สกู๊ปตาโต : ปฏิวัติ ปฏิรูป พัฒนาการ และวิวัฒนาการ โดย วีรพงษ์ รามางกูร
2014-01-24 10:44:31
ปฏิวัติ ปฏิรูป พัฒนาการ และวิวัฒนาการ โดย วีรพงษ์ รามางกูร
ภาษาไทยเรามีคำที่แปลมาจากภาษาฝรั่งเศส คำที่เรานำมาใช้ในทางวิชาการ ทางรัฐศาสตร์ ทางสังคม ทางเศรษฐกิจและทางการเมือง ทั้งหมดหมายถึงการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ที่ไม่เป็นที่พึงพอใจ ไม่ดีพอ หรือไม่ก็เห็นว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้าย โดยจุดมุ่งหมายที่แสดงออกว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นทั้งนั้น ผิดกันก็แต่วิธีการที่รุนแรงที่สุด รุนแรงน้อยและไม่รุนแรง ไปสู่จุดมุ่งหมายที่เปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน กะทันหัน เปลี่ยนแปลงมากหรือเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ความจริงแล้วสังคมทุกสังคมมีชีวิตจิตใจ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตามสิ่งแวดล้อม ตามเหตุปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ตามกาลเวลา เพื่อสร้างความสมดุลหรือที่ฝรั่งเรียกว่า "ดุลยภาพ" หรือ equilibrium โดยมีเงื่อนไขว่า ระบบการเมืองก็ดี ระบบเศรษฐกิจระบบตลาดก็ดี ระบบสังคมก็ดี เป็นระบบเปิด เป็นระบบที่เรียกว่า เสรีประชาธิปไตย ทั้งการเมืองเศรษฐกิจและสังคม
ความไม่สมดุลหรือดุลยภาพไม่เกิดขึ้นก็เพราะมีสิ่งกีดขวาง มีข้อจำกัด มีกฎเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่มนุษย์สร้างขึ้นกีดกัน สร้างความเชื่อหรือไม่เชื่อ ความเท่าเทียมกันของข้อมูลของสมาชิกในสังคม เช่นเดียวกับตลาดที่เป็นตลาดที่ไม่มีการแข่งขันอย่างสมบูรณ์ แต่เป็นตลาดผูกขาดหรือกึ่งผูกขาด เพราะมีผู้ซื้อและผู้ขายใหญ่เล็กไม่เท่าเทียมกัน การเมืองก็เช่นเดียวกัน ถ้าบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีอำนาจไม่เท่าเทียมกัน จะโดยความเชื่อหรือความจริงที่เป็นไปตามเงื่อนไข อำนาจการเมืองก็จะถูกผูกขาดโดยกลุ่มคน หรือคณะบุคคล หรือชนชั้นของคนในสังคม
ปัญหาการเมืองที่วุ่นวายอยู่ในบ้านเมืองของเราในระยะประมาณ 10 ปีมานี้ ก็เพราะสังคมของเราไม่สามารถเคลื่อนเข้าสู่จุดดุลยภาพได้ เพราะเหตุที่เศรษฐกิจของประเทศ โดยส่วนรวมก็มีฐานะเศรษฐกิจของผู้คนในต่างจังหวัดเปลี่ยนไป เทคโนโลยีการสื่อสารเปลี่ยนไป ถนนหนทางการคมนาคม สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ความเป็นโลกาภิวัตน์มีมากขึ้น การศึกษา การสาธารณสุขของคนในต่างจังหวัดดีขึ้น
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ชนชั้นนำ ชนชั้นปกครอง และคนในกรุงเทพฯไม่ค่อยรู้สึก ยังคิดว่าคนต่างจังหวัดยังเหมือนเดิม กล่าวคือคิดว่าตนเป็นคนฉลาดกว่า เก่งกว่า เสียภาษีมากกว่าคนในต่างจังหวัด ถ้าจะพูดให้ชัด พื้นที่ที่เราเคยเรียกว่า "ชนบท" นั้น บัดนี้เหลือน้อยมากไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ ในแง่ชีวิตความเป็นอยู่พื้นฐาน ไม่แตกต่างกับคนชั้นกลาง โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนในกรุงเทพฯมากนัก แต่เขาเหล่านั้นมีจำนวนมากกว่าคนกรุงเทพฯมากนัก
เมื่อเศรษฐกิจของประเทศเจริญเติบโตเปลี่ยนแปลงไปมาก ไม่เหมือนประเทศหลายประเทศเพราะเราเปิดประเทศมานาน ได้รับประโยชน์จากการใช้ระบบเศรษฐกิจเปิดต่อการค้าและการลงทุน "open economic system"
ในขณะเดียวกันระบบการเมืองของเรากลับเป็นระบบการเมืองที่ปิดหรือ "closed political system" ตลอดมาตั้งแต่มีการรัฐประหารในปี 2490 หลังการทำรัฐประหารการเมืองก็เป็นระบอบทหาร ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ หรือไม่ก็มีเลือกตั้งสภาผู้แทนแต่ก็มี ส.ส.ประเภทสองบ้าง โอกาสของการพัฒนาการเมืองจึงมีน้อย
เคยมีนักปฏิวัติการเมืองมากมาย เช่น ฮิตเลอร์ มุสโสลินี เลนิน สตาลิน และเหมา เจ๋อ ตุง ที่คิดว่าตนจะสร้างระบบการเมืองที่จีรังยั่งยืนได้ โดยสถาปนาตนเอง เป็น "วิศวกรการเมือง" หรือ "วิศวกรสังคม" หรือ political engineer หรือ social engineer ที่จะสร้างสังคมที่ไม่มีชนชั้น สร้างระบบการเมืองที่นำไปสู่การแตกสลายของ "รัฐ" เพราะรัฐเป็นสิ่งชั่วร้าย หรือการสร้างรัฐในอุดมคติ แต่ในที่สุด วิศวกรการเมืองก็ล่มสลาย รัฐในอุดมคติก็ไม่เกิด
การจะมีสภาพัฒนาการเมือง แผนพัฒนาการเมือง แผนพัฒนาประชาธิปไตย ก็ไม่ได้ทำให้การเมืองพัฒนาเป็นประชาธิปไตยขึ้นมาได้ ประชาธิปไตยนั้นสร้างขึ้นโดยวิศวกรการเมืองหรือแผนพัฒนาการเมืองไม่ได้ แต่ประชาธิปไตยถูกทำลายถูกขัดขวางถูกกีดกั้นได้ หรือแม้แต่จะปฏิรูปปฏิวัติให้ก็เกิดขึ้นไม่ได้
ประชาธิปไตยนั้นจะเกิดขึ้นได้โดยการพัฒนาไปเองโดยธรรมชาติแล้วก็จะเกิดวิวัฒนาการเป็นประชาธิปไตย ถ้าปล่อยให้ระบบการเมืองเป็นไปอย่างเสรี ปล่อยให้ประชาชนมีสิทธิ เสรีภาพ เสมอภาพ และภราดรภาพ ภายใต้กฎระเบียบ ภายใต้กฎหมายโดยการบริหารจัดการของ "รัฐ" แม้ว่า "รัฐ" จะเป็นสิ่งชั่วร้ายแต่ก็ยังจำเป็นต้องมี เพราะมนุษย์แม้จะเป็นสัตว์สังคมแต่ก็เป็นสัตว์การเมืองด้วย มีความโลภ อยากมีอำนาจเหนือผู้อื่นเพื่อประโยชน์ในการแบ่งงานกันทำ เพราะมีร่างกาย มีมันสมอง มีจิตใจเหมือนกัน ไม่เหมือนสัตว์สังคมอย่างอื่น เช่น ผึ้ง มด ปลวก ที่มีการแบ่งงานกันทำโดยธรรมชาติของกายภาพไม่มีมันสมองและจิตใจ "รัฐ" จึงเป็นเครื่องมือที่จะทำให้สังคมมนุษย์อยู่ได้ไม่สูญสลาย
แต่ "รัฐ" ควรมีอำนาจอย่างจำกัด ปล่อยให้ประชาธิปไตยพัฒนาตัวเองซึ่งอาจจะมีต้นทุนที่สูง แต่มนุษย์เป็นสัตว์ที่เรียนรู้ได้เร็ว ถ้าเป้าหมายหรือจุดหมายปลายทางชัดเจน มนุษย์ก็จะพัฒนาไปสู่ระดับที่สามารถปกครองตนเองได้ สังคมโดยส่วนรวมจะขจัดอุปสรรคที่กีดขวางของมันไปเอง
ในการชุมนุมของคนกรุงเทพฯและคนภาคใต้ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ถ้าเป็นการชุมนุมโดยสงบ เปิดเผย ปราศจากอาวุธ และไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ก็ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไร ปล่อยให้ชุมนุมไป แล้วรับข้อเสนอข้อเรียกร้องมาดำเนินการในระบอบของประชาธิปไตย เช่น ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนทั้งประเทศตัดสิน ก็เป็นการสนองตอบเสียงของประชาชนฝ่ายข้างน้อยในกรุงเทพฯและภาคใต้
ขณะเดียวกัน การชุมนุมก็ต้องเป็นไปอย่างสงบสันติ ไม่ใช้วิธีรุนแรงและไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นที่ไม่เห็นด้วย การละเมิดสิทธิเสรีภาพผู้อื่นไม่ใช่แต่สิทธิเสรีภาพทางร่างกายเท่านั้น รวมถึงสิทธิเสรีภาพทางจิตใจด้วย แต่บัดนี้เข้าใจว่าการชุมนุมของเสียงข้างน้อยจะเกินเลยไปถึงการบุกสถานที่ราชการ ทำลายทรัพย์สินของบุคคลและราชการ การใช้วาจาข่มขู่ ขู่เข็ญ ซึ่งเป็นการใช้เกินกรอบของกฎหมายและระบอบประชาธิปไตยแล้ว แต่ถ้าเชื่อว่ามนุษย์ปรับตัวได้ ปกครองตัวเองได้ มีจิตใจดีงาม ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ช้าการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วยกรอบของประชาธิปไตยก็คงจะค่อยๆ หายไปเอง เมื่ออารมณ์ขุ่นมัวค่อยๆ หายไปเองในระยะยาว เพียงแต่ควรระวังอย่าให้มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นในระยะสั้นๆ นี้
กระแสเรียกร้องให้มี "การปฏิรูป" การเมืองกำลังเป็นกระแสที่เชี่ยวกราก จะอยู่ในสังคมได้ก็ต้องโอนอ่อนไปตามนั้น แม้ว่าจะเป็นเพียง "ข้ออ้าง" ของฝ่ายชุมนุมต่อต้านซึ่งทำโดยพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็ต้องโอนอ่อนผ่อนตามไปก่อน เพราะไม่เสียหายอะไร เคยเสียเงิน 2-3 พันล้านบาท เสียเงินตั้งสภาปฏิรูปการเมืองมาแล้วก็ยังทำได้ แต่การเมืองนั้นจะปฏิรูปปฏิวัติให้เป็นประชาธิปไตยนั้นทำไม่ได้
ค่าใช้จ่ายที่เคยจ่ายไปหลายพันล้านเพื่อการนี้ก็ถือเสียว่าเป็นการซื้อ "ความสุข" ให้กับคนชั้นสูงและชั้นกลางในกรุงเทพฯก็แล้วกัน จะได้หายหงุดหงิด ส่วนคนต่างจังหวัดก็ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย มีเลือกตั้งเมื่อไหร่เขาก็รู้ว่าเขาจะเลือกใคร
ที่น่าจะปฏิรูปหรือปฏิวัติตัวเองมากที่สุด ก็คือพรรคการเมืองพรรคใหญ่ 2 พรรค 2 ขั้ว พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ที่หนักหน่อยคงจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่จิตสำนึก วิสัยทัศน์ วิธีคิดวิธีทำ การวางตัว เพราะเท่าที่ผ่านมา ไม่ได้แสดงเลยว่าเป็นพรรคที่สนับสนุนวิวัฒนาการหรือพัฒนาการประชาธิปไตย ตรงกันข้ามกลับใช้วาทกรรมเป็นหลัก แต่เป็นวาทกรรมที่เป็นเท็จหรือครึ่งจริงครึ่งเท็จ ส่งเสริมให้ผู้คนละเมิดกฎหมาย ละเมิดศีลธรรม จริยธรรมทางการเมือง สร้างวัฒนธรรมที่ไม่เป็นประชาธิปไตย สนับสนุนการแทรกแชงทางการเมืองของทหาร เน้นความเป็นภูมิภาค ทำให้ภูมิภาคอื่นเอาอย่างบ้าง ไม่สร้างสรรค์ ทำทุกอย่างที่ประณามคนอื่น ไม่ค่อยเข้าถึงคนรากหญ้า เป็นพรรคการเมืองปิด แม้จะเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ เป็นสถาบันแต่ก็เป็นสถาบันของคนหยิบมือเดียวในพรรค ไม่ต่างอะไรกับพรรคครอบครัวเป็นพรรคที่ยังยึดถึงบุคคล
สำหรับพรรคเพื่อไทย เห็นชัดเจนว่าเป็นพรรคครอบครัวอย่างเปิดเผย เป็นพรรคที่ยึดถือตัวบุคคล เงินทุนที่สนับสนุนพรรคกระจุกตัวอยู่กับครอบครัวที่เป็นเจ้าของพรรค แต่ดำเนินนโยบายลงสู่มวลชนระดับรากหญ้า ที่ชนะพรรคประชาธิปัตย์ก็มีอยู่อย่างเดียวคือเข้าถึงประชาชนระดับล่างทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ด้วยการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาในนโยบายที่ใช้หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งได้ใจคนต่างจังหวัดอย่างน้อยก็อีกหลายปี ตราบใดที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นคู่แข่ง
แต่พรรคเพื่อไทยก็ต้องการปฏิรูปให้พ้นจากภาพการเป็นพรรคครอบครัว ซึ่งน่าจะทำได้ง่ายกว่าพรรคประชาธิปัตย์ พัฒนาให้พรรคเป็นสถาบัน เป็นพรรคที่มีฐานประชาชนเป็นเจ้าของ เคยได้ยินว่าจะให้สมาชิกพรรคในเขตต่างๆ เลือกผู้สมัครในนามของพรรคในเขตต่างๆ อย่างที่อเมริกาเขาเรียกว่า primary election จัดทำโดยพรรคทั้ง 2 พรรคใหญ่ของเขา ถ้าพรรคเพื่อไทยเริ่มทำก็จะเป็นแรงกดดันให้พรรคปฏิรูปเร็วขึ้น โดยไม่ต้องถูกสั่งจากข้างบน
การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่ต้องทำทุกองค์กร สมัยหนึ่งพรรคกรรมกรของอังกฤษแพ้พรรคอนุรักษ์นิยมของมาร์กาเร็ต แธตเชอร์ ตลอด เพราะรัฐบาลแธตเชอร์ปราบสหภาพแรงงานถ่านหินสำเร็จและดำเนินนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นตัวถ่วงความเจริญทางเศรษฐกิจสำเร็จ พรรคกรรมกรก็ต้องปฏิรูปตัวเอง เลิกเป็นสังคมนิยม เลิกนโยบายสนับสนุนสหภาพแรงงาน ในที่สุดอีก 17 ปี ก็ชนะเลือกตั้งได้กลับมาเป็นรัฐบาล
ประชาธิปัตย์ควรจะดูเป็นตัวอย่างก่อนจะล่มสลายไป
(ที่มา:มติชนรายวัน 23มกราคม 2557)
Admin : Chanya
Admin : admin
view
:
991
Post
:
2014-01-24 10:44:31
เรื่องราวใหม่ๆ
- ถุงซองนิโคติน (Nicotine Pouches) คืออะไร!?
- Snus (สนูส) คืออะไร!?
- โน๊ตบุ๊คและโน๊ตบุ๊คเล่นเกมแตกต่างกันอย่างไร เลือกใช้ยังไงให้เหมาะสม
- depa x TGA ดีป้า (depa) จับมือ ทีจีเอ (TGA ) บูรณาการความร่วมมือ ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมเกม (Digital Content)
- กิจกรรมการอบรมการถ่ายภาพเบื้องต้น WORLD YOUTH PHOTOGRAPHER WORKSHOP
ร่วมแสดงความคิดเห็น