เกี่ยวกับการชุมนุม คดีสำคัญที่เกี่ยวกับการป้องกันอาชญากรรม และคดีเกี่ยวกับความมั่นคง ได้เร่งรัดฝ่ายสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับมาดำเนินคดีเพื่อให้คลี่คลายสถานการณ์ชุมนุมกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด พร้อมย้ำผู้ปฏิบัติไม่ให้ใช้ความรุนแรง ให้ยึดหลักสากลและความชอบธรรมในการปฏิบัติหน้าที่
 
                    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปฏิบัติการขอยึดคืนพื้นที่ และจับกุมแกนนำคนสำคัญที่ศรส.กำชับสั่งการตำรวจในครั้งนี้ ล้วนแล้วแต่นำนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มีฝีไม้รายมือด้านการปราบจลาจลเข้าร่วมทั้งสิ้น โดย พล.ต.อ.อดุลย์ ได้คัดสรรคณะทำงานเข้าผนึกในทีมเวิร์คขุนพลคุมกำลัง ศปก.รส.รับผิดชอบฝ่ายปฏิบัติการ อาทิ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.ปริญญา จันทร์สุริยา ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. รับผิดชอบภาพรวมการชุมนุม โดยทั้ง พล.ต.อ.วรพงษ์ และพล.ต.ท.ปริญญา เป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.ของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ที่มีความสนิทสนมกันมาตั้งแต่สมัยเรียน นรต. รวมถึง พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผบช.ส.รับผิดชอบด้านการข่าว มือขวาของ พล.ต.อ.อดุลย์ สมัยทำงานในพื้นที่ภาคใต้ 
 
                    อีกทั้ง รวมถึงนายตำรวจที่มีความสนิทสนมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในอดีตประกอบด้วย พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา สบ 10 เทียบเท่า รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผบช.สพฐ.ตร. รับผิดชอบงานพิสูจน์หลักฐาน พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร.รับผิดชอบงานสืบสวน พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผบช.ภ.4 รับผิดชอบงานสอบสวน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับผิดชอบการเจรจาต่อรอง โดยมีเป้าหมายคลี่คลายสถานการณ์ชุมนุมประท้วงให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด และให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สามารถกลับเข้าไปทำงานได้ปกติ
 
 
 
 
สตช.ตั้งหัวหน้าชุดเจรจาขอเปิดพื้นที่ 5 แห่ง ภายในสัปดาห์นี้
 
 
                    พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ร.ต.อ.เฉลิม ได้กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งเจรจากับผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ ขอเปิดพื้นที่และเส้นทาง เพื่อให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ต่างๆ 5 แห่ง ภายในสัปดาห์นี้ โดยมอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นหัวหน้าชุดเจรจาและผู้บัญชาการเหตุการณ์พื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ดูแลพื้นที่ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ดูแลพื้นที่สะพานผ่านฟ้า ถนนราชดำเนินกลาง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ดูแลพื้นที่กระทรวงพลังงาน และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ดูแลพื้นที่กระทรวงมหาดไทย พร้อมยืนยันว่า ตำรวจจะใช้การเจรจาเป็นหลัก หากไม่ประสบความสำเร็จ หรือถูกมวลชนต่อต้านก็จะพิจารณาตามความเหมาะสม โดยไม่ได้กำหนดกรอบเวลาดำเนินการ ส่วนการเจรจกับแกนนำผู้ชุมนุมที่มีหมายจับ จะมีการหาแนวทางปฏิบัติ โดยอาจมอบบุคคลที่ 3 ไปเจรจา หรือการพูดคุยทางไกลผ่านโทรศัพท์ หรือวีดีโอคอนเฟอร์เรนต์ เหมือนที่กองบัญชาการตำรวจภาค 1 ทำเพื่อไม่ให้ตำรวจถูกกล่าวหาว่าเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ 
 
                    พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า ส่วนการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมชาวนานั้น หากมีการละเมิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดีเช่นเดียวกัน แต่กำชับเจ้าหน้าที่ป้องกันไม่ให้มีการกระทบกระทั่ง เช่นเดียวกับการชุมนุมในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังมวลชนที่มีความเห็นต่าง ไม่ให้มีการเผชิญหน้ากัน
 
                    "สำหรับความเคลื่อนไหวการชุมนุมในวันนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.นำมวลชนไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล โดยมีการจัดตั้งแนวแบริเออร์เพิ่มเติม ปิดกั้นทางเข้าออก ประตู 1 ประตู 2 และประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งการข่าวพบว่า มีแนวโน้มยืดเยื้อ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเก็บภาพการปิดกั้นทำเนียบเป็นหลักฐานดำเนินคดีต่อไป ขณะที่ การชุมนุมของกลุ่มชาวนาที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมยังอยู่ระหว่างการเจรจา" พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
 
                    โฆษกตร.กล่าวต่อว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังสรุปคดีที่เกิดขึ้นในช่วงการชุมนุมที่มีการประกาศใช้กฎหมายพิเศษ มีทั้งสิ้น 229 คดี แบ่งเป็นช่วงประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ระหว่างวันที่ 9 ตุลาคม 2556 ถึง วันที่ 21 มกราคม 2557 จำนวน 162 คดี และช่วงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2557 ถึง ปัจจุบัน จำนวน 67 คดี
 
เครดิต คมชัดลึก

Admin : GK1551
view
:
957

Post
:
2014-02-17 14:57:26


ร่วมแสดงความคิดเห็น