วันสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพ"กษัตริย์ผู้อาภัพ"
2014-01-24 11:13:42
(ภาคต่อจาก) คำประกาศ"สละราชสมบัติ"เพื่อประชาชนของพระองค์
ภาพบนซ้ายคือ พระตำหนัก Compton Houseที่ประทับจนสวรรคต
ภาพล่างซ้ายและขวา พระเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชินีประทับทอด พระอิริยาบถในสวนหน้าพระตำหนัก
หลังจากที่พระองค์ประกาศสละราชสมบัติแล้ว ครั้นวันที่ 30 พฤษภาคม 2484 ก็ได้มาถึงคือเป็นวันสุดท้ายของพระชนม์ชีพของพระมหากษัตริย์ผู้อาภัพของชาติไทย รุ่งอรุณของวันนั้นท้องฟ้าแจ่มใสแสงแดดจ้าอบอุ่นกว่าทุกๆวันจนในตอนเช้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลุกจากพระแท่นบรรทมเสด็จพระราชดำเนินไปตามระเบียงพระตำหนัก แสงแดดจ้า ท้องฟ้าแจ่มและลมเอื่อยๆ เป็นเช้าที่หาได้ค่อนข้างยากสำหรับเมืองอังกฤษ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับอยู่ที่เฉลียงทอดพระเนตรชมสวนเล็กๆที่พระองค์ทรงปลูกเองที่สบายพระทัยกับสมเด็จพระบรมราชินี ไม่มีวี่แววของอาการที่น่าวิตกแต่อย่าใด เมื่อได้เห็นพระอาการของพระเจ้าอยู่หัวสดชื่นกว่าทุกวัน สมเด็จพระบรมราชินีจึงมีพระราชประสงค์ที่จะเสด็จไปเก็บดอกทิวลิปซึ่งเป็นดอกไม้ที่พระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดมาถวาย สวนดอกทิวลิปนี้อยู่ไกลออกไปจากพระตำหนักที่ประทับต้องเดินทางด้วยรถยนต์พระที่นั่ง
พระเจ้าอยู่หัวจึงทรงอนุญาต ดังนั้นในเวลา 9.30น. ของวันนั้นสมเด็จพระราชินีและข้าหลวงจึงออกจากพระตำหนักโดยรถยนต์ส่วนพระองค์ที่ทางรัฐบาลอังกฤษจัดถวาย จึงมีเลขทะเบียนพิเศษซึ่งตำรวจจราจรทั้งเกาะอังกฤษจะรู้จักดี เวลานั้นในพระตำหนักมีนางพยาบาลชาวอังกฤษกับพระองค์เจ้าจีระศักดิ์เท่านั้น(พระโอรสบุญธรรม) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จขึ้นตำหนักเข้าบรรทมจนเวลาประมาณ 11 น.เศษ
ณ บัดนั้น อาการพระหทัยพิการของพระเจ้าอยู่หัวได้เริ่มแสดงอิทธิพลขึ้นขณะพระองค์บรรทมอยู่แต่ลำพังภายในห้อง พระหทัยเต้นอ่อนลง อ่อนลงทุกขณะ และในที่สุดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระอาการช็อค แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่จะมีพระอาการช็อค พระองค์ได้ทรงพยายามรวบรวมพระกำลังกดกริ่งเรียกพยาบาลแต่ช้าไปเสียแล้ว พยาบาลได้รีบเข้าไปในห้องพระบรรทมเพื่อถวาย แต่ภาพที่ปรากฏแก่สายตาของพยาบาลก็คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้อาภัพของชาติไทยบรรทมหงายพระเนตร์ทั้งสองข้างปิดสนิท และเมื่อพยาบาลเข้าไปจับพระวรกายนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จสวรรคตเสียแล้ว แต่พระวรกายยังอบอุ่นอยู่
วินาทีนั้นเองนางพยาบาลรีบวิ่งลงมาบอกพระองค์เจ้าจีระศักดิ์ฯ โทรศัพท์ถึง ดร.หลุย เวลเลนส์ นายแพทย์ประจำพระองค์ ความโกลาหลได้บังเกิดขึ้นในพระตำหนัก หม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์ฯ พระองค์เจ้าจีระศักดิ์ฯ หม่อมมณี รีบรุดขึ้นสู่ห้องบรรทม และประมาณ 20 นาทีต่อมา นายแพทย์ประจำพระองค์ก็มาถึงแต่หมดหนทางที่จะทำการแก้รักษาใดๆ ได้แล้ว นายแพทย์ชราจึงได้แต่คำนับพระบรมศพแล้วก็ถอยห่างออกไปนางพยาบาลจึงจัดการหยิบผ้าคลุมพระพักตร์ ในทันทีนั้นท้องฟ้าก็เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ราวกับสวรรค์ไว้อาลัยต่อพระมหากษัตริย์ผุ้อาภัพ แดดที่สาดแสงจ้าอยู่ก็ถูกบดบังด้วยหมู่เมฆหนาทึบลมที่โชยเอื่อยอยู่สดุดนิ่ง ในห้องบรรทมเต็มไปด้วยความเงียบสงัดวังเวงอย่างพิกล ในห้องนั้นมีแต่เสียงสะอื้น และธารน้ำตาพระประยูรญาติต่างเข้ากราบพระบาทและร่ำกรรแสง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ครองบัลลังก์เหนือประชาชนกว่าสิบล้านได้สิ้นพระชนม์ลงอย่างโดดเดี่ยวและอ้างว้างในดินแดนนอกราชอาณาจักรที่พระองค์รักและจากมา
Credit : คลังประวัติศาสตร์
ขอบคุณที่มาจาก(บางส่วน) หนังสือ ชีวิตเหมือนฝัน
Admin : admin
view
:
3032
Post
:
2014-01-24 11:13:42
ร่วมแสดงความคิดเห็น