การประชุมใหญ่วิสามัญ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกได้ซักถามและเสนอแนะเกี่ยวกับข้อบังคับใหม่ตามโครงสร้างการปฏิรูปพรรค โดยนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ ผู้ผลักดันการปฏิรูปพรรคเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเพิ่มข้อความให้ตัวแทนสาขาพรรคร่วมเป็นคณะกรรมการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีทั้งสิ้น 15 คน เพื่อให้สาขาพรรค ได้ร่วมตัดสินใจ โดยระบุว่า พรรคต้องเปลี่ยนวัฒนธรรมโดยใช้ที่ประชุมใหญ่นี้พิจารณาเรื่องนี้การสรรหาคือการให้ความยุติธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าเราจะจัดตั้งรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพก็จะเป็นที่ยอมรับและที่ต้องเสนอเรื่องนี้กลางที่ประชุมใหญ่เพราะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคไม่ทัน

 

เมื่อเริ่มการประชุม นายอลงกรณ์ เสนอเสร็จ ทำให้บรรยากาศในที่ประชุมเป็นอย่างตึงเครียด โดยนายอภิสิทธิ์ถึงกับเสนอว่า ถ้าจะทำตามข้อเสนอของนายอลงกรณ์ ก็ต้องพักการประชุมใหญ่นี้ เพื่อเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคทันที ขณะที่ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส. สมุทรสงคราม ตัดบท เสนอว่าให้ที่ประชุมใหญ่รับรองข้อบังคับนี้ไปก่อน หากจะแก้ไข ควรให้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เข้ามาดำเนินการ

 

 

อย่างไรก็ตามนายอลงกรณ์ ยังคงยืนยันว่า จะให้ที่ประชุมใหญ่พิจารณาเพิ่มข้อความตามที่เสนอโดยขอร้องให้นายอภิสิทธิ์ ฟังข้อเสนอจากตนบ้าง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ พยายามไกล่เกลี่ยว่า ข้อบังคับที่กรรมการบริหารพรรคเสนอมาเปิดกว้างให้ตัวแทนสาขาพรรคมีส่วนร่วมในคณะกรรมการทุกคณะอยู่แล้วหากเพิ่มข้อความตามที่ นายอลงกรณ์เสนอ ก็คงมีผู้เสนอให้เพิ่มข้อความให้มีตัวแทนส.ส. และ กลุ่มอื่นๆ เข้าไปด้วย

 

บรรยากาศเริ่มตึงเครียดมากขึ้น ทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคถึงกับลุกขึ้นมาให้ความเห็นว่า ที่ผ่านมากรรมการบริหารพรรคจะเป็นคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยสาขาพรรคจะไม่มีส่วนร่วม แต่การแก้บังคับครั้งนี้ถือเป็นการเปิดกว้างให้ส่วนอื่นเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นดังนั้นเราควรทำให้เรื่องนี้สำเร็จ โดยไม่ควรทำให้เลอะเทอะ ตนรู้ดีว่า นายอลงกรณ์หวังดี แต่ถ้าให้ใส่ตัวแทนกลุ่มต่าง ๆ ไปหมด แทนที่จะมีประโยชน์กลับจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการบริหารองค์กร เราไม่มีเวลาช้าไปกว่านี้แล้ว และควรทำให้ข้อบังคับนี้มีผลในทางปฏิบัติได้จริง

 

จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้สรุปว่า ตนขอเสนอให้เพิ่มถ้อยคำเข้าไปว่า ขอให้มีการคำนึงถึงตัวแทนของสาขาพรรคจากนั้นที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติข้อบังคับพรรคใหม่ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกทุกคนที่ร่วมกันพัฒนาพรรค แม้พรรคจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านในสภาก็ตาม

 

ทั้งนี้ภายหลังจากที่ได้เสร็จสิ้นวาระเกี่ยวกับข้อบังคับพรรคเสร็จสิ้นแล้ว ทางที่ประชุมพรรคได้เลือกให้นายอภิสิทธิ์  เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต่อเป็นสมัยที่  3  โดยไร้คู่แข่งด้วยคะแนน 98.006 % จากผู้มีสิทธิ์ทั้งสิ้น 328 คน

 

 

 

ADMIN : Mo Malaysia
SOURCE : Daily News