กรมสรรพสามิตเตรียมยกเลิกสิทธิ รถคันแรก กว่า 1 แสนราย
2014-02-11 11:04:00
 
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิต กำลังพิจารณาตัดสิทธิผู้ที่จองรถยนต์ในโครงการรถยนต์คันแรก แต่ยังไม่เข้ามาใช้สิทธิ แม้ในเงื่อนไขการใช้สิทธิจะไม่ถูกบรรจุในมติคณะรัฐมนตรีก็ตาม เพื่อต้องการให้โครงการปิดตัวลง หลังจากเปิดมาตั้งแต่ปลายปี 2554 ซึ่งกรมฯจะได้ตั้งงบเพื่อจ่ายในโครงการให้แล้วเสร็จ ปัจจุบันมีจำนวนยอดจองรถยนต์โครงการรถยนต์คันแรก ที่ยังไม่มาใช้สิทธิกว่า 1.2 แสนราย จากทั้งหมด 1.25 ล้านราย
 
"ปัจจุบันมีประชาชนเข้าร่วมโครงการรถยนต์คันแรก และได้ใช้สิทธิ โดยแบ่งเป็นได้รับรถยนต์ไปแล้ว 1.125 ล้านราย ยังคงเหลือผู้ที่ยังไม่มารับรถยนต์ 1.2 แสนราย ทำให้เกิดยอดคงค้างที่สรุปไม่ได้ว่า จะมีคนมาใช้สิทธิหรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้ กรมสรรพสามิต ได้หารือกับผู้ประกอบการรถยนต์ว่า จะเปิดโอกาสให้บริษัทรถยนต์ติดต่อสอบถามกับลูกค้าที่ถือใบจองเข้าร่วมโครงการว่า ยังมีความต้องการเข้าร่วมโครงการอีกหรือไม่ หากไม่เข้าร่วมโครงการก็จะตัดสิทธิทันที" เขากล่าว
 
กรณีที่ผู้จองรถยนต์ประสงค์จะร่วมโครงการต่อไป แต่ยังไม่ยอมมารับรถยนต์นั้น ตนได้หารือกับผู้ประกอบการว่า ควรผ่อนผันเรื่องระยะเวลา แต่ต้องกำหนดให้ชัดเจนว่า จะรับรถยนต์ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ซึ่งประเด็นนี้ ในใบจองของรถยนต์บางยี่ห้อบางรุ่น ได้กำหนดไว้ชัดเจนจะรับรถได้ภายในกี่เดือน นับจากวันที่จองรถยนต์ แต่ยอมรับว่า มีใบจองจำนวนหนึ่งไม่ได้ระบุเวลารับรถยนต์ที่ชัดเจน ซึ่งบริษัทรถยนต์รับปากจะไปหารือกับลูกค้า เพื่อให้ได้ข้อสรุปชัดเจน
 
"กรมสรรพสามิต ต้องการปิดโครงการดังกล่าว หลังดำเนินการมาตั้งแต่เดือนต.ค.2554 และได้ขยายเวลาเข้าร่วมโครงการจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2555 เพราะช่วงปลายปี 2554 ประเทศไทยประสบกับภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทำให้ประชาชนชะลอเข้าร่วมโครงการ ขณะที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนหลายรายประสบปัญหาน้ำท่วมโรงงาน จนไม่สามารถเปิดไลน์การผลิตได้"
 
หากประเมินจากตัวเลขยอดรถยนต์คงค้าง 1.2 แสนราย กรมสรรพาสามิต คาดว่า จะผู้มาใช้สิทธิเพิ่มอีกไม่เกิน 2 หมื่นคัน ทำให้ยอดคงค้างที่จองรถยนต์ไว้แต่ไม่รับรถยนต์มีเหลือ 1 แสนราย หรือไม่ถึง 10% จากยอดจองรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด จึงไม่น่ามีผลกระทบต่อกระบวนการผลิตรถยนต์ภายในประเทศ เพราะผู้ประกอบการปรับตัวได้ทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
 
ส่วนการคืนเงินไม่เกิน 1 แสนบาทให้แก่ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ล่าสุดมีผู้ได้รับเงินไปแล้ว 8.46 แสนราย มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท โดยเบิกจ่ายเงินไปทั้งหมด 28 ครั้ง ทุกๆ วันที่ 9 ของเดือน
 
เครดิต Tnews

Admin : GK1551
view
:
1201

Post
:
2014-02-11 11:04:00


ร่วมแสดงความคิดเห็น