ตำรวจจับกุม 2 ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์และเผารถบัสหน้ารามฯได้แล้ว
2013-12-11 21:19:01
เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม 2 ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์และเผารถบัสหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงได้แล้ว เหลือหลบหนีอีก 1 ราย หลังมีภาพปรากฎตามสื่อระบุตัวตนชัดเจน
 
 
          เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันนี้ (11 ธันวาคม 2556) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา สบ.10 เปิดเผยภายหลังประชุมกับ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เพื่อเร่งสืบคดีการชุมนุมทางการเมืองที่มีการฆ่าและวางเพลิงเผารถ บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง เหตุเกิดช่วงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 ถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2556 ว่า ด้านการสอบสวนมีคดีที่สำคัญ 5 คดี เป็นกรณีมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 4 คดี และกรณีพบศพผู้เสียชีวิตในรถบัส 1 คดี และคดีอื่น ๆ ได้แก่ คดีพยายามฆ่า ทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ และวางเพลิงเผาทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายรวมทั้งหมด 19 คดี
 
         โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อสืบสวนสอบสวนออกเป็น 3 ส่วน คือ 
 
1. คณะกรรมการด้านการสืบสวน นำโดยพลตำรวจโท หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 และ พลตำรวจตรี รณศิลป์ ภู่สาระ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมทีมงานจากตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจนครบาล เข้ามาดูแลเรื่องการสืบสวนโดยเฉพาะ 
 
2. คณะกรรมการด้านการสอบสวน นำโดยพลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ ได้เข้ามากำกับดูแลด้วยตนเอง และมอบหมายให้ พลตำรวจตรี วิทยา ประยงค์พันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 เป็นหัวหน้ากำกับดูแลเรื่องสำนวนการสอบสวน ดังนี้
 
2.1 คดีสำคัญ 5 คดี ได้แก่
- คดีที่มีผู้เสียชีวิตจากการถูกยิง 4 คดี และ
- คดีที่มีผู้เสียชีวิตจากเพลิงไหม้ในรถโดยสารจำนวน 1 คดี
 
2.2 สำหรับคดีอื่นๆที่ได้รับคดีไว้แล้วอีก 19 คดี ได้แก่ 
- คดีพยายามฆ่ากรณีถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 8 ราย 
- ทำร้ายร่างกาย 8 ราย 
- ทำให้เสียทรัพย์ 2 ราย และ
- วางเพลิง 1 ราย
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
พลตำรวจเอก จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษาสัญญาบัตร10 แถลงข่าวความคืบหน้าคดีไฟไหม้รถโดยสารปรับอากาศ บริเวณหน้าการกีฬาแห่งประเทศไทย ติดกับมหาวิทยาลัยรามคำแหง เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา 
 
โดยเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเข้าไปวางเพลิงเผาทรัพย์รถโดยสารปรับอากาศ และมีผู้เสียชีวิต โดยภาพจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ปรากฏภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ มีลักษณะการสวมใส่เสื้อผ้าตามที่ปรากฏตามภาพข่าว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ภาพเพิ่มเติมจากพลเมืองดี พบว่าบริเวณโดยรอบรถโดยสารปรับอากาศก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้นั้น มีชายฉกรรจ์อยู่บริเวณดังกล่าวจำนวนนับสิบคน โดยตำรวจได้นำภาพดังกล่าวมาขยายผล จะปรากฎภาพชาย 3 คน คนหนึ่งอุ้มโทรทัศน์ คนที่สองอุ้มเครื่องขยายเสียง และคนที่สาม ถือเครื่องขยายเสียงและชุดไมโครโฟน 
 
ซึ่งจากการสืบสวนติดตาม ทำให้ทราบว่า ชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คน นั้นประกอบด้วย นายเบนซ์ นายต้าร์ นายหรั่งหรือจิมมี่ ซึ่งต่อมาสามารถจับกุมได้ในที่สุด โดย นาย อดิสรณ์ สีจันทร์ผ่อง หรือ นายต้าร์ อายุ 29 ปี ซึ่งจากการตรวจค้นบ้านในซอยวัดเทพลีลา พบเครื่องขยายเสียง ซึ่งเป็นของกลางที่ได้มาจากรถโดยสารปรับอากาศก่อนเกิดเพลิงไหม้ซ่อนไว้ในตุ่ม นอกจากนี้ยังตรวจพบเสื้อผ้า-กางเกงยีนส์ ที่ปรากฎในภาพในวันเกิดเหตุ ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันชัดเจน นอกจากนี้รถจักรยานยนต์ที่พบในภาพ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตรวจยึดเพื่อขยายผล ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเข้าไปลักทรัพย์ พร้อมทั้งตรวจพบเสื้อผ้าในวันเกิดเหตุในตู้เสื้อผ้า โดยได้ส่งตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว 
 
ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ได้เข้าไปร่วมในที่เกิดเหตุ ในรถที่เกิดเพลิงไหม้ แต่ยังคงให้การภาคเสธในส่วนการวางเพลิงเผาทรัพย์ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาวางเพลิงเผาทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย รวมถึงคดีลักทรัพย์ด้วย 
 
Credit : Policespokesmen
Admin : Chanya

Admin : admin
view
:
2464

Post
:
2013-12-11 21:19:01


ร่วมแสดงความคิดเห็น