กปปส.จี้นายกฯปลด 'เฉลิม' พ้น ผอ.ศรส.
2014-01-28 17:38:01

 

 
 
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกกปปส. กล่าวว่า เหตุการุณ์ความรุนแรงเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ในการเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งกปปส.ตั้งข้อสังเกตว่ามีการทำเป็นกระบวนการ โดยรับลูกระหว่างศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศรส.) ตำรวจ และม็อบของรัฐบาล เพราะมีข้อมูลเชื่อมว่าตำรวจรู้เห็นเป็นใจ คือ 

 
1.มีการทำร้ายและยิงปืนใส่ผู้ชุมนุมที่วัดศรีเอี่ยม จนทำให้นายสุทิน ธราทิน ผู้ประสานงานเครื่อข่ายกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) เสียชีวิต พร้อมทั้งมีภาพปรากฏชายฉกรรจ์คนหนึ่งมีผ้าผูกปากสีแดง มีอาวุธปืนในสถานที่เกิดเหตุ

 
จากการตรวจสอบเป็นภาพของนายวิทยา แสนสุข และตรวจที่มาพบบนเฟซบุ๊คหลังเกิดเหตุ โดยนายวิทยา ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "สบายใจ เมื่อวานหลังเลือกตั้งล่วงหน้าพระโขนง ไปรับเสด็จกปปส.ที่บางนา" ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ อีกทั้ง ปรากฏว่าในเฟซบุ๊คระบุสถานที่ทำงาน ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดังนั้น สตช.จะต้องออกมาชี้แจงเรื่องนี้ ว่าชายคนดังกล่าวมีส่วนเกียวข้องกับสตช.หรือไม่ เพราะหลักฐานชัดเจนว่าทำร้ายผู้เข้าร่วมชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์

 
ทั้งนี้ การเกิดเหตุที่ผ่านมา เห็นชัดว่าตำรวจเพิกเฉยต่อเหตุที่เกิดขึ้น เช่น เหตุการณ์ขว้างระเบิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ปรากฏภาพคนร้ายชัด แต่ตำรวจไม่สามารถจับกุมได้ เหมือนตั้งใจปล่อยเกียร์ว่าง และถ้าไม่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว เท่ากับว่าสตช.มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และปล่อยเกียร์ว่าง

 
2.จากการชุมนุมหน้าสำนักงานเขตหนองแขม ใช้เป็นสถานเลือกตั้งล่วงหน้า คือ ทวีวัฒนา-หนองแขม และ หนองแขม-บางบอน โดยมีผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นบุตรชายร.ต.อ.เฉลิม และระหว่างชุมนุม พบชายต้องสงสัย 3 คน จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าไปตรวจสอบ แต่กลับวิ่งหนี แต่หนึ่งในสามสะดุดและล้มจับได้ และพบว่าเป็น ร.ต.อ.อิทธิกร ลุนสะแกวงศ์ รองสารวัตรสืบสวนสอบสวนสน.หนองแขม ได้เข้ามาแฝงตัวกับกลุ่มผู้ชุมนุม และไม่แต่งเครื่องแบบตำรวจ อีกทั้งในกระเป๋าพบอาวุธปืน และได้นำไปตรวจสอบหมายเลขทะเบียน พบเป็นปืนขนาด .45 แต่เจ้าของปืนไม่ใช่ร.ต.อ.อิทธิกร

 
อย่างไรก็ตาม หมายความว่าตำรวจคนนี้มีปืนเอาไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนญาต จึงอยากถามไปสน.หนองแขม ศรส. สตช. ว่าตำรวจที่เข้าไปแฝงตัวมีภารกิจ หรือได้รับคำสั่งจากใคร เพราะการมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือว่ามีความผิดทางอาญา และการที่เข้าไปข้องแฝงตัวนั้น มีเป้าหมายก่อกวน ก่อเหตุรุนแรง และโทษว่าเป็นมือที่สามหรือไม่ ดังนั้น ศรส. สตช. ต้องชี้แจง ไม่เช่นนั้นเท่ากับตำรวจรู้เห็นเป็นใจกับเรื่องนี้

 
นอกจากนี้ ตั้งข้อสังเกตในการตั้งร.ต.อ.เฉลิม ในตำแหน่งผอ.ศรส. ซึ่งร.ต.อ.เฉลิมถือว่าไม่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งนี้ เพราะ ไม่รับผิดชอบต่อข้อมูลที่นำเสนอออกมา อีกทั้ง ยังบุคคลที่เคยพูดผ่านสื่อใส่ร้ายประชาชน ณ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ที่มีชายชุดดำบนตึกกระแรงงาน และกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมขึ้นไป ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ออกมายอมรับว่าเป็นตำรวจจริง ดังนั้น พิสูจน์ได้ว่าร.ต.อ.เฉลิมไม่รับผิดชอบ

 
นายเอกนัฏ กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมยังมีบุคลิกก้าวร้าว มุทะลุ ไม่เหมาะทำหน้าฝ่ายมั่นคง ดูและความสงบเรียบร้อยในการชุมนุม เพราะเมื่อวานนี้ เวลา 15.00 น. ได้มีตำรวจรักชาติรายงานมาว่า ได้พูดก้าวร้าวในที่ประชุมถึงแกนนำว่าเป็นผู้ร้ายจัดการขั้นเด็ดขาดไม่ให้เอาเยี่ยงอย่าง และหากขัดขืนใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด" 

 
ทั้งนี้มีรายงานว่ากองกำลังปราบปรามยาเสพติด (ปส.) ใกล้สโมสรตำรวจเป็นสถานที่ดื่มสุราทุกเย็นของร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งมีนัยสำคัญในฐานะผอ. เพราะหากมึนเมาก็จะเกิดความบกพร่องต่อการตัดสินใจ และในฐานะร.ต.อ.เฉลิม เป็นผอ.ต้องมีความรับผิดชอบต่อเจ้าหน้าที่ที่ทำงานตามคำสั่ง ศรส. เพราะการกระทำให้เกิดการสูญเสียของเจ้าหน้าที่และประชาชน

 
อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ซึ่งเป็นผู้ลงนามแต่งตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม มาทำหน้าที่ผอ.ศรส. ต้องตัดสินใจว่าจะปรับ ร.ต.อ.เฉลิม ออกจากตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่ หากเกิดสูญเสียรุนแรงเพราะความบกพร่องของร.ต.อ.เฉลิม นายกฯต้องรับผิดชอบในฐานะแต่งตั้งร.ต.อ.เฉลิมมาดูแลกำกับ ศรส.
 

 
ADMIN : Mo Malaysia
SOURCE : กรุงเทพธุรกิจ 

Admin : admin
view
:
1486

Post
:
2014-01-28 17:38:01


ร่วมแสดงความคิดเห็น