มรสุมแห่งชีวิต!..ของราชินี"นอกบัลลังก์"
2014-01-29 11:06:31
(ภาคต่อจาก) วันสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพ"กษัตริย์ผู้อาภัพ"
 
ภาพซ้ายคือ พระตำหนักที่ประทับและสวนดอกไม้ที่ทั้งสองพระองค์ช่วยกันปลูกและพักผ่อนพระอิริยาบถ
ภาพกลาง ขณะที่พระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร
ภาพขวา สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี
 
เมื่อเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าพระเจ้าอยู่หัวสวรรคตแล้ว ครั้นได้สติจึงพากันรีบโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากตำรวจให้จัดการเรียกรถยนต์พระที่นั่งที่สมเด็จพระบรมราชินีประทับไปเก็บดอกทิวลิปมาถวายพระเจ้าอยู่หัวกลับพระตำหนักโดยด่วน โดยให้ทูลว่ามีเหตุสำคัญเกิดขึ้นแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 
ณ บัดนั้นเอง ตำรวจจราจรเมืองอังกฤษนายหนึ่งซึ่งเฝ้าคอยดูทะเบียนรถยนต์ พอเห็น Wolesley คันหมายเลข FYT 6 จอดอยู่ก็ปรี่เข้ามาทันที และแจ้งกับข้าหลวงว่าให้ทูลสมเด็จพระบรมราชินีว่าเกิดเหตุสำคัญที่พระตำหนัก ให้รีบเสด็จกลับโดยด่วน สมเด็จพระบรมราชินีพอได้ทรงทราบก็ทรงสังหรณ์พระทัย พระพักตร์ซีดเผือดลงในทันใด และทุกคนก็เริ่มรู้สึกว่าคงจะมีอะไรเกิดขึ้นกับพระเจ้าอยู่หัวเป็นแน่ พอกลับรถเรียบร้อยก็ย้อนสู่ทางเก่าฝนก็เทลงมาอย่างหนัก สมเด็จพระบรมราชินีพระพักตร์ซีด ขอบพระเนตร์แดงก่ำตรัสอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว
 
และในที่สุดรถยนต์พระที่นั่งก็เลี้ยวเข้าสู่ประตูพระตำหนัก ณ ที่บันไดใหญ่นั้นเอง พระประยูรญาติได้ยืนรอรับสมเด็จพระบรมราชินีอยู่ ทุกพระองค์เงียบกริบ มีแต่ความเศร้าสลดละเลงอยู่ในพระพักตร์ของแต่ละองค์ ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบสงัดแม้แต่ลมก็เหมือนถูกสาปหลับนิ่งเงียบไปหมด ท้องฟ้าคงครึ้มลงทันทีทั้งๆที่เป็นเวลาเพียงบ่ายเศษๆ สมเด็จพระบรมราชินีทรงก้าวพระบาทลงจากรถด้วยความอ่อนพระทัย หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์ฯ รีบเข้าประคองและนำสมเด็จขึ้นบันไดไปบนพระตำหนัก พระองค์ก้าวพระบาทช้าๆพระพักต์ซีตเนื้อตัวสั่นไปทั้งองค์และเปิดประตูเข้าไป "ในห้องพระบรรทมทอดพระเนตรเห็นพระบรมศพบรรทมหงายอยู่บนเตียง สมเด็จพระบรมราชินีก็มีพระอาการซวนเซหมดพระกำลัง น้ำพระเนตรไหลนองออกมาเป็นสาย ทรงรวบรวมพระกำลังแข็งพระทัยเดินต่อไปให้ถึงเตียงและตรงเข้าทรุดพระองค์ลงกราบและจูบไปที่พระบาท(เท้า)ของพระเจ้าอยู่หัว กรรแสงออกมาดังเสมือนพระทัยของพระองค์จะสูญสิ้นตามพระเจ้าอยู่หัวไป
 
แต่หลังจากนั้นไม่ถึงสองนาที สมเด็จพระบรมราชินีทรงนิ่งไม่ปริปากตรัสอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว พระองค์ฝืนพระทัยข่มพระอารมณ์ได้อย่างน่าประหลาด ไม่มีคำพูอะไรหรือตัดพ้อใดๆ หลุดออกมาจากพระโอษฐ์เลยแม้แต่คำเดียว หลายท่านที่อยู่ภายในห้องนั้นต้องแอบร่ำไห้พยายามกลั่นใจไม่ให้ร้องออกมาเมื่อเห็นภาพพระราชินีก้มกราบลงกับพื้นและแหงนพระพักต์มองไปที่พระบรมศพ พระชะตากรรมและความขมขื่นที่ได้บังเกิดขึ้นกับพระองค์ครั้งนี้นับว่ายากที่จะอธิบายกลั่นกรองออกมาเป็นคำพูดหรือตัวอักษรได้
 
 
ขอบคุณที่มาจาก(บางส่วน) หนังสือ ชีวิตเหมือนฝัน 
ที่มา facebook.com/คลังประวัติศาสตร์

Admin :
view
:
2660

Post
:
2014-01-29 11:06:31


ร่วมแสดงความคิดเห็น