นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จ่อยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญ พรุ่งนี้ กรณีจัดเลือกตั้ง ขัด รธน. ม.68 จี้ ผบ.ตร. รักษาองค์กรตำรวจ เร่งสางทุกคดี...

 

 

วันที่ 3 ก.พ. 57 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 ที่ผ่านมาว่า ยืนยันเป็นการเลือกตั้งที่เปล่าประโยชน์ในทางกฎหมาย เพราะนอกจาก 28 เขต ที่ไม่มีผู้สมัคร ส.ส.เขตแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องการนับคะแนนอีก ทั้งที่ยังไม่สามารถทำได้ จึงมองไม่เห็นว่าจะเกิดสภาขึ้นได้ อีกทั้งยังไม่เห็นว่าจะแก้ไขปัญหาหน่วยเลือกตั้งที่ยังไม่เรียบร้อยได้อย่างไร ซึ่งตนเสียดายที่นายกรัฐมนตรีใช้เงิน 3,800 กว่าล้านบาท เดินหน้าจัดการเลือกตั้ง โดยที่ไม่มีทางออก ซ้ำทำให้เกิดข้อขัดแย้งมากมาย ซึ่งทราบว่าใน 1-2 วันนี้ นายกรัฐมนตรีและ กกต. ก็ต้องคุยกันอีก เท่ากับทุกอย่างก็จะกลับมาจุดเดิม เหมือนเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้

 

ทั้งที่หลายฝ่าย คือ ทั้ง กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ ได้เคยเตือนไว้แล้วว่าจะมีปัญหา จึงกลายเป็นการเสียงบประมาณ เสียเวลา และที่สำคัญคือการเสียโอกาส ดังนั้น ในวันที่ 4 ก.พ. 57 พรรคจะไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 68 เพื่อขอให้เอา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ที่ดึงดันเดินหน้าเลือกตั้งเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ โดยมิชอบตามรัฐธรรมนูญ 

 

จากนั้นจะยื่นถอดถอนต่อกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ดำเนินคดีอาญา ตามมาตรา 157 ด้วย ซึ่งมั่นใจมาก เพราะทั้ง กกต. และศาลเอง ก็เคยมีคำเตือนและแนะนำทางออกแล้ว แต่รัฐบาลไม่ดำเนินการ ย้ำ "ยิ่งลักษณ์" ตัวปัญหาปิดโอกาสชาติ ฟันธงที่สุดก็ต้องไป 

 

เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส. ระบุว่า ให้ กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งใน 180 วัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไปเอามาจากไหน เพราะเดิมเห็นบอกว่า กกต.ต้องจัดเลือกตั้งภายใน 60 วัน คือ ไม่เกินวันที่ 6 ก.พ. แถมย้ำว่า เลื่อนการเลือกตั้งไม่ได้ เพราะไม่บอกความจริงกับประชาชน วันนี้จึงมาบอกใหม่ว่าใน 180 วัน ทั้งที่การอยู่รักษาการต่อไปจะกระทบต่อเศรษฐกิจ และความเดือดร้อนของประชาชน ที่รอแก้ปัญหา เช่น ชาวนาที่ยังรอเงินในเรื่องจำนำข้าว ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลต้องเป็นฝ่ายหาทางออกให้กับประเทศ เพราะเป็นคนตัดสินใจเดินหน้าเลือกตั้ง ซึ่งยิ่งทำให้เกิดความขัดแย้ง และคนที่ควรถอยออกมาคนแรก คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้วหาสภาวะแวดล้อมที่เอื้อให้ทุกคนพร้อมจะไปเลือกตั้ง และมั่นใจว่าจะมีการปฏิรูปได้ แต่เงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคคือ การทำหน้าที่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เสียเอง ที่เป็นคนปิดโอกาสเดินหน้าของชาติ ทั้งนี้ ตนไม่คาดหวังว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะตัดสินใจอะไร และพยายามจะยื้อเวลาไว้อีกแค่ไหน ซึ่งในที่สุดจะยิ่งมีปัญหาข้อกฎหมาย และเชื่อว่าหากรัฐบาลยังเดินหน้าต่อไปเช่นนี้ ก็จะรักษาอำนาจไว้ไม่ได้

 

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเรียกร้องถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ขอให้ความสำคัญในการเร่งคลี่คลายคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับประชาชน ผู้ชุมนุมและฝ่ายที่เห็นต่าง ซึ่งเกิดขึ้นกับคนฝ่ายเดียวที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทั้งเหตุการกราดยิงใส่ตามเวทีชุมนุมต่างๆ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมแล้วเกิดเหตุขึ้นกว่า 30 ครั้งแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งหลายเหตุการณ์ รวมทั้งเหตุการณ์ปะทะกันที่หลักสี่ ซึ่งมีหลักฐานชัดเจน แต่ตนก็แปลกใจว่าทำไมถึงรีบออกมาระบุ ก่อนที่จะเสาะหาข้อเท็จจริง เพราะ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ ได้พูดกับสื่อต่างชาติชัดเจนมาก ก่อนที่จะเกิดเหตุปะทะว่าเป็นการขจัด แต่กลับกลายเป็นไม่เกี่ยวข้อง

 

ดังนั้น จึงขอให้ ผบ.ตร. คิดถึงสถาบัน หรือองค์กรตำรวจโดยรวมมากกว่าอย่างอื่น เพราะวันนี้สถาบันไม่ใช่คู่ขัดแย้งโดยตรงกับประชาชน เพราะตำรวจควรอยู่ในฐานดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ใช่เลือกอยู่ข้างหนึ่งข้างใด ต้องแก้ตรงนี้ ซึ่งประเทศชาติจะมีทางออกโดยไม่มีความสูญเสียหรือไม่นั้น ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกัน คือ ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ตามข้อเท็จจริง

 

Credit : Thairath

Admin : Chanya